ถ้าพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนทั้งโลกในตอนนี้ ต้องเรียกว่าย่ำแย่กันหมดเพราะปัญหาของเชื้อไวรัสที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน ไปจนถึงเศรษฐกิจการเมืองการศึกษาของเด็ก ๆ ที่ได้รับผลกระทบกันทุกคน ซึ่งจนถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าเชื้อโรคนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่ที่รู้ ๆ ก็คือผู้คนทั่วทั้งโลกพยายามที่จะหาทางยับยั้ง เพื่อแก้ไขไม่ให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายไปมากกว่านี้ และถ้ามองกลับมาที่วิดีโอเกม เราก็จะเห็นเรื่องราวที่คล้าย ๆ กันกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้  แต่ในวิดีโอเกมเหล่านั้นจะมีการบอกเล่าเรื่องราวของตัวร้ายที่ใช้เชื้อโรคในการทำร้ายผู้คน หรือใช้เชื้อโรคเพื่อผลประโยชน์กับตัวเองในแง่ต่าง ๆ เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีตัวร้ายคนไหนจากเกมอะไรที่ใช้เชื้อโรคในแผนที่ชั่วร้ายบ้าง สวมผ้าปิดปากใส่ชุดกันเชื้อรับวัคซีนให้พร้อมแล้วตามมาดูพร้อมกันเลย

คำเตือน. เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญในเกม

แพร่เชื้อผ่านการพูดภาษาต่าง ๆ จากเกม Metal Gear Solid V The Phantom Pain

Metal Gear Solid V The Phantom Pain

เริ่มต้นเกมแรกที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบมาก่อนว่าเกมในซีรีส์ ‘Metal Gear Solid’ นั้นมีการพูดถึงการใช้เชื้อไวรัสอยู่เสมอเกือบทุกภาค แต่ภาคที่มีการพูดถึงและใช้เป็นหัวใจหลักของเรื่องก็คือภาค 5 อย่าง ‘Metal Gear Solid V The Phantom Pain’ ที่ในเรื่องนี้จะมีการสร้างเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า ‘The vocal cord parasites’ ที่แปลเป็นไทยสั้น ๆ ว่า “ปรสิตสายเสียง” หรือเส้นเสียง ที่การทำงานของมันนั้นก็ช่างง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณพูดภาษานั้น ๆ ที่ผู้สร้างไวรัสระบุคุณก็สามารถติดเชื้อได้ ยกตัวอย่างภาษาไทยถ้าคุณเป็นคนที่พูดภาษาไทยไว้รัสที่เข้าไปเกาะลำคอของคุณเหมือนการแพร่เชื้อหวัด มันจะไปอ่านการสั่นสะเทือนของกล่องเสียง ว่าถ้าการสั่นนั้นคือการสั่นออกเสียงของภาษาไทยมันจะลงปอดทันที แต่ถ้าเราไม่ได้พูดภาษาไทยก็รอดไป หรือถ้าเราติดเชื้อแต่พยายามไม่พูดภาษาไทยก็รอดเช่นกัน นับเป็นการทำลายวัฒนธรรมที่เรียกว่าการสื่อสาร เพราะถ้าเราสื่อสารกันไม่ได้มันก็ไร้ความหมาย และถ้ามนุษย์ไม่สามารถใช้ภาษาได้จะเกิดอะไรขึ้น นั่นคือแนวคิดของตัวร้ายในเกมที่จงใจทำลายวัฒนธรรมของมนุษย์ผ่านการสื่อสาร จนสุดท้ายภาษานั้นก็จะตายไปพร้อมกับผู้คนนับล้าน ซึ่งเป็นการใช้ไวรัสได้อย่างฉลาดและน่ากลัวสุด ๆ

Metal Gear Solid V The Phantom Pain

ผู้ก่อการร้ายแพร่เชื้อผ่านเงิน จากเกม Tom Clancy’s The Division

 Tom Clancy’s The Division

เรียกว่าเป็นเกมที่มาก่อนกาลจริง ๆ กับเกม ‘Tom Clancy’s The Division’ ที่เล่นเรื่องราวของโรคระบาดซึ่งแพร่เชื้อใส่มนุษย์ จนผู้คนในมหานครนิวยอร์กกว่า 95% ติดเชื้อส่วนอีก 5% นั้นมีภูมิคุ้มกันทางพันธุกรรม กับการแพร่เชื้อของผู้ก่อการร้ายที่ใช้ ‘Smallpox Variola Chimera’ ซูเปอร์ไวรัสที่ดัดแปลงพันธุกรรมที่อิงมาจากโรคฝีดาษ ซึ่งความร้ายกาจของมันคือไม่มีวัคซีนที่ใช้รักษาได้ โดยคนร้ายใช้ช่วงเวลา Black Friday ที่คนอเมริกันจะไปจับจ่ายซื้อของลดราคาในการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งคนร้ายได้แอบใส่เชื้อไวรัสผ่านเงินที่ปนเปื้อนให้กระจายไปอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายผู้คนก็เริ่มล้มตายจนมหานครนิวยอร์กกลายเป็นเมืองร้าง ที่เหล่าผู้ก่อการร้ายสามารถเข้ายึดครองได้ เราที่เป็นหนึ่งในหน่วย ‘The Division’ จึงต้องออกปราบปรามผู้ก่อการร้ายนั้น ซึ่งในช่วงที่ไวรัสระบาดในบางประเทศก็เกือบจะเป็นเหมือนในเกมนี้เลยทีเดียว แค่ไม่มีการยิงกันกับผู้ก่อการร้ายอย่างในเกมเท่านั้น

 Tom Clancy’s The Division

ไวรัสแพร่เชื้อในหุ่นยนต์ จากเกม Rockman 10

Rockman 10

คราวนี้มาดูการแพร่เชื้อไวรัสผ่านหุ่นยนต์กันบ้างกับโรค ‘Roboenza’ โรคประหลาดที่จู่ ๆ มันก็เกิดขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งหุ่นยนต์ที่ได้รับเชื้อนั้นจะไม่เชื่อฟังมนุษย์แถมยังก่อความวุ่นวาย ขณะที่หุ่นยนต์ที่อ่อนแอก็จะเสียหายและพังในที่สุดถ้าไม่มียาแก้ ซึ่งเรื่องนี้แม้แต่ ดร.ไวลี่ (Dr. Wily) ผู้ชั่วร้ายก็ยังได้รับผลกระทบ เพราะหุ่นที่เขาสร้างขึ้นมานั้นได้ทำการทำร้ายเขา จึงมาขอความช่วยเหลือจาก ดร.ไลต์ (Dr. Light) เพราะเขาสามารถหาทางแก้โรคนี้ได้แล้ว แต่ในระหว่างที่กำลังจะผลิตตัวยาก็ถูกหุ่นยนต์ทั้ง 8 ตัวมาขโมยชิ้นส่วนในการสร้างเครื่องผลิตยาต้านไป ร้อนถึง ร็อกแมน (Rockman) ต้องไปเอาชิ้นส่วนเหล่านั้นกลับมา แถมต้องแข่งกับเวลาเพราะ โรล (Roll) หุ่นที่เป็นเหมือนน้องสาวก็ป่วย จนเมื่อได้ชิ้นส่วนมาครบจึงสามารถผลิตยาได้ แต่ผู้ที่อยู่เบื้อหลังที่แท้จริงของงานนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือตาลุง ดร.ไวลี่เจ้าเก่า ที่แผนการของเขานั้นต้องการให้รอคแมนติดเชื้อ ‘Roboenza’ และต้องการใช้ไวรัสกับยาแก้เพื่อยึดอำนาจ แต่สุดท้ายด้วยความสามารถของพระเอกจึงทำให้รอคแมนสามารถเอาชนะไปได้ และหลังจากเอาชนะ ดร.ไวลี่ได้ลุงแกก็มีอาการป่วยหนัก ร็อกแมนจึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งลุงแกที่สำนึกผิดก็ทิ้งยาแก้ให้ร็อกแมนก่อนจะหนีไป นับเป็นแผนที่ชั่วร้ายมาก ๆ ครั้งหนึ่งของ ดร.ไวลี่เลยทีเดียว

Rockman 10

สานต่อความชั่วร้ายของ Dr. Wily จากเกม Rockman X

Rockman X

ต่อเนื่องจากเกม ‘Rockman 10’ ที่ถ้าใครที่ได้เล่นเกมหรือรู้จักเนื้อหาของเกมซีรีส์ ‘Rockman’ กับ ‘Rockman X’ จะทราบดีว่าทั้งสองเกมนี้นั้นเป็นเนื้อเรื่องเดียวกัน โดยซีรีส์ ‘X’ นั้นจะเป็นโลกอนาคตที่ ดร.ไลต์ได้สร้าง เอ็กซ์ (X) ขึ้นมาเพื่อปกป้องโลก ขณะที่ ดร.ไวลี่ก็ได้สร้าง ซีโร่ (Zero) ขึ้นมาพร้อมกับใส่ไวรัสบางอย่างเอาไว้ เพื่อใช้มันแพร่เชื้อใส่หุ่นยนต์ให้บ้าคลั่งในอนาคต ซึ่งแฟน ๆ ต่างก็คิดว่ามันคือไวรัส ‘Roboenza’ ในเกม ‘Rockman 10’ ที่ติดอยู่บนหน้ากากของซีโร่ ซึ่งเมื่อซีโร่ตื่นขึ้นมาเขาก็อาละวาดไปทั่วจน ซิกม่า (Sigma) หัวหน้าหุ่นในตอนนั้นต้องมาปราบความบ้าคลั่งนั้น และในการต่อสู้ซิกม่าที่กำลังจะเสียท่าเขาได้ชกไปที่หมวกของซีโร่ ซึ่งเป็นที่บรรจุไวรัสจนทำให้ซิกม่าติดเชื้อแทนซีโร่  จนสุดท้ายซิกม่าก็เริ่มแผนการกระจายเชื้อไปยังหุ่นยนต์ในชื่อ ‘Sigma Virus’ เพื่อปลดแอกหุ่นยนต์ให้ปกครองมนุษย์ตามแนวคิดดั่งเดิมของ ดร.ไวลี่ ซึ่งเรื่องราวของไวรัสนี้ก็ดำเนินมาอย่างยาวนานจนแทบไม่มีจุดสิ้นสุด

Rockman X

แพร่เชื้อผ่านเด็กกำพร้า จากเกม Dead Rising 1

Dead Rising 1

คราวนี้มาดูเกมซอมบี้กันบ้างซึ่งส่วนมากเกมแนวนี้จะไม่ค่อยบอกที่มาที่ไปของเชื้อไวรัสว่ามาจากไหนใครเป็นคนสร้าง แต่จะเน้นที่เรื่องราวการเอาตัวรอดหรือภารกิจต่าง ๆ ที่อยู่ในเกมมากกว่า แต่เกม ‘Dead Rising’ ภาคแรกกับคิดต่าง เพราะเกมนี้จะบอกเราทุกอย่างว่าไวรัส ‘Gretchen Peregrine’ นั้นเกิดขึ้นมาจากผู้ก่อการร้ายที่ต้องการทำลายอเมริกา เพราะรัฐบาลนี้ได้ฆ่าคนในหมู่บ้านที่ตนอยู่เพียงเพราะต้องการเส้นทางผ่านท่อส่งน้ำมัน เขาจึงทำการส่งเด็กที่ติดเชื้อไปยังรัฐต่าง ๆ ของอเมริกา ที่เพียงแค่โดนกัดภายใน 24 ชั่วโมงคน ๆ นั้นก็จะกลายเป็นซอมบี้ และถ้ามันยังช้าไปผู้ก่อการร้ายก็ยังสร้างผึ้งที่สามารถแพร่เชื้อได้ขึ้นมา แต่โชคดีที่ผึ้งบางตัวนั้นก็มีสารยับยั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จนสามารถสร้างยาต้านได้แต่ข้อเสียคือต้องฉีดยานี้ทุก ๆ 24 ชั่วโมงและยังไม่มียาต้านที่รักษาได้แบบ 100% นับเป็นการแพร่เชื้อที่โหดร้ายมาก ๆ ที่เมื่อเราเล่นมาถึงตรงนี้ก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าใครกันแน่ที่ผิด โดยเฉพาะทางทหารที่เมื่อทราบข่าวก็พยายามปิดปากทุกคนที่รู้เห็นแทนที่จะช่วย เป็นการตอกย้ำในสิ่งที่ตัวร้ายทำหนักไปอีก

Dead Rising 1

รัฐบาลใช้โรคระบาดเป็นข้ออ้างในการกวาดล้างประชาชน จากเกม Dishonored

Dishonored

อีกหนึ่งเกมที่มาก่อนกาลเพราะเกมนี้คือหนึ่งในกระจกสะท้อนแนวคิดการแบ่งชนชั้นของคนรวยคนจนออกจากกัน โดยใช้โรคระบาดเป็นตัวแบ่งชนชั้นในเกม ‘Dishonored’ โดยเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นนักฆ่าที่ต้องช่วยเหลือผู้คนจากรัฐบาล ที่ใช้โรคระบาดเป็นข้ออ้างในการกวาดล้างประชาชน เมื่อจู่ ๆ ก็มีโรคระบาดจากหนูที่ชื่อว่า ‘Weepers’ ที่ถ้าผู้ป่วยร้องไห้ออกมาเป็นเลือดก็เตรียมตัวบ้าคลั่งและก่อความรุนแรงได้ แถมยังสามารถแพร่เชื้อให้คนอื่น ๆ ได้ ทางรัฐบาลจึงสร้างกำแพงมากั้นคนรวยกับคนจนออกจากกัน พร้อมกับตั้งชื่อให้สวยหรูว่า ‘Walls of Light’ ขณะที่ยาแก้นั้นก็มีราคาแพงจนคนจนไม่สามารถหาเงินมาซื้อได้ จนเกิดเป็นการแก่งแย่งเพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอด ขณะที่เหล่าคนรวยและชนชั้นสูงก็มีความสุข โดยการแพร่เชื้อนี้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่รัฐบาลทำขึ้นมาเพื่อกำจัดประชากรยากจนที่มีมากจนเกินไป และเพื่อเป็นการจัดระเบียบสังคมให้เป็นไปตามที่ต้องการ เพราะถ้าใครอยากได้ยารักษาก็ต้องเชื้อฟังจนกลายเป็นทาสที่ควบคุมได้ นับเป็นเกมที่เสียดสีสังคมบนโลกนี้ได้อย่างดีจริง ๆ

Dishonored

ความผิดพลาดเล็ก ๆ แบบไม่ตั้งใจจนทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ Horizon Zero Dawn

Horizon Zero Dawn

อันนี้จะเรียกว่าเชื้อไวรัสก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปาก แต่การแพร่เชื้อและการกระทำของเชื้อ ‘Faro Plague’ ก็มีความใกล้เคียงกับโรคระบาดมาก ๆ ซึ่งไวรัสนี้ก็มาจากหุ่นยนต์ทางการทหารที่มันสามารถสร้างพลังได้จากการใช้ชีวมวลเป็นเชื้อเพลิง แถมยังสามารถออกลูกหลานหรือการลอกแบบตัวเองขึ้นมาได้เรื่อย ๆ ซึ่งข้อดีของมันคือการทำตามเป้าหมายด้วยความคิดตัวเองจนกว่าจะสำเร็จ และไม่สามารถเจาะระบบเข้าไปควบคุมมันได้นอกจากส่วนกลางเท่านั้น แต่ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นเมื่อหุ่นยนต์เหล่านั้นเริ่มมีความคิดเป็นอิสระแบบสัตว์ และไม่สามารถควบคุมมันได้ จนสุดท้ายพวกมันก็แพร่พันธุ์ไปทั่วโลกและเริ่มกินอินทรียวัตถุทั้งหมด(สิ่งที่มีชีวิตรวมถึงสิ่งต่าง ๆ บนโลกแม้แต่ชั้นบรรยากาศ) โดยการกินของเหล่าเครื่องจักรนี้จะไปกัดกินจนถึงชั้นไบโอสเฟียร์ หรือสิ่งที่ห่อหุ้มชั้นบรรยากาศของมนุษย์ ซึ่งการกินจนหมดอย่างสมบูรณ์จะเกิดขึ้นภายใน 15 เดือน เมื่อถึงตอนนั้นเหล่าเครื่องจักรที่ไม่มีอะไรจะกินมันก็จะตายไปเองแต่มนุษย์ก็จะสูญพันธุ์ไปด้วย แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นมนุษย์ได้สร้างระบบ ‘Zero Dawn’ ขึ้นมาเพื่อค่อย ๆ สร้างสิ่งมีชีวิตจากโลกที่ไร้ชีวิตอีกครั้ง แต่ต้องใช้เวลาเป็นร้อยปีเพื่อฟื้นฟูทุกอย่าง จนสุดท้ายเมื่อธรรมชาติกลับมาและหุ่นที่กินทุกอย่างตายไปจนหมดมนุษย์ก็เกิดขึ้นมาและอาศัยบนโลกได้ ซึ่งการแพร่เชื้อของหุ่นยนต์นั้นก็เหมือนเชื้อไวรัสจริง ๆ และถ้าวันหนึ่งมีไวรัสที่เป็นแบบในเกม มนุษย์รวมถึงทุกสิ่งมีชีวิตที่ใช้อากาศหายใจคงตายหมดอย่างแน่นอน

Horizon Zero Dawn

เมื่อแหล่งรักษาโรคกลายเป็นจุดกระจายเชื้อจากสิ่งมีชีวิตโบราณ จากเกม Bloodborne

Bloodborne

คราวนี้มาดูเกมที่ยากทั้งการเล่นและการตีความหมายในเกมว่ามันคืออะไร กับเกม ‘Bloodborne’ ซึ่งเราจะได้เล่นเป็นฮันเตอร์ที่เดินทางมายังเมืองแห่งการแพทย์อย่าง ‘Yharnam’ เพื่อหาทางรักษาโรคของตน แต่เมื่อมาถึงที่นี่ก็กลายเป็นจุดแพร่เชื้อโรคประหลาดที่ชื่อว่า ‘Paleblood’ ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อและไม่ได้รับการถ่ายเลือดก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดออกมาทำร้ายผู้คน โดยเราที่ได้รับการถ่ายเลือกทันเวลา จึงต้องรับหน้าที่หยุดยั้งแหล่งที่มาของโรคระบาด และหาทางหลบหนีจากฝันร้ายในครั้งนี้ ซึ่งเมื่อเราดำดิ่งลงไปจนถึงจุดกระจายเชื้อก็ทราบว่าสิ่งเลวร้ายทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นมาจาก ‘Great Ones’ ที่นักวิชาการจากวิทยาลัย ‘Byrgenwerth’ ได้ค้นพบใต้เมือง ซึ่งที่นั่นมีอารยธรรมชั้นสูงที่ในอดีตมันเคยรุ่งเรืองแต่สุดท้ายก็พ่ายให้กับโรคระบาดที่เปลี่ยนผู้คนเป็นปีศาจ ซึ่งตอนนี้มันก็กำลังเกิดขึ้นในเมือง นับเป็นโรคระบาดที่น่ากลัวพอ ๆ กับเชื้อไวรัสที่เปลี่ยนคนเป็นซอมบี้เลย

