เว็บไซต์ PhoneArena.com ได้รายงานข้อมูลที่หลุดออกมาล่าสุดสำหรับ iPhone 12 ของ Apple ที่จะเปิดตัวในปี 2020 นี้ โดยข้อมูลดังกล่าวได้การเปิดเผยโดยเจ้าพ่อข่าววงใน Max Weinbach จาก XDA และและช่อง YouTube ที่มีชื่อว่า EverythingApplePro

สิ่งที่น่าสนใจคือ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะมีหน้าจอ ProMotion ที่รองรับอัตรา Refresh Rate ที่ 120 Hz

  • ปล. Apple ได้ใช้จอ ProMotion มาตั้งแต่ iPad Pro ที่เปิดตัวเมื่อปี 2017 โดยรองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอได้ 120 ครั้งต่อวินาที ซึ่งจะทำให้ภาพที่เคลื่อนไหวบนหน้าจอนั้นดูเรียบเนียนตามากขึ้น

รายงานดังกล่าวระบุว่า หน้าจอ ProMotion สำหรับ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max นั้น จะสลับอัตรา Refresh Rate ที่ 60 Hz และ 120 Hz โดยขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่แสดงอยู่ ณ เวลานั้น

Play video

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Apple มีแผนจะเพิ่มขนาดความจุของแบตเตอรี สำหรับ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น ที่จะเปิดตัวในปี 2020 นี้ เนื่องจากการเชื่อมต่อ 5G และเปิดใช้งานบนหน้าจอ ProMotion นั้น จำเป็นต้องใช้พลังงานแบตเตอรีเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า iPhone 12 Pro Max อาจมีแบตเตอรีขาด 4,400 mAh (เพิ่มขึ้น 10.9% จาก iPhone 11 Pro Max)

ในส่วนของกล้องนั้น มีรายงานว่าจะยังคงมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เช่นเดิม (กล้อง 64 ล้านพิกเซล ยังไม่พร้อมใช้งาน) โดย iPhone 12 และ iPhone 12 Plus จะมาพร้อมกล้องหลักที่เป็นเลนส์ Wide แบบมาตรฐาน และกล้องเลนส์ Ultrawide ส่วน iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max นั้น จะเพิ่มกล้องเลนส์ Telephoto ที่ซูมแบบ Optical โดยไม่เสียรายละเอียดได้ 3x และเซนเซอร์ LiDar ที่ใช้กับ iPad Pro รุ่นล่าสุด โดยจะช่วยการวัดระยะของภาพเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ Bokeh และเพิ่มศักยภาพด้าน AR

รายงานดังกล่าวระบุเพิ่มเติมว่า เลนส์กล้องของ iPhone 12 Pro นั้น จะมีขนาดใหญ่ขึ้น 5 มม. ซึ่งคาดว่าจะได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย และมีออโตโฟกัสเร็วขึ้น 2 – 3 เท่า และยังปรับปรุงความเสถียรของภาพดว้ยเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Sensor-Shift Image Stabilization

iPhone 12

นอกจากนี้ยังมีข้อมุลอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้

  • iPhone 12 จอ 5.4 นิ้ว, iPhone 12 Plus จอ 6.1 นิ้ว, iPhone 12 Pro จอ 6.1 นิ้ว, iPhone 12 Pro Max จอ 6.7 นิ้ว
  • ใช้ชิปเซ็ต A14 Bionic ที่ผลิตด้วยเทคโนโล 5 นาโนเมตร เป็นรุ่นแรกสำหรับสมาร์ตโฟน โดยมีทรานซิสเตอร์มากถึง 15,000 ล้านตัว (มากกว่าชิปเซ็ต A13 Bionic ทีมีทรานซิสเตอร์ 8,500 ล้านตัว) ซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย
  • iPhone 12 และ iPhone 12 Plus จะมีแรม 4 GB, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะมีแรม 6 GB
  • รองรับ 5G ทั้งความถี่แบบ Sub-6GHz ไปจนถึง mmWave
  • พัฒนาไมโครโฟน โดยมาพร้อมฟีเจอร์ Audio Zoom
  • กลับมาใช้ดีไซน์ตัวเครื่องแบน และขอบตัดคม เช่นเดียวกับ iPhone 5
  • ส่วนเว้าด้านบนหน้าจอมีขนาดเล็กลง
  • เพิ่มสีใหม่อย่าง Navy Blue สำหรับ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max

ข้อมูลอ้างอิง : phonearena

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส