[รีวิวเกม] Ultra Street Fighter 2 The Final Challengers ตำนานนักสู้กลับมาอีกครั้งบน Nintendo Switch

Our score

7.4

Ultra Street Fighter 2 The Final Challengers

จุดเด่น

1. กราฟิกดูดี กว่าที่คิด
2. เกมเพลย์สนุกแบบคลาสสิก
3. ตัวละครมากันครบ
4. ราคาถูกกว่าเกมทั่วไป

จุดสังเกต

1. ไม่ใช่เกมใหม่
2. ของที่เพิ่มมาน้อยเกินไป

• กราฟิก และงานออกแบบ

  7.5

• เกมเพลย์

  8.0

• ความแปลกใหม่

  7.0

• ความคุ้มค่า

  6.8

• ภาพรวม

  7.5

เมื่อพูดถึงเกมต่อสู้ระดับตำนาน ต้องมีชื่อของ Street Fighter 2 ที่ถือว่าเป็นเบอร์ 1 ของเกมต่อสู้ในอดีต และผ่านมากว่า 26 ปี ก็ยังคงอยู่ในใจคอเกมตลอดมา แม้ในปัจจุบันก็ยังมีคนเล่น และถือเป็นหนึ่งในเวอร์ชั่นที่ถูกสร้างซ้ำออกมาหลายภาคมากที่สุด

และล่าสุด Capcom ได้ส่ง Ultra Street Fighter 2 The Final Challengers ลงบน Nintendo Switch ที่เป็นการปลุกตำนานเกมต่อสู้ที่กลับมาแบบ HD แน่นอนว่ากราฟิกในเกมก็แทบจะยกมาจาก Super Street Fighter 2 Turbo HD Remix ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2008 บน PS3 , Xbox360 มาทำใหม่

ซึ่งถ้าคุณเคยเล่นมาก่อนก็แทบจะไม่มีอะไรน่าประทับใจอีกแล้วเพราะเหมือนเดิมเพิ่มเติมแค่เล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใครชอบแบบเดิมๆทาง Capcom ได้ใส่กราฟิกแบบต้นฉบับสมัยปี 1991 มาให้เราเลือกเปลี่ยนด้วย และสิ่งใหม่อีกอย่างคือเพลงประกอบที่ขนมาทั้งต้นฉบับสมัยเกมตู้อาเขต และ Remix ใหม่หมดเรียกว่ามากันครบสำหรับแฟนเกมทุกยุคทุกวัยกันเลย

รูปแบบการเล่นพื้นฐานแล้วคือเกมต่อสู้ 2 มิติมุมมองด้านข้างที่เหมือนเดิมทุกประการ ทั้งการกดท่าไม้ตายที่ยังคงเดิม ตัวละครก็ขนมากันครบทีมโดยไม่ต้องโหลดเพิ่ม แถมยังใส่ตัวละครเพิ่มมาทั้ง Evil Ryu และ Violent Ken ที่เหมือนเป็นการอัพเกรด 2 ตัวละครหลักของซีรีส์ ให้มีท่าไม้ตายใหม่ๆเพิ่มเติม แต่รวมๆ แล้วมันก็น้อยไปหน่อยแถมเป็นตัวเดิมมาอัพเกรดนิดหน่อย เท่านั้น

ในเมื่อเกมเพลย์หลักๆไม่มีอะไรใหม่ก็ต้องเสริมด้วยโหมดใหม่ๆ ที่ต้องพูดถึงก่อนคือ ฮาโดโหมด ที่เป็นไฮไลท์เพราะเกมจะทำให้เราได้เล่นเป็น Ryu แล้วปล่อยพลัง ฮาโดเคนด้วยการใช้ลูกเล่นของ Joy-con ที่จับความเคลื่อนไหว ที่เมื่อเราทำท่าปล่อยฮาโดเคน ตัวละครในเกมก็จะปล่อยพลังออกไปจริงๆ และยังมีท่าอื่นเช่น โชริวเคน ที่ต้องทำท่าเมื่อต่อยขึ้นด้านบน ส่วนท่าลูกเตะพายุหมุนก็ให้มือเป็นวงกลม แล้วต้องไปต่อสู้กับศัตรูที่ขนกันมาเป็นกองทัพ และมีการสู้กับบอสด้วย โดยรวมแล้วแม้จะน่าตื่นตาแต่เล่นได้ไม่นานก็เบื่อ เหมือนเป็นโหมดแถมที่โชว์ลูกเล่นของเครื่องเกมมากกว่า

ต่อด้วย Buddy Battle หรือโหมด 2 รุม 1 ที่เราจะร่วมมือกับเพื่อนต่อสู้กับศัตรู 1 ตัวที่สร้างสีสันได้เล็กน้อย ตามด้วยโหมดเล่นกับเพื่อนที่เล่นได้ทั้ง ออฟไลน์ และ ออนไลน์ ที่เป็นไฮไลท์คือเล่นกับเพื่อนได้ 2 คนโดยไม่ต้องซื้อจอยเพิ่ม เพราะเราใช้เพียง Joy-con อันเดียวก็เล่นได้ ทั้งโหมดต่อทีวีเล่น และโหมด แท็บเล็ต ส่วนโหมดออนไลน์ที่ต้องมีมาให้เล่นอยู่แล้วก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดี แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร

ส่วนมือใหม่ที่กดท่าไม้ตายไม่ค่อยเป็นในโหมดพกพา เราสามารถเลือกปล่อยท่าไม้ตายแบบง่ายๆด้วยการเลือกที่เมนูเล็กๆที่หน้าจอสัมผัสได้เลย ทำให้ท่าที่เคยกดยากเย็นสามารถเรียกใช้ได้อย่างง่ายดาย ที่เหลือก็จะเป็นโหมดเสริมเล็กน้อยเช่นการเปลี่ยนสีตัวละครได้ แต่ก็มีความละเอียดมากขนาดเปลี่ยนสีผิว หรือสีผมของตัวละครได้ด้วย ปิดท้ายกับโหมดภาพงานออกแบบศิลป์งามๆของ Street Fighter 2 มาให้แฟนๆทั้งเก่าและใหม่ให้ชมกันด้วย

ถามกันตรงๆว่าของใหม่ๆที่อยู่ในเกม Ultra Street Fighter 2 – The Final Challengers มันมากเพียงพอที่จะทำให้คอเกมควักเงินซื้ออีกรอบหรือไม่ แม้ว่าราคาเต็มๆของเกมจะไม่ได้แพงมากนักก็ตาม ก็ขอบอกกันตรงๆว่าหากคุณมีเกม Super Street Fighter II Turbo HD Remix อยู่แล้วและไม่ได้สนใจลูกเล่นใหม่ๆเช่นโหมด ฮาโด ก็คงไม่คุ้มเท่าไรนัก เพราะของที่เพิ่มมาส่วนตัวแล้วคิดว่าน้อยไปนิด และเกมเพลย์ก็แทบจะเหมือนเดิม

แต่หากคุณเป็นแฟนเกม Street Fighter มายาวนานและอยากลองปล่อยพลัง ฮาโดเคน แบบสมจริงสักครั้ง และยังเอาไปเล่นนอกบ้านกับเพื่อนๆได้ Ultra Street Fighter 2 The Final Challengers คือเกมบน Nintendo Switch อีกเกมที่ควรจะมีไว้ติดเครื่องไว้เล่นฆ่าเวลารอเกมดังๆอย่าง Arms และ Splatoon 2 ออก

ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2

Play video