Bloodborne

ไวรัสจากต่างดาว จากเกม Crysis 2

Crysis 2

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าการรุกรานของมนุษย์ต่างดาว ไม่ได้มาแค่กำลังพลและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเพื่อมายึดครองโลก แต่มันได้พาเชื้อโรคมาด้วยโดยเชื้อโรคนี้มีชื่อว่า ‘Manhattan Virus’ ซึ่งที่นั่นคือจุดแรกที่มีการแพร่เชื้อจากต่างดาวในเกม ‘Crysis 2’ เกมยิ่งสนั่นลั่นนรก ที่เราจะได้รับบทเป็นคนธรรมดาที่สวมชุดเกราะเพิ่มพลังในการต่อกรกับเอเลี่ยนเพื่อปกป้องมนุษย์ ซึ่งเชื้อโรคในเกมนี้ก็ร้ายแรงขนาดที่ทำให้เซลล์มนุษย์สลายอย่างสมบูรณ์ จนมนุษย์ที่ติดเชื้อจะค่อย ๆ ละลายเป็นเศษเนื้ออย่างช้า ๆ แม้แต่เจ้าของเกราะคนเก่าก็ตายเพราะติดเชื้อนี้ เรียกว่าเป็นการรุกรานที่น่ากลัวมาก ๆ เพราะแค่เทคโนโลยีกับพวกเอเลี่ยนก็ยากที่จะต่อการอยู่แล้ว มาเจอเชื้อไวรัสที่ฆ่าคนที่กำลังหนีตายซ้ำไปอีก โหดแท้มนุษย์ต่างดาวเกมนี้

Crysis 2

ไวรัสนาโน ในเกม Deus Ex

Deus Ex

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าในโลกอนาคตมนุษย์สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนร่างกายตนเอง ให้เป็นเครื่องจักร แทนอวัยวะที่เสียหายภายในร่างกาย ที่สร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้คนในโลกอนาคต ใครที่คิดภาพไม่ออกให้คิดถึงตัวละครในเกม ‘Cyberpunk 2077’ ที่มนุษย์เป็นครึ่งเครื่องจักร แต่ความสบายนั้นก็มาถึงจุดหักเห เมื่อจู่ ๆ ก็มีไวรัสนาโนลึกลับที่เรียกว่า ‘Grey Death’ เกิดขึ้นมา และมันก็ถูกผู้ก่อการร้ายเอามาใช้เป็นประโยชน์ในการแพร่เชื้อนี้ไปสู่ผู้คนทั่วไป ซึ่งการแพร่เชื้อนั้นก็ง่ายดายเหมือนไข้หวัด โดยไวรัสนี้จะไปกัดกินเซลล์ในร่างและเปลี่ยนเนื้อเยื่อในร่างของเหยื่อที่ติดเชื้อจนเป็นสีเทาก่อนเสียชีวิต และมันสามารถกลายพันธุ์จนลามไปยังมนุษย์ปกติได้ด้วย แต่มันก็ถูกยับยั้งได้ด้วย ‘Ambrosia’ จนทำให้เกิดเป็นสงครามแย่งชิงยาแก้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและผู้ก่อการร้าย ที่ถ้าใครได้ไปฝั่งนั้นก็จะสามารถคุมสงครามนี้ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้คือประชาชนที่ไม่รู้เรื่องนั่นเอง

Deus Ex

เชื้อไวรัสที่ร้ายแรงเกิดขึ้นมาแบบไม่ตั้งใจจนคนชั่วเอาไปใช้ในทางที่ผิด จากเกม Spider-Man

Spider-Man

ในบางครั้งการเกิดหรือค้นพบเชื้อไวรัสใหม่ ๆ มันสามารถเกิดขึ้นมาได้ตลอดเวลา แต่สิ่งที่เราควรทำเมื่อค้นพบเชื้อเหล่านี้คือการทำลายมันทิ้งมากกว่าจะเก็บเอาไว้ อย่างสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม ‘Spider-Man’ ที่บริษัท ‘Oscorp’ บังเอิญสร้างเชื้อไวรัสร้ายแรงที่ชื่อ ‘Devil’s Breath’ ขึ้นมาได้ ขณะที่กำลังพัฒนาวิธีรักษาโรคทางพันธุกรรมให้กับ แฮร์รี่ ออสบอร์น (Harry Osborn) ซึ่งทางบริษัท ‘Oscorp’ ก็พยายามจะเก็บเชื้อนี้ไว้ให้ปลอดภัยจากผู้ก่อการร้ายแทนที่จะทำลายมัน  จนสุดท้ายมันก็ถูกเหล่าตัวร้ายขโมยไปและแพร่เชื้อจนชาวเมืองติดโรค หนึ่งในนั้นก็คือป้าเมย์ (Mary Parker) ของ ปีเตอร์  ปาร์คเกอร์ (Peter Parker) ที่ก็เสียชีวิตเพราะโรคนี้ก่อนที่จะได้รับยารักษาโรค ซึ่งไม่ว่าจะตั้งใจรึไม่เมื่อมีเชื้อโรคร้ายในมือแบบนี้สิ่งที่ควรทำอย่างแรกคือทำลายมันทิ้ง เพราะถ้ามันเกิดหลุดออกมาหรือมีคนจงใจแพร่กระจายเชื้อ คนที่เดือดร้อนคือประชาชนนั่นเอง

Spider-Man

ความอาฆาตเป็นเหตุ จากเกม Resident Evil 6

Resident Evil 6

ปิดท้ายกับเกมที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเกม ‘Resident Evil’ คือต้นตำหรับการแพร่เชื้อไวรัสอันดับต้น ๆ ของวงการเกม ที่ตั้งแต่ภาค 0 เป็นต้นมาตัวเกมทุกภาคก็ใช้การแพร่เชื้อเป็นการเปิดและดำเนินเรื่องเสมอ ทั้งแบบตั้งใจใน ‘Resident Evil 0’ และภาค 1 ส่วนภาค 2 และ 3 นั้นคือความบังเอิญที่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีภาคไหนที่จะให้เราเห็นวิธีหรือกระบวนการแพร่เชื้อไวรัสเลย จนมาถึง ‘Resident Evil 6’ ที่ในภาคนี้เราจะได้เห็นการแพร่เชื้อ ‘C-Virus’ ผ่านจรวดที่ยิงมาปล่อยเชื้อในรูปแบบของควัน เพื่อปล่อยให้ประชาชนในประเทศจีนติดเชื้อ ที่ต้นเหตุของความวุ่นวายนี้มาจากความโกรธของ คาร์ล่า ราดาเมส (Carla Radames) ที่ลงทุนเปลี่ยนตัวเองด้วยไวรัสเพื่อให้ตนนั้นเหมือน เอดา วอง (Ada Wong) ในการมัดใจหนุ่ม แต่สุดท้ายเมื่อการเปลี่ยนตัวเองเพื่อมัดใจชายที่รักไม่ได้ผล ความรักก็เปลี่ยนเป็นความแค้น เธอจึงเริ่มแผนการแพร่เชื้อโรคไปทั่วโลกเพื่อสร้างความวุ่นวาย  ที่ต้องเรียกว่าแรงรักพลังพยาบาทก็ว่าได้

Resident Evil 6

ก็จบกันไปแล้วกับ 12 เรื่องราวของตัวร้ายที่พยายามใช้เชื้อไวรัสในการก่อการร้ายแบบต่าง ๆ ที่ในบางเกมนั้นตัวร้ายก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น แต่สุดท้ายด้วยธรรมชาติของไวรัสที่ต้องการแพร่พันธุ์ มันจึงต้องสิงตามร่างของพาหะที่มนุษย์นั้นก็เหมาะสมกับการแพร่พันธุ์ เราจึงได้เห็นเชื้อโรคต่าง ๆ เกิดขึ้นมาในมนุษย์ตั้งแต่อดีตมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งเราก็ยังคงต้องอยู่กับเชื้อโรคกับสิ่งที่เป็นนี้ไปอีกนาน และขอใช้ช่องทางนี้เป็นกำลังใจให้ผู้อ่านทุกท่านสุขภาพแข็งแรงเพื่อสู้กับโรคร้ายต่อไป เพราะยังมีเกมการ์ตูนภาพยนตร์ที่รอเราอีกมากมายในอนาคต ดังนั้นอย่างเพิ่งรีบตายตอนนี้ สู้กันต่อไปเพื่อวันพรุ่งนี้ที่สดใสรอเราอยู่

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส