ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ประกาศผลทีมผู้ชนะการแข่งขันรายการอิมเมจิ้นคัพ ประเทศไทย 2017 (Imagine Cup Thailand 2017) โดยทีม Welse จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีได้รับชัยชนะท่ามกลางการแข่งขันอย่างเข้มข้น หลังจากผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 7 ทีมสุดท้าย จากทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 100 ทีมทั่วประเทศ ทีม Welse นำเสนออุปกรณ์ไอโอทีแบบพกพาที่ช่วยสร้างการทดสอบเชิงคลินิก (Clinical Test) ของเลือด และส่งผลไปยังแอพพลิเคชั่น เพื่อการวิเคราะห์ต่อไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการสื่อสารและอำนวยความสะดวกในเรื่องการทำงานให้กับเครือข่ายอาสาสมัครและสถานีอนามัยท้องถิ่น

นางสาวศิริพร พัชรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “เรากำลังเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือยุคที่การปฏิรูปธุรกิจด้วยดิจิทัล ได้ทำให้เส้นแบ่งแยกระหว่างโลกทางกายภาพ ชีวีภาพและดิจิทัลแทบจะมองไม่เห็น”

จากรายชื่ออาชีพติดอันดับที่ดีที่สุดในด้านความก้าวหน้าในอาชีพและเงินเดือนในปี 2017 เผยแพร่โดย LinkedIn[1] พบว่า อาชีพ 20 อันดับแรกเป็นอาชีพที่ล้วนต้องใช้ทักษะทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์  นอกจากนี้ World Economic Forum[2] พบว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ ทำให้ในอีก 5 ปีข้างหน้า อาชีพในสาขาสะเต็ม – STEM: Science (วิทยาศาสตร์) Technology (เทคโนโลยี) Engineering (วิศวกรรมศาสตร์) Mathematics (คณิตศาสตร์) จะเป็นอาชีพที่มีการเติบโตเร็วที่สุด

“เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ประเทศไทยจำเป็นต้องเน้นย้ำการเสริมสร้างทักษะทางเทคโนโลยีและการคิด วิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผล ให้กับแรงงานไทยในอนาคต พร้อมจุดประกายเยาวชนให้สามารถสร้างทักษะใหม่ๆและทำให้มันเติบโตได้ และจากการสำรวจล่าสุดของไมโครซอฟท์เกี่ยวกับ อนาคตด้านดิจิทัลในเอเชีย (Microsoft Asia Digital Future Survey) พบว่า 70% ของเยาวชนไทยรู้สึกถึงความพร้อมของประเทศที่มีต่อการเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะพลิกรูปแบบการดำเนินชีวิต เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การแข่งขันอิมเมจิ้นคัพ จะเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับคนรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาทักษะด้านสะเต็ม (STEM) และเสริมสร้างการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์ พร้อมผลักดันเยาวชนให้เป็นผู้คิดริเริ่ม ด้วยเหตุนี้เอง อิมเมจิ้นคัพ 2017 จึงมองหาการบูรณาการของเทคโนโลยีในรูปแบบของอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นที่สามารถพลิกแนวทางการใช้ชีวิตในปัจจุบันและอนาคตได้” นางสาวศิริพร กล่าวเสริม

ผู้นำด้านธุรกิจในประเทศไทยและในภูมิภาคตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับใช้และก้าวเข้าสู่ยุคการปฏิรูปธุรกิจด้วยดิจิทัล ผลสำรวจล่าสุดของไมโครซอฟท์ เผยว่า 89% ของผู้นำภาคธุรกิจไทย เห็นว่า ทุกองค์กรจำเป็นต้องปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลเพื่อผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่ในขณะเดียวกัน กลับมีองค์กรเพียง 29% ที่มีกลยุทธ์ด้านดิจิทัลเต็มรูปแบบเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ เนื่องจากทุกอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ การศึกษาครั้งนี้ ยังพบว่า องค์กรในประเทศไทยเริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง โดยเน้นการแลกเปลี่ยนความรู้และการทำงานร่วมกันในโลกดิจิทัล เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

ผลการสำรวจดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ทักษะทางเทคโนโลยีเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับยุคการปฏิรูปธุรกิจด้วยดิจิทัล ดังนั้น การเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นให้กับนักเรียน นักศึกษา เพื่อการแข่งขันในตลาดแรงงานในอนาคตจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

ดร. อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตระหนักดีถึงความสำคัญของสาขาวิชาสะเต็มศึกษา และเราก็มีความยินดีที่ได้เห็นไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์ความรู้ของเยาวชนในด้านดังกล่าวผ่านทางการแข่งขันอิมเมจิ้นคัพ”

“อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในการพัฒนาทักษะด้านสะเต็มคือการมีวิสัยทัศน์ และการประสานพลังร่วมกันในด้านการพัฒนาบุคลากร ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนประเทศผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรม การแข่งขันอิมเมจิ้นคัพจึงเป็นเวทีชั้นยอดในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะที่สำคัญสำหรับนักคิดแห่งอนาคต ซึ่งปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 15 แล้ว โดยเยาวชนไทยสามารถแสดงศักยภาพให้ปรากฏบนเวทีระดับโลก และนำความภาคภูมิใจมาสู่ประเทศไทยได้ด้วยการคว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาครองถึง 4 สมัย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ดิฉันหวังว่าการแข่งขันที่เป็นประโยชน์เช่นนี้จะอยู่คู่กับเยาวชนไทยต่อไป เพื่อแสดงถึงความร่วมมือระหว่างสองภาคส่วนที่แข็งแกร่งในการสร้างเวทีให้เยาวชนแสดงออกถึงความสามารถเชิงนวัตกรรม ที่เข้ากับยุคสมัยแห่งเทคโนโลยี ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ผ่านความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย”

“ไมโครซอฟท์รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปทางธุรกิจด้วยดิจิทัลในประเทศไทย โดยการสนับสนุนและบ่มเพาะคนรุ่นใหม่มากความสามารถที่จะมาเป็นผู้นำในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่จะได้เห็นเยาวชน คนรุ่นใหม่ก้าวเข้ามาสร้างสรรค์เทคโนโลยีในอนาคต โดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันรู้สึกยกย่องในความสามารถและความมุ่งมั่นของน้องๆ ที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมผ่านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม” นางสาวศิริพร กล่าวสรุป

ทีม Welse จะได้รับรางวัล ถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันอิมเมจิ้นคัพ ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ ประเทศฟิลิปินส์ ในวันที่ 24 เมษายน 2560 และจะร่วมแข่งขันกับทีมจากประเทศอื่นๆ อีก 9 ประเทศ เพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนของภูมิภาคไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ณ กรุงซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2560 นี้ โดยเยาวชนมากความสามารถจากทั่วโลกจะมาร่วมแข่งขันเพื่อชิงถ้วยอิมเมจิ้นคัพ และเงินรางวัลมูลค่า 100,000 เหรียญสหรัฐ