รีวิว Meizu m2 Note เด่นที่จอและราคาถูกคุ้มค่า
Our score
8.0

meizu m2 Note

จุดเด่น

  1. จอชัด สดใส ปรับความสว่างได้กว้าง
  2. ประสิทธิภาพเครื่องดีเกินราคา
  3. แบตเตอรี่ทนมาก เทสกับ Geekbench อยู่ได้เกิน 10 ชั่วโมง
  4. กล้องคุณภาพใช้ได้ โหมดถ่ายภาพมีตามสมควร
  5. ตัวเครื่องประกอบแน่นหนา จับแล้วไม่รู้สึกแกร็บแกร๊บ

จุดสังเกต

  1. ต้องเลือกระหว่างใส่ซิม 2 กับ MicroSD
  2. โฟกัสช้า โดยเฉพาะเวลาแสงน้อย
  3. ไม่มีหูฟังติดมาในกล่อง
  4. ไม่มีขายทั่วไป มีแค่ Flash sale
  • ดีไซน์

    7.5

  • ประสิทธิภาพ

    7.0

  • คุณภาพจอ

    9.0

  • คุณภาพภาพถ่าย

    7.0

  • ความคุ้มค่า

    9.5

Meizu เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เริ่มบุกตลาดไทยอย่างจริงจังนะครับ ทีมงานเว็บแบไต๋ก็ได้รับเครื่อง m2 Note มารีวิวเช่นกัน ซึ่งต้องบอกว่าน่าประทับใจสำหรับสมาร์ทโฟนที่มีราคาเท่านี้

ว่ากันด้วยสเปก

  • CPU: MediaTek MT6753 1.3GHz octa-core 64 bit
  • GPU: Mali T720 MP3 450 MHz
  • RAM: 2 GB
  • ROM: 16 GB (เหลือให้ใช้ 11.7 GB)
  • กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล f/2.2 พร้อมแฟลช 2 สี เซนเซอร์ซัมซุง
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล f/2.0
  • หน้าจอ: 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมเทคโนโลยี IGZO และ GFF fully laminated
  • แบตเตอรี่ 3100 mAh
  • รองรับ MicroSD 128 GB
  • ใส่ 2 nano-sim รองรับ 4G LTE
  • รองรับ Wifi 2.4 และ 5 GHz
  • หนัก 149 กรัม หนา 8.7 มม.
  • ราคา 5,990 บาท

โดดเด่นที่จอ และดีไซน์ที่จับถนัดมือ

Meizu-m2note2

จุดเด่นแรกของ Meizu m2 Note คือหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD ตัวนี้เลยครับ ที่ให้สีสันและความคมชัดน่าพอใจ ใช้วัสดุจอเป็น AGC Dragontrail/NEG T2X-1 คู่แข่งของ Gorilla Glass ที่ให้สัมผัสในการแตะได้ดี ใช้แล้วลื่นนิ้ว แถมยังรองรับการสัมผัสสูงสุด 10 นิ้ว

นอกจากเรื่องสีสันแล้ว จอของ m2 Note ยังสามารถปรับความสว่างได้กว้างมากพอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันครับ จอสามารถลดความสว่างได้มาก จนใช้กลางคืนได้สบายตา แต่ก็เร่งแสงได้มากพอที่จะสู้แสงแดดตอนกลางวัน

ในส่วนของการจับถือก็ถือว่า m2 Note เป็นมือถือที่จับได้ถนัดมืด ด้วยส่วนโค้งด้านหลังที่รับกับมือพอดี แม้ว่าจะไม่ใช่วัสดุพิเศษอย่างโลหะ แต่เป็นโพลีคาร์บอเนตแบบ Unibody (แกะฝาหลังไม่ได้) แต่สัมผัสของตัวบอดีเครื่องก็แน่นหนาดีครับ จับแล้วไม่รู้สึกก็อบแกร๊บแต่อย่างใด ก็ถ้าใครที่ชอบมือถือดีไซน์เรียบๆ ไม่วือหวาก็น่าจะชอบดีไซน์ของ m2 Note นี้แหละ

กล้อง ไม่ได้ดีที่สุด แต่ไม่แย่

Meizu-m2note3

กล้องของ Meizu m2 Note ตัวนี้อาจจะไม่ได้ดีเทียบเท่าสมาร์ทโฟนหลักหมื่นขึ้น แต่คุณภาพของมันก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดีนะครับ โดยการถ่ายภาพเวลากลางวันนั้นนั้นให้สีสันที่ดี รายละเอียดภาพที่ชัดเจน อาจจะเป็นวุ้นบ้างในส่วนของภาพที่มีรายละเอียดเยอะๆ ไฮไลท์หายไปบ้างก็เป็นปกติของภาพจากกล้องมือถือนะครับ

หน้าควบคุมกล้อง

หน้าควบคุมกล้อง

ในส่วนของลูกเล่นกล้องอื่นๆ m2 Note ก็มีฟีเจอร์มาให้พอตัวเลย ทั้งการใส่ฟิลเตอร์ในตัวแอปถ่ายภาพ ถ่าย Panorama ถ่ายภาพก่อนแล้วมาปรับชัดทีหลัง โหมด Beauty ปรับหน้าให้สวย หรือโหมด Manual ที่หลายคนอยากได้ ก็มีให้ปรับความเร็วซัตเตอร์ ความไวแสง ระยะโฟกัส หรือการปรับค่า EV ชดเชยแสงก็ทำได้ครับ ซึ่งความเร็วในการถ่ายรูปถือว่าปกติ แตะซัตเตอร์แล้วรอแว๊บหนึ่งก็ได้รูปแล้ว แต่ที่ช้าคือการโฟกัสภาพครับ ยิ่งแสงน้อยนี่ยิ่งต้องรอโฟกัสกันหลายวินาทีเลย

ความสามารถในการถ่ายวิดีโอของ m2 Note ก็น่าสนใจ โดยสามารถถ่ายได้สูงสุดที่ 1080p แต่ที่เทพคือใส่ฟิลเตอร์ให้กับวิดีโอระหว่างถ่ายเลยก็ได้ ใครอยากได้สีแปลกๆ ก็เลือกใส่ให้ภาพได้ แถมที่แปลกคือสามารถเปลี่ยนฟิลเตอร์ให้วิดีโอได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดการบันทึกภาพด้วย เมพตรงนี้

ปุ่มโฮม เอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน

Meizu-m2note4

ตั้งแต่เราทดสอบ Android มาหลายรุ่น รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เราเริ่มต้นได้งงที่สุดตัวหนึ่งครับ เพราะมันไม่มีปุ่ม Back! จนเราต้องล่าถอยไปอ่านคู่มือให้เรียบร้อยก่อน 555 หลังจากอ่านคู่มือเสร็จก็สรุปว่าปุ่ม Home ก็คือปุ่ม Back นั้นแหละ แต่มีวิธีการใช้งานดังนี้

  • แตะที่ปุ่ม Home คือการกด Back
  • กดที่ปุ่ม Home คือการกด Home
  • ลากขอบจอล่างขึ้นมา คือการเรียก Recent App แล้วปัดแอปในบาร์ Recent App ขึ้นคือการปิดแอป

ซึ่งใช้ไปใช้มาปุ่ม Home + Back แบบนี้ก็เข้าท่าดีนะครับ พื้นที่ว่างด้านล่างก็ไม่ต้องเสียไปกับการวางปุ่ม Back ที่ Android หลายๆ ตัวมีปัญหาปุ่ม Back ลั่นง่ายเหลือเกิน แถมพื้นที่จอก็ไม่ต้องเสียไปกับการวางปุ่มบนจอด้วย

Flyme OS 4.5 ร่างแปลงของ Android 5.1

หน้าโฮมของ FlyMe OS และหน้า Notification ที่เรียกปุ่มต่างๆ ออกมาได้

หน้าโฮมของ FlyMe OS และหน้า Notification ที่เรียกปุ่มต่างๆ ออกมาได้

แน่นอนว่าสำหรับแอนดรอยด์ที่มาจากจีน ก็ต้องมีชื่อระบบปฏิบัติการของตัวเองครับ สำหรับ Meizu ใช้ชื่อว่า Flyme OS ซึ่งก็มีลูกเล่นที่ต่างจากแอนดรอยด์ตัวเพียวหลายอย่างเลยคือ

  • มีโหมด DND (Do Not Disturb) สำหรับตั้งเวลาที่ไม่อยากให้คนอื่นรบกวน แต่ก็สามารถเตือนได้ถ้ามีคนโทรเข้ามาซ้ำๆ
  • Smarttouch ปุ่มบนหน้าจอที่ทำได้หลายอย่าง เช่นแตะเพื่อเป็นปุ่ม back, แตะ 2 ครั้งเพื่อปิดแอป, ลากขึ้นเพื่อกลับหน้าโฮม, ลากลงเพื่อดึง Notification Center ลงมา
  • ระบบรักษาความปลอดภัยที่หลากหลาย ตั้งแต่การตั้งรหัสล็อกจอ (ใส่เป็น pin กับรหัสผ่าน ไม่มีแบบลากปลดล็อก) การตั้ง Vault หรือการล็อกแอปเป็นตัวๆ ด้วยรหัสผ่าน สำหรับคนที่แอปลับเฉพาะไม่อยากให้คนอื่นเปิดเข้าไปดูข้อมูลข้างใน
  • มี Security Center เพื่อช่วยล้างข้อมูลขยะ ค้นหาไวรัส จัดการการใช้ข้อมูล
การจัดการเรื่องความปลอดภัยของเครื่อง

การจัดการเรื่องความปลอดภัยของเครื่อง

คุณภาพเสียง

แอปเล่นเพลงที่มีตัวปรับแต่งเสียงของ Dirac

แอปเล่นเพลงที่มีตัวปรับแต่งเสียงของ Dirac

ในแง่ของลำโพงที่มากับเครื่องก็อยู่ในเกณฑ์ทั่วไปนะครับ เสียงดังดี แต่ก็ไม่ได้มีเบสมีน้ำหนักแต่แตกต่างจากรุ่นอื่น แต่สิ่งที่แปลกคือ m2 Note ที่ขายในเมืองไทยนี้ไม่ได้มีหูฟังแถมมาด้วย (ช่องหูฟังในกล่องจะอุดด้วยพลาสติก) ผู้ใช้ต้องหาหูฟังอื่นๆ มาใช้กันเอง ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ได้เป็นปัญหามาก เว้นแต่ระบบ Dirac HD Sound ที่อยู่ในแอปฟังเพลงมันจะใช้ดีที่สุดกับหูฟังที่มันรู้จักนี้สิครับ

ทีมงานเว็บแบไต๋ทดลองฟังเพลงผ่านหู EarPod ของแอปเปิ้ล คุณภาพเสียงที่ได้ก็จัดอยู่ในเกณฑ์โอเคเลยนะครับ ฟังลื่นหูสบายๆ แต่เมื่อเปิด Dirac HD Sound ที่เลือกตัวเลือกเป็น EarPod ตามหูฟังที่ใช้ เสียงที่ออกมาก็ใสกังวาลขึ้นมา เบสก็ยังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งนอกจาก EarPod แล้ว m2 Note ก็ยังรองรับหูฟังอีกหลายรุ่นเช่น EP20, EP21, EP30 ของ Meizu เอง หรือจะเป็น Sennheiser CX200, IE8I หรือ Audio Technica CKM500, ATHES7 ซึ่งถ้าหูฟังของเราไม่อยู่ในรายชื่อนี้ก็ต้องลองกดฟังกันดูเองนะครับว่าชอบเสียงโทนไหน (ถ้าแถมหู Meizu มาตั้งแต่แรกก็จบแล้ว)

ในกล่องไม่มีหูฟังแถมมาให้นะ

ในกล่องไม่มีหูฟังแถมมาให้นะ

ประสิทธิภาพ

  • ทดสอบด้วย Antutu ได้คะแนน 31800
  • ทดสอบด้วย Geekbench 3 ได้คะแนน Single-core 552, Multi-core 2600
  • ทดสอบแบตเตอรี่ด้วย Geekbench 3 ได้ 10:58 ชั่วโมง ได้คะแนน 4388
  • ทดสอบด้วย 3Dmark Sling Shot ES 3.1 ได้ 177 คะแนน (ถ้าเป็น Ice Storm Unlimited จะได้ 6244 คะแนน
  • ทดสอบด้วยเกม Lara Croft: Relic Run การเคลื่อนไหวลื่นไหล แม้จะไม่ลื่นไหลที่สุด แต่ก็ดีกว่ามือถือหลายๆ รุ่น
  • การใช้งานทั่วไป facebook ลื่นตลอด ไม่มีหน่วง

สรุป Meizu m2 Note ก็เป็นมือถืออีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจในช่วงนี้นะครับ แต่เบื้องต้นจะขายผ่าน Lazada เท่านั้นในลักษณะของ Flash Sale ในวันที่ 29 กันยายนตอน 10.00 – 12.00 น. เท่านั้นครับ