ผู้นำขององค์กรต่างๆในทุกประเทศต่างต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และวิกฤตการณ์ทางการเงิน ในช่วงปี 2009 จนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าและรูปแบบเศรษฐกิจไปทั่วโลก

ภาวะเศรษฐกิจของประเทศทางซีกโลกตะวันตกที่ชะลอตัว การเปลี่ยนแปลงอำนาจทางเศรษฐกิจที่เคลื่อนย้ายจากประเทศทางซีกโลกตะวันตกสู่ประเทศทางซีกโลกตะวันออกมากขึ้นเป็นลำดับ รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้

การนำเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่มาใช้ อย่างเช่น Broadband Internet, mobile, cloud computing, business intelligence และ social media ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปแบบทางธุรกิจ และทำให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ พร้อมกับการล่มสลายของธุรกิจรูปแบบเก่า จนเป็นโอกาสใหม่ของประเทศที่กำลังพัฒนา (รวมทั้งประเทศไทย) ที่จะฉกฉวยโอกาสครั้งนี้ เพื่อให้ก้าวหน้าทัดเทียมกับประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาเทคโนโลยีนั้นมีความสัมพันธ์กันโดยตรง ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้ตลาดเกิดใหม่มีการลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างมหาศาล เนื่องจากความต้องการในการหาวิธีการเพื่อลดต้นทุน และต้องการผลักดันให้เกิดนวัตกรรม จึงทำให้เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นตัวผลักดันให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้นและเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคจากหน้ามือเป็นหลังมือ รวมทั้งเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่กำลังพัฒนา ผู้นำประเทศและองค์กรจะต้องตระหนักถึงความท้าทายใหม่ๆที่กำลังเผชิญอยู่ การเพิ่มขึ้นของกลุ่มชนชั้นกลางและผู้สูงอายุที่เด่นชัดขึ้น เช่น ในประเทศจีน อินเดีย และในกลุ่มอาเซียน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณา

ปัจจัยสำคัญ 6 ประการต่อไปนี้ เป็นข้อแนะนำที่จะทำให้องค์กรสามารถยกระดับ และสามารถรักษาตำแหน่งในตลาดไว้ได้ โดยสรุปได้ดังนี้คือ

  1. การมาถึงของยุคเศรษฐกิจดิจิทัลในทุกประเทศทั่วโลก ทำให้เกิดคลื่นลูกที่สาม (Third wave) ของระบบทุนนิยม ที่จะเข้ามาปฏิรูปตลาดในหลายๆมิติ ตั้งแต่พฤติกรรมผู้บริโภค ไปจนถึงรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ การนำเทคโนโลยี mobile, cloud computing, business intelligence และ social media มาใช้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริงแล้ว ไม่ใช่เพียงแต่จินตนาการหรือจากการคาดการณ์อีกต่อไป ซึ่งกำลังเกิดขึ้นทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและในประเทศกำลังพัฒนา
  2. การปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เมื่อเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้องค์กรต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรม ได้รับผลกระทบอย่างมากที่จะต้องปรับเปลี่ยน Business model เพื่อรองรับผู้บริโภคยุค Net Generation ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกระทบไปทั่วโลกในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ โทรคมนาคม บันเทิง สื่อ การเงินการธนาคาร ค้าปลีก และสุขภาพ และจะยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อไป เนื่องจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
  3. ความพยายามในการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล และด้วยพลังอำนาจทางเศรษฐกิจและทุนที่กำลังเคลื่อนย้ายไปยังประเทศทางซีกโลกตะวันออก ทำให้องค์กรที่มีแหล่งเงินทุนในประเทศกำลังพัฒนา มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างมหาศาล และกำลังแซงหน้าคู่แข่งในประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้ผู้บริหารองค์กรในประเทศพัฒนาแล้ว จำเป็นต้องจัดการกับความท้าทายใหม่ๆ จากองค์กรในประเทศกำลังพัฒนาที่มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างมาก ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า
  4. ผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่กลายเป็นศูนย์กลางการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและระดับรายได้ ทำให้ตลาดเกิดใหม่กลายเป็นศูนย์กลางของการเติบโตของโลก โดยผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค ภาคธุรกิจ และภาครัฐ ต่างสร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้แก่องค์กรต่างๆในประเทศตะวันตก  ซึ่งหากบริษัทเหล่านั้นสามารถปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมของซีกโลกตะวันออกได้ ก็จะทำให้ยังสามารถยืนอยู่ได้ต่อไป
  5. ภาคธุรกิจเปลี่ยนเป็น Hyperdrive ตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จากการกระตุ้นโดยระบบเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เร่งให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม ตั้งแต่การพัฒนาสินค้าไปจนถึงการตอบสนองผู้บริโภค ดังนั้นระบบธุรกิจอัจฉริยะและการวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์แบบ realtime จึงมีความจำเป็น เพราะไม่เพียงแต่ทำให้องค์กรสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้องค์กรสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  6. การจัดโครงสร้างองค์กรใหม่ภายใต้ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล จะต้องมีความยืดหยุ่นสูง และสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้ในปัจจุบัน องค์กรจากซีกโลกตะวันตกที่ชาญฉลาดจึงพยายามปรับตัวเข้าหาโลกตะวันออกมากขึ้น โดยจะเปลี่ยนรูปแบบการตัดสินใจแบบลำดับขั้น (hierarchical decision making) มาเป็นการบริหารจัดการแบบเครือข่าย (network structure) มากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จะมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรในอนาคต ผู้นำและผู้บริหารองค์กรในตลาดเกิดใหม่ จะมีการนำ mobile strategy มาใช้มากขึ้น โทรศัพท์เคลื่อนที่จะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชากรทั่วโลก

โอกาสอันยิ่งใหญ่ของธุรกิจดิจิทัลรูปแบบใหม่กำลังเกิดขึ้นทุกวินาที ด้วยการหาโอกาสและวิธีการในการเชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อใช้ข้อมูลปริมาณมหาศาลให้เป็นประโยชน์ หาโอกาสในการเข้าสู่ตลาดใหม่ หาวิธีการอันแยบยลในการเปลี่ยนรูปแบบสินค้าและบริการให้สามารถเข้าถึงความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างแท้จริงจนทำให้เกิดตัวแบบธุรกิจใหม่ (New business and delivery models) มากมาย

จนมีผลกระทบต่อธุรกิจที่มีอยู่เดิม รวมไปถึงกฎหมายที่มีใช้บังคับในธุรกิจเดิมอีกด้วย

ธุรกิจที่เกิดใหม่จากนวัตกรรมการผลิตและการให้บริการใหม่ในรูปแบบดิจิทัลดังกล่าว กำลังจะมีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ และกำลังจะทำให้ value chain ของธุรกิจดังเดิมถูกทำลายหายไป ซึ่งธุรกิจที่เกิดใหม่ด้วยรูปแบบดังกล่าวที่มีผลกระทบทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับอุตสาหกรรมของทุกประเทศทั่วโลก

ที่มาของภาพ: pixabay