การมีสุขภาพที่ดี ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง? หลัก ๆ เลยก็คือการกินอาหารที่ดี การออกกำลังกายที่ถูกต้อง รวมไปถึงการมีที่ปรึกษาทางการแพทย์ที่ใกล้ชิด แต่แค่คิดก็ยากแล้วกับการมีปัจจัยเหล่านี้ให้ครบ จะดีแค่ไหนถ้าจะมีแอปพลิเคชันที่สามารถดูแลปัจจัยทั้งหมดนี้ให้คุณได้ แค่ใช้สมาร์ตโฟนเครื่องเดียวเท่านั้น

วันนี้ผมหนุ่ย พงศ์สุข จะพาทุกคนไปแบไต๋ SPRING UP แอปเดียวจบ ครบทุกการมีสุขภาพดี!
SPRING UP คือแอปพลิเคชันด้านการดูแลสุขภาพครบวงจร ที่บอกว่าครบวงจรก็เพราะว่าแอปนี้จะ

  • ดูแลเรื่องอาหารด้วยการบอกข้อมูลโภชนาการที่รวบรวมไว้ให้มากกว่า 5,000 เมนู
  • ดูแลเรื่องการออกกำลังกายด้วยคลิปออกกำลังกายจากผู้เชี่ยวชาญ
  • ดูแลเรื่องการให้คำปรึกษาจากแพทย์เบื้องต้นด้วยการแช็ตออนไลน์

พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าในอดีตเรามียาสามัญประจำบ้าน SPRING UP ก็เหมือนแอปสามัญประจำเครื่องที่คอยเตือนให้เราไม่ลืมดูแลตัวเอง

ปัจจุบัน SPRING UP ก็เปิดให้ดาวน์โหลดแล้วทั้งใน IOS และ Android ส่วนการสมัครใช้ก็ไม่ยากใช้แค่เลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์มือถือเท่านั้น สำหรับการเข้าใช้งานครั้งแรก ต้องกรอกข้อมูลสุขภาพตัวเบื้องต้นเช่น อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก รวมทั้งพฤติกรรมและเป้าหมายในการออกกำลังกาย เพื่อให้ AI วิเคราะห์ว่าคุณควรกินอาหารอย่างไร หรือออกกำลังกายด้วยคลิปไหนในแต่ละวัน

และนี่ก็คือหน้าตาของ SPRING UP นะครับ UI ก็เป็นโทนสีส้มนะครับ ให้ความรู้สึกสดชื่น แอ็กทีฟดีจริง ๆ ตรงนี้ก็จะมีบอกนะครับว่าคุณรับประทานไปเท่าไหร่ เผาผลาญไปแค่ไหน และที่เด็ดมาก ๆ เลยก็คือบอกด้วยว่าวันนี้คุณรับประทานได้อีกกี่แคล

ซึ่งถ้าเรา ‘กดดูเพิ่มเติม’ ก็จะมีการบอกละเอียดมากขึ้นนะครับว่าสารอาหารเช่นโปรตีน ไขมัน น้ำตาล วันนี้เรารับไปเท่าไหร่แล้ว ซึ่งก็จะแบ่งเป็นสีนะครับ สีเทาคือต่ำกว่าเกณฑ์ สีเขียวคือพอดี ส่วนสีแดงคือเกิน

โดยข้อมูลโภชนาการเหล่านี้จะอ้างอิงจากฐานข้อมูล INMU-DailymenuPlan หรือ iDP จากสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล

นอกจากเรื่องอาหารแล้วหลัก ๆ หน้าแอปก็จะบอกนะครับว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้าง ก็จะมี อาหาร, ฟิตเน็ส และเทเลเมด หรือการหาหมอออนไลน์ เดี๋ยวเราไปเจาะลึกแต่ละฟีเจอร์กันครับ

ฟีเจอร์อาหารพอเรากดเข้ามาก็จะมีการบอกข้อมูลสารอาหารและแนะนำโภชนาการ โดยใช้ฐานข้อมูลจากมหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมบันทึกเป็นสถิติด้วยว่าภาพรวมการกินในแต่ละวันของเราเป็นอย่างไร แต่ที่ผมชอบที่สุดคือเราสามารถถ่ายภาพอาหาร เพื่อให้ SPRING UP บอกว่าอาหารจานนี้คือเมนูอะไร และสารอาหารเป็นอย่างไร ผมจะทดสอบให้ดูครับ

พอเราถ่ายแล้วก็จะมีขึ้นรายชื่ออาหาร และจำนวนแคลลอรี่โดยเฉลี่ยขึ้นมา ซึ่งตรงนี้ SPRING UP บอกเราว่ามีเมนูมากถึง 5,000 เมนู แต่ในประเภทอาหารตามสั่งจะไม่ได้ขึ้นแบบฟูลออปชันนะครับ เช่นข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว ก็จะมีแต่กะเพราหมู ส่วนไข่ดาวเราต้องกดเพิ่มเอง

ซึ่งในกรณีที่เราขี้เกียจถ่ายภาพอาหาร เราสามารถกดเสิร์ชชื่ออาหารแทนได้เหมือนกันครับ

จากนั้นกดบันทึก ก็จะมีการบอกว่าวันนี้เรากินไปแล้วเท่าไหร่ กินได้อีกเท่าไหร่ หรือจะดูก็ได้ว่าอาหารที่เรากินไป มีสารอาหารอย่างไร ก็ต้องย้ำนะครับว่า สารอาหารเหล่านี้เป็นค่าเฉลี่ย กล่าวคือปริมาณน้ำตาล หรือสารอาหารอื่น ๆ อาจจะเพิ่มขึ้น – ลดลงตามแต่การปรุงนั้น ๆ แต่ส่วนตัวผมว่าแค่นี้ก็ช่วยเราได้มาก ๆ แล้ว

กินแล้ว ก็ต้องเบิร์นด้วย ในเรื่องการออกกำลังกาย SPRING UP ได้เตรียมวิดีโอไว้หลากหลายแบบนะครับ โดยจุดเด่นของ Spring Up คือเค้าออกแบบแผนออกกำลังกายมาเฉพาะคุณ มีให้ทุกวันตามเป้าหมายโดยไม่ต้องเสียเวลาเสิร์ชหาคลิปหรือจัดตารางออกกำลังกายเองให้ยุ่งยากเลย หรือจะเลือกเองก็ได้ว่าเราอยากