[รีวิวเกม] Yo-kai Watch 3: Sukiyaki นาฬิกาปราบผีฉบับอัพเกรดให้สนุกยิ่งขึ้น
Our score
8.1

Yo-kai Watch 3: Sukiyaki

จุดเด่น

  1. มีฉากใหม่ และภารกิจใหม่ให้เล่น
  2. เกมหลักยังคงสนุกเหมือนเดิม
  3. มีผีตัวใหม่ๆ

จุดสังเกต

  1. เป็นเกมเฉพาะกลุ่มต้องชอบแนว RPG จริงๆ
  • กราฟิก

    8.0

  • เกมเพลย์

    8.5

  • ความแปลกใหม่

    8.0

  • ความคุ้มค่า

    8.0

  • ภาพรวม

    8.0

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเกม RPG จากแดนปลาดิบไม่ค่อยเป็นที่นิยมเหมือนยุคก่อนนัก แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นเองที่พักหลังเกมดังๆล้วนทำยอดขายไม่เข้าเป้า ไม่ว่าจะเป็น Final Fantasy 15 หรือ Star Ocean แต่บนเครื่องเกมพกพาอย่าง 3DS ยังมีเกม RPG ที่ทำยอดขายได้หลายล้านอยู่

และหนึ่งในนั้นคือเกมซีรีส์ Yokai Watch ที่เป็นแนว เทิร์นเบส RPG ที่เป็นการนำรูปแบบของ Pokemon มาใช้แต่เปลี่ยนเป็นไล่จับผีมาร่วมทีมแทน แต่ก็ไม่ได้เหมือนทั้งหมดอย่างไรก็ตามหลังจากวางขายในญี่ปุ่น พร้อมกับทีวีซีรส์และภาพยนตร์ ก็ประสบความสำเร็จแบบถล่มทลายขายได้หลักล้านในทุกภาค และหลังจากออกภาค 3 ในชื่อ ซูชิ กับ เทมปุระ ซึ่งก็ขายดีท้งคู่ และสำหรับการมาของภาค “สุกี้ยากี้” ที่เป็นเวอร์ชั่นที่ 3 ของภาคนี้มันก็เป็นการทำมาเพื่อเอาใจแฟนๆแบบเดียวกับเกม Pokemon ที่จะเป็นเหมือนการอัพเกรดนิดหน่อยแล้วเอามาขายเพื่อเอาใจแฟนๆ

ซึ่งพื้นฐานแล้วรูปแบบการเล่นของ Yo-kai Watch 3: Sukiyaki มันคือเทิร์นเบส RPG ที่เราจะได้ท่องไปในเมืองบนฉากที่ดูจะไม่ได้กว้างใหญ่เหมือนกับเกมยุคใหม่แต่ ก็เต็มไปด้วยสิ่งที่ซ่อนอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นดวงวิญญาณหลายตนที่สิงอยู่ตามจุดต่างๆ และเราต้องใช้นาฬิกาผีนำทางไปหาไปหาตัว แต่ก็มีผีอีกหลายตัวที่จะโผล่มาให้เห็นบนแผนที่อยู่ในบริเวณที่เปลี่ยว โดยรวมแล้วมีความคล้ายกับแนว RPG ทั่วไปที่เคยนิยมในอดีต

และความโดดเด่นของซีรีส์ Yo-kai Watch จะอยู่ที่ฉากต่อสู้ที่แม้จะเป็น เทิร์นเบส RPG แต่ผู้เล่นต้องออกแรงเมื่อใช้ท่าไม้ตายพิเศษ โดยต้องใช้หน้าจอสัมผัสของ 3DS เพื่อเล่นมินิเกมสั้นๆเช่นการหมุนหน้าจอด้วยความเร็วสูง หรือเล่นสล็อตแมชชีน เพื่อทำคะแนน และหากเราทำได้สำเร็จก็จะปล่อยท่าไม้ตายที่รุนแรงได้ และภาคนี้ก็ยังคงมีอยู่ครบแม้จะไม่ค่อยมีอะไรเพิ่มเติมมาให้ประหลาดใจเท่าไรก็ตาม

ในฉากต่อสู้เราสามารถบังคับตัวละครให้เดินหน้าตามตารางที่เเบ่งเป็นช่องบนจอด้านล่าง แต่จะเดินได้จำกัด แต่มันก็จำเป็นมากเพราะเราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้ตัวละครในฉากอยู่ตรงไหนซึ่งมันจะส่งผลกับค่าพลังตอนเล่นเช่นเมื่ออยู่ด้านหน้าจะโจมตีศัตรูได้แรง แต่ในทางกลับกันเราก็โดนศัตรูโจมตีได้ง่ายกว่าอยู่ด้านหลังเช่นกัน

