รีวิว ความรู้สึกที่ได้จับ iPhone6 โดยจิ๊กโก๋ไอทีพี่หลาม

คุณหนุ่ยพงศ์สุข นายห้างของเรา ได้รับเครื่องไอโฟน6 จากคุณตัน ที่ไปสอยเครื่องมาจากสิงคโปร์วันแรกที่จำหน่าย โดยเครื่องชุดนี้ มาถึงเมืองไทยบ่ายวันศุกร์ที่ 19 ตอนแรกหนุ่ยจะขอมาโชว์ในรายการเกมโชว์โซเชียลก่อนเลย แต่คุณตันเกรงใจสรยุทธ เพราะรับปากเอาไว้แล้ว เครื่องนี้จึงไปโชว์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ของคุณสรยุทธ แล้วเย็นวันเสาร์นั้นค่อยมาโชว์ในรายการ เดอะรีวิวเว่อร์ ซึ่งแทรกช่วงรายการสดเข้าไปในรายการคืนนั้นเลย

ทำให้ผมได้มีโอกาสจับไอโฟน6 เป็นคนกลุ่มแรกๆเลย แหม..สด ๆ ร้อน ๆ นะเนี่ย เลยมาเขียนบล็อคซะเลย

เป็นการรีวิวแบบ แป๊บ!!! เพราะมีโอกาสจับเครื่องได้แว๊บเดียวจริง ๆ

สิ่งแรกที่ทุกคน อยากรู้คือ iPhone6 (จอ 4.7 นิ้ว) กับ iPhone6+ (จอ 5.5 นิ้ว) มันใหญ่แค่ไหน ตัวไหนน่าใช้กว่ากัน

ดูจากคลิปวิดิโอในภาพเลยครับ

ความรู้สึกแรกที่จับคือ iPhone6 (จอ 4.7 นิ้ว) ขนาดเหมาะมือมาก ใหญ่กว่า 5s เดิม ไม่เยอะ แต่จับถนัดมือมาก คนที่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับขนาดหน้าจอไอโฟนเดิม ว่ามันเล็กเกินไป จะชอบ iPhone6 (จอ 4.7 นิ้ว)

ที่สำคัญคือ มันเบามาก เมื่อถืออยู่ในมือ คือน้ำหนักมันใกล้กับ 5s เลย แต่ด้วยความที่จอมันใหญ่กว่า เลยทำให้รู้สึกว่าเบา

ส่วน iPhone6+ (จอ 5.5 นิ้ว) จอใหญ่เต็มมือมาก สำหรับคนมือเล็ก ๆ จะรู้สึกว่ามันใหญ่ไปมั้ง คือถ้าคนเคยใช้ Note3 หรือ พวกสมาร์ทโฟนจอใหญ่ ๆ จะชอบ iPhone6+ (จอ 5.5 นิ้ว) เพราะมันใหญ่ไล่เลี่ยกันเลย สะใจ เทียบขนาดกับ Note3 แล้ว iPhone6+ (จอ 5.5 นิ้ว) ด้านกว้างจะแคบกว่า ส่วนด้านยาวจะยาวกว่า Note3 ถ้าเทียบแล้ว ถือถนัดกว่า Note3 นิดนึง

อีกอย่างที่ทุกคนอยากรู้คือ iPhone6+ (จอ 5.5 นิ้ว) ใส่กระเป๋ากางเกงไหวมั้ย ผมลองใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ให้ดูได้ครับ ตัวจอมันไม่กว้างมาก ใส่กางเกงได้ แต่ความยาวมันจะล้นกระเป๋ากางเกงออกมาแบบนี้

ตัวเครื่องตุงกางเกงน้อยกว่าเดิม เพราะมันบาง ขอบโค้งมน แถมกระจกยังเป็นขอบโค้งมนรับตัวถังอีกด้วย ในสเปคไม่ได้บอกว่าใช้กระจกของใคร แต่บอกว่าใช้เทคโนโลยี ion-strengthened glass เคลือบแข็งด้วย ion ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ Gorilla glass นั่นเอง แถมขอบโค้งมนแบบนี้ มี Gorilla เจ้าเดียวที่ทำแบบนี้ได้ เรียกว่า 3D Gorilla Glass

จุดสังเกตของคนที่ไม่ชอบใส่เคส ที่ต้องระวัง iPhone6 นั้น มีเลนส์กล้องที่นูนออกมานอกตัวเครื่องชัดเจน เวลาใช้งานหรือใส่กระเป๋าต้องระวังนิดนึง อาจเกี่ยวหรือขูด หรือกระแทกได้

ส่วนคนที่ใส่เคส ไม่มีปัญหา

ด้านในตัวเครื่องไม่มีเวลาได้เทสซักเท่าไหร่ ที่ชอบ คือ Reach ability ช่วยคนมือเล็ก ให้แตะส่วนบนของหน้าจอได้ง่ายขึ้น วิธีใช้คือ แตะเบาๆที่ touch ID แตะเบา ๆ นะครับ ไม่ได้กดเบา ๆ

มันเป็นคำสั่งที่คล้ายกับดับเบิลคลิกที่ปุ่มโฮมมาก ต้องปรับความรู้สึกนิดนึง บางคนหาไม่เจอเลยทีเดียว 555

ฟังก์ชัน ซูมหน้าจอ ให้ไอคอนและตัวอักษรใหญ่ขึ้น อันนี้ชอบมาก เพราะฉานสายตายาว 555

อีกอันคือ หน้าจอปรับเป็น Landscape หรือแนวนอนได้ คีย์บอร์ดก็เป็นแนวนอนด้วย เวิร์ค ๆๆๆ

ที่เหลือ Health ไม่มีเวลาได้ลอง เสียดายเหมือนกัน หรือ Apple PAY ก็ลองไมไ่ด้ เพ่ราะเมืองนอกจะเปิดในเดือนตุลา เมืองไทยเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

สรุป iPhone6 (จอ 4.7 นิ้ว) กับ iPhone6+ (จอ 5.5 นิ้ว) สำหรับผม มีความเห็นดังนี้

iPhone6 (จอ 4.7 นิ้ว) ขนาดเหมาะมือ สำหรับสาวกไอโฟนเดิม รวมไปถึงคุณผู้หญิง ตัวเครื่องเบา แต่ปีเตอร์กวงเทสแล้วบอกว่า แบตตัวนี้จะไม่อึด หมดเร็วกว่า 5s อีกแนะ

iPhone6+ (จอ 5.5 นิ้ว) ขนาดสะใจ สำหรับคนอยากได้จอใหญ่ และสาวกแอนดรอยที่จะย้ายค่าย น้ำหนักหน่วงมือเล้กน้อย แบตอึดเต็มวันแน่นอน

จอสว่างกว่าเดิม กล้องเฉลี่ยแสงได้ดีกว่าเดิม คือ มี Dynamic Exposure รายละเอียดของภาพจะดีขึ้น ถ่ายวิดีโอปรับโฟกัสได้นุ่มกว่าเดิม มีไทมส์แล็บ สโลว์ 240 เฟรม หยุดโลกได้เลย

ซื้อมั้ย?