Samsung และ Apple เป็นสองแบรนด์ใหญ่ที่เหมือนเป็นคู่หูคู่แค้นที่แข่งขันกันตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่าน ล่าสุดการเปิดตัว Galaxy S9 และ Galaxy S9+ ก็แน่นอนว่า ต้องมีหลายคนที่ต้องการนำไปเปรียบเทียบกับ iPhone X ว่า รุ่นไหนดีกว่าหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ฟีเจอร์บางอย่างมีเฉพาะใน iPhone X บางอย่างมีเฉพาะใน Samsung Galaxy S9/S9+ และก็มีบางอย่างที่ทั้งคู่มีร่วมกัน แต่สิ่งที่เราจะเน้นในบทความนี้คือ “ปัจจัย 5 ข้อที่อาจทำให้คุณชอบ Samsung Galaxy S9/S9+ มากกว่า iPhone X” ครับ

1. Always-on display (หน้าจอ Always-on)

หน้าจอของ Samsung มาพร้อมฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาซึ่งก็คือ Always on display ซึ่งจะแสดงข้อมูลรายวันที่ เวลา แบตเตอรี และโนติฟิเคชันตลอดเวลาในช่วงที่เราไม่ได้ใช้งานสมาร์ทโฟน

ประโยชน์ของฟีเจอร์ Always on display ช่วยทำให้เราสามารถทราบรายละเอียดดังกล่าวได้โดยไม่ต้องกดปุ่ม power บนหน้าจอ เช่น เมื่อเราตื่นนอนแล้วอยากรู้เวลาว่ากี่โมงแล้ว เราก็สามารถรู้ทันที โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ ครับ

2. More flexibility (ฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน)

มีฟีเจอร์ 3 อย่างที่ทำให้ Galaxy S9 สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ได้แก่ เซนเซอร์สแกนนิ้วมือ, สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้จาก microSD, และมีรูหูฟัง 3.5 มม.

ผู้ใช้ยังสามารถเลือกซื้อหูฟังแบบใดก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องพกอแดปเตอร์ติดตัวตลอดเวลา นอกจากนั้นระบบสแกนนิ้วมือยังช่วยเพิ่มตัวเลือกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากใช้ระบบสแกนใบหน้าเหมือน iPhone X และไม่อยากนั่งใส่รหัสผ่านเพื่อปลดล็อกสมาร์ทโฟน ถึงแม้ว่า Face ID จะใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม แต่ก็มีบางครั้งที่สแกนหน้าไม่ผ่าน และต้องเสียเวลาเพื่อใส่รหัสผ่าน

ตำแหน่งเซนเซอร์สแกนนิ้วมือของ Galaxy S9 เปลี่ยนมาอยู่ตรงกลางข้างใต้กล้องหลัง ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้นยิ่งกว่ารุ่นก่อน และทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าสู่หน้าโฮมได้ง่าย

3. Low-light camera (กล้องสำหรับพื้นที่แสงน้อย)

ใครๆ ต่างก็รู้ว่า iPhone X เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ใช้ถ่ายรูปได้สวยที่สุด สามารถถ่ายภาพที่มีความคมชัดและเก็บรายละเอียดได้อย่างดีเยี่ยม และบางครั้งอาจดีกว่าสมาร์ทโฟนจาก Samsung ด้วยซ้ำ แต่ข้อดีของ Galaxy S9+ คือสามารถถ่ายภาพในพื้นที่แสงน้อยได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด หากเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ Galaxy S9+ จะได้รูปที่คมชัด มีคุณภาพ และมีนอยซ์น้อยกว่า เพราะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่สามารถควบคุมรูรับแสงได้ระหว่าง f/1.5 และ f/2.4

ข้างล่างนี้คือตัวอย่างภาพในที่แสงน้อยของทั้ง 3 รุ่นครับ

Samsung Galaxy S9+

Apple iPhone X

Samsung Galaxy S8

4. Multi-tasking (ระบบการทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน)

ในปัจจุบันเราไม่ได้ใช้มือถือแค่สำหรับการโทรออกเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันมือถือหนึ่งเครื่องสามารถเป็นได้ทั้งแผนที่ สมุดจดบันทึก การส่งข้อความ เครื่องเกม ทีวี หรือหนังสือสำหรับหาความรู้ นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันมากมายที่แทบทุกคนต้องใช้งานไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, Youtube หรือ Instagram เป็นต้น ผู้ใช้จึงต้องมีการสลับไปมาระหว่างฟังก์ชันเหล่านี้ แม้ Apple จะมีระบบที่เสถียรและมีความรวดเร็ว แต่ Samsung กลับไปไกลกว่านั้น โดยมีระบบ multi-tasking ที่ทำให้สามารถเปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันมากกว่า 1 อย่างและใช้งานพร้อมๆ กันได้ครับ

5. The curved screen (หน้าจอขอบโค้ง)

ทั้ง 2 รุ่นต่างมีหน้าจอขนาดใหญ่ และแทบจะเรียกได้ว่า “จอไร้ขอบ” แต่ Samsung Galaxy S9 มีการออกแบบที่มีต้นแบบมาจาก Galaxy S8/Note 8 ซึ่งมีขอบจอโค้ง ทำให้ดูมีความหรูหรา และรู้สึกดีเมื่อถืออยู่ในมือ นอกจากนี้ Galaxy S9 ยังไม่มี “รอยแหว่ง” บริเวณด้านบนหน้าจอ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ชอบการออกแบบ iPhone X

อ้างอิง