โดยในภาคนี้อย่างที่บอกว่ามันเป็นภาคเสริมทำให้เรื่องราวหลัก ทำให้ฉากในเกมทั้งหมดยังคงนำมาจากภาค 3 ที่มีทั้งในญี่ปุ่น และอเมริกา ที่เรื่องราวจะเดินไปพร้อมกันผ่าน 2 ตัวละคร ผู้เล่นสามารถสลับเปลี่ยนได้ตามจุด Save ทำให้เราได้พบเจอกับผี 2 สัญชาติทั้งผีฝรั่งและญี่ปุ่น ส่วนภาค Sukiyaki มีผีตัวใหม่มาให้ไล่จับกันเพียบ และด้วยการเอาใจจากผู้สร้างแม้ตัวเดิมแต่ก็ถูกปรับหน้าตาและอัพเกรดใหม่หมด และโผล่มาให้จับตั้งแต่เริ่มต้นเกมเลย

ฉากหลักๆของเกมคือเมืองที่แม้ว่าจะอยู่บนเครื่องเกมที่ออกมานานแล้วอย่าง 3DS แต่ก็ยังคงจำลองออกมาได้ดี แม้อาจจะไม่ได้มีความละเอียดมากมายเหมือนกับเกมยุคใหม่ แต่งานออกแบบศิลป์ของเกมไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าเชยเลย แถมมันเกมอุดมไปด้วยคัทซีนที่สร้างด้วยการ์ตูนคุณภาพสูง และเต็มไปด้วยเสียงพากย์ทำให้ตลอดเวลาที่เล่นเกมเหมือนได้ดูทีวีซีรีส์ไปด้วย

และเกมมีเรื่องราวเสริมที่อยู่ในภาพยนตร์ที่กำลังฉายในญี่ปุ่น แต่คนไทยอาจจะไม่อินเท่าไรเพราะหากยังไม่ได้ดูหนังก็อาจไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง และแน่นอนว่าในเมื่อมันเป็นเวอร์ชั่นเสริมทำให้มีฉากใหม่ๆเพิ่ม รวมทั้งมีภารกิจใหม่เอี่ยมที่เราต้องออกค้นหาวัตถุโบราณ แม้โดยรวมแผนที่ทั้งหมดของเกมยังคงใช้ของเดิมๆ แต่ก็มีรายละเอียดและสิ่งใหม่ๆทำให้คนที่เคยเล่นจบมาแล้วกลับมาสนุกได้อีกครั้งแบบไม่รู้สึกว่าเล่นเกมเดิมซ้ำๆ

ส่วนเสริมที่ต้องพูดถึงคือฉากพิเศษที่เป็นการล่าสมบัติในโหมด Busters ที่เหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์ Indiana Jones ที่รูปแบบการเล่นจะไม่ใช่ เทิร์นเบส RPG แต่มาในแบบแอ็คชั่น RPG คล้ายกับเกมออนไลน์ที่มีมุมมองจากด้านบน จริงอยู่ที่โหมดนี้มีมาตั้งแต่ Sushi และ Tempura แล้วแต่การกลับมาในครั้งนี้ถือว่าอัพเกรดเพิ่มเติมขึ้น มีผีตัวใหม่ๆและหน้าเดิมแต่อัพเกรด และด้วยฉากหลังที่เหมือนหลุดออกมาจากโลกโบราณยุค อียิปต์ ทำให้มีผีคลาสสิกทั้ง มัมมี่ ฟาโรห์ โผล่ออกมาในฉาก และของแถมในเกมที่เพิ่มมาคือมีฉาก ของ Yo-kai Watch Busters ในส่วนของ Sushi และ Tempura ใส่มาให้เล่นด้วยเลย

ข้อเสียหลักๆของเกมนอกจากเกมจะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆแล้ว หากคุณไม่ใช่ประจำแฟนซีรีส์ นาฬิกาปราบผี อาจจะไม่สนุกไปกับเกมได้เท่าไรเพราะมันมีความเป็นเกมเฉพาะกลุ่มที่น่ารักไม่มีความรุนแรงเหมือนเกมยุคใหม่ นอกนั้นก็แทบจะไม่มีที่ติเพราะโดยเนื้อแท้แล้วมันคือเกม เทิร์นเบส RPG ที่สนุกมากเกมหนึ่งที่มีความซับซ้อนมากกว่ากราฟิกที่ตาเห็น เพราะผีแต่ละตัวที่เราได้ยังเอามาพัฒนาได้ รวมทั้งในภาค Sukiyaki ยังเพิ่มเติม “ผีในตำนาน” ตัวใหม่ๆมาให้เราต้องไปจัดการอีก ที่มีทั้งตัวเดิมๆที่อัพเกรดเช่น Lord Enma ที่มีร่างใหม่ที่มีสามตาในภาคนี้

สรุปแล้วการกลับมาของ Yo-kai Watch 3: Sukiyaki ถือว่ายังคงความคุ้มค่า ไม่ว่าคุณจะเคยเล่นภาคหลักมาแล้วก็ตาม เพราะของใหม่ที่ใส่เข้ามาถือว่ามากพอที่จะทำให้กลับไปเล่นอีกครั้ง และหากคุณยังไม่เคยเล่นมาก่อนถือเป็นโอกาสอันดี เพราะมันคือฉบับเต็มที่มีของมาให้ครบเลย อย่างไรก็ตามหากจะมีการสร้างภาค 4 ก็อยากให้ทำภาพเป็น HD แล้วออกบน Nintendo Switch เลยน่าจะดี

ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2

Play video