[รีวิวเกม] SPELUNKY 2 เกมผจญภัยภาคต่อที่เล่นยากจนรู้สึกคุ้ม
Our score
8.5

จุดเด่น

  1. กับดักและอุปสรรคที่คาดเดาไม่ได้ทำให้ท้าทาย
  2. การตายเพื่อเรียนรู้คือเสน่ห์ของเกม
  3. มีกิมมิกฮา ๆ สอดแทรกประปราย

จุดสังเกต

  1. ไม่เหมาะกับคนความอดทนต่ำ เกมค่อนข้างยาก

SPELUNKY 2 การกลับมาของเกมตะลุยดันสุดหัวร้อน

เป็นหนึ่งในเกมที่เอาเข้ามาอยู่ในลิสต์รีวิวอย่างไม่ลังเล กับ SPELUNKY 2 เกมภาคต่อแนวผจญภัย 2D ฝ่าด่านตะลุยกับดักสุดหินจาก Mossmouth และ BlitWorks เกมนี้ขึ้นชื่อเรื่องความยากปวดประสาทที่ไม่มีทางทำอะไรได้นอกจากไปตาย ไปเจ็บ แล้วจำ (ฮ่าฮ่า)

เกมเพลย์คลาสสิก

เกมนี้เป็นเกมรูปแบบ 2D ผ่านด่านลงดันเจี้ยนไปเรื่อย ๆ โดยเราจะเป็นเหมือนนักผจญภัยให้อารมณ์ Indiana Jones ถือคบไฟเข้าถ้ำเหวี่ยงแส้ฟาดศัตรู

ในเนื้อเรื่อง เราจะรับบทเป็นลูกสาวของนักสำรวจในภาคที่แล้ว ที่ต้องออกตามหาครอบครัวที่หายไปบนดวงจันทร์ หน้าที่ของเราคือการผจญภัยผ่านด่านต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยกับดักที่มีไว้ฆ่าเราโดยเฉพาะ

การเล่นคือการฝ่าฟันอุปสรรคในแต่ละด่านเพื่อผ่านไปยังด่านต่อไปที่ทำการสุ่มมาให้แบบไม่ซ้ำ ระหว่างทางต้องเก็บเพชร ทอง เพื่อแปลงเป็นเงินสำหรับใช้ซื้อของเมื่อเจอ NPC พ่อค้า ซึ่งก็จะสุ่มประเภทพ่อค้าและของขายมาให้ เช่น พ่อค้าอาวุธ พ่อค้าอุปกรณ์เสริม พ่อค้าชุด และไอเทมในร้านพวกนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการผ่านด่านของเรา

การตายคือการเรียนรู้

อ่านไม่ผิดหรอก เกมนี้ “การตายคือการเรียนรู้” เพราะอุปสรรคต่าง ๆ รวมไปถึงการปฏิสัมพันธ์กับวัตถุและ NPC นั้น ตัวเกมบังคับให้เรียนรู้วิธีและหาข้อมูลการหลบหลีกหรือการใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ผ่าน “ประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้ว” เอาง่าย ๆ คือ ต้องลองผิด ลองถูก ลองตาย ลองใช้ ลองคุยในหลาย ๆ แบบ เพื่อทำความเข้าใจและปรับวิธีการเล่นให้เราผ่านด่านไปได้ และนั่นแหละ บางทีการผ่านในแต่ละด่านอาจแลกมาด้วยการ “ตายเพื่อให้รู้” มานับครั้งไม่ถ้วน 

แล้วพอเราตายเรื่อย ๆ เราจะเรียนรู้ เริ่มมีทักษะการเอาตัวรอดจากอุปสรรค กับดักในด่านที่ต้องเจอขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อเราเริ่มรู้แกวของเกมแล้ว ผ่านไปไม่เกิน 5 ด่าน เกมจะส่งเราไปเจอด่านที่มีสภาพแวดล้อมใหม่ กลไกใหม่ กับดักใหม่ มอนสเตอร์ใหม่ ที่ก็ต้องไปเรียนรู้และหาทางรับมือกันใหม่อีกหน เอาง่าย ๆ คือเหมือนถูกเกมหักหลังทุกครั้งที่เริ่มเก่งขึ้น จนถึงกับตั้งคำถามว่า “เกมนี้ต้องการอะไรจากฉัน!” 

และนั่นแหละ โดยส่วนตัว “นิสัย” ของเกมที่เป็นแบบนี้นับเป็นจุดเด่นที่ให้ประสบการณ์การเล่นที่ผสมปนเปและหลากหลาย ทั้งรู้สึกท้าทาย อยากเอาชนะ ไปจนถึงหัวร้อนเอาง่าย ๆ จนมาถึงจุด ๆ หนึ่ง เราจะมีความคิดที่ว่า จะส่งอะไร เอาด่านอะไรมาให้เล่นก็มา ไม่มีอะไรจะเสียแล้วโว้ยยยยย! 

บางทีการเป็นคนดี ก็ไม่จำเป็น 

(สปอยล์ กลัวไม่สนุก โปรดข้ามไปหัวข้อถัดไป)

นอกจากการเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอด เกมนี้ยังมีกิมมิกสนุก ๆ ที่ผู้เล่นอาจต้องวางศีลธรรมลงก่อนแล้วเอ็นจอยกับกิมมิกนี้ นั่นก็คือ NPC พ่อค้า ที่พูดถึงไปก่อนหน้า นอกจากจะเป็นคนขายสิ่งของที่จะช่วยให้การผ่านด่านของเราง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็น NPC ที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบอื่นนอกจากคนซื้อ-คนขาย นั่นก็คือ ถ้าเราไม่มีเงินจะซื้อ เราก็สามารถขโมยของเขาได้จ้า แล้วหลังจากนั้นพ่อค้าจะกลายเป็นหนึ่งในศัตรูของเราทันที เราก็จะถูกปืนลูกซองไล่ยิง แต่ถ้าเราฆ่าพ่อค้าได้ นอกจากจะซื้อของชักดาบแล้ว เราจะได้ปืนลูกซองจากพ่อค้ามาใช้ด้วย แล้วขอบอกเลย ไอ้เจ้าปืนลูกซองนี่ใช้ดีนักแล 

บางฉากที่เราสุ่มเจอ อาจมีไก่งวง ซึ่งสามารถใช้เป็นพาหนะของเราได้ สามารถจับไปคืนพ่อค้าที่เป็นชาวตุรกีได้ และสามารถระเบิดไก่ให้กลายเป็นไก่งวงอบให้เรากินเพิ่มเลือดได้ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วว่าเราจะเป็นผู้เล่นสไตล์ไหน 

สรุปแล้ว 

เกมนี้เป็นเกมที่เปิดโอกาสให้เราได้พัฒนาการเล่นผ่านประสบการณ์ การตายไม่ใช่ความผิด การตายคือส่วนหนึ่งของการเล่นที่ทำให้เราได้เรียนรู้ ทดลอง ได้ปรับเปลี่ยนการเล่นเพื่อเอาชนะและผ่านด่านไปได้ จนสามารถบอกได้ว่ามันทำให้เราสนุกกับการตายเลยล่ะ 

ข้อสังเกตคือ เกมนี้ไม่เหมาะกับคนที่มีขีดความอดทนต่ำอย่างแรง เพราะจำเป็นต้องใช้ความอดทนในการลองผิดลองถูกพอสมควร มันเลยเป็นเกมที่ยากชนิดที่ทำให้ท้อเอาได้ง่าย ๆ และรู้สึกว่าไม่มีปัญญาจะเล่นจบ

ดาวน์โหลด

Steam

เรื่องและภาพ : Perapun Vichitkraivin , BlitWorks

เรียบเรียง : Nisa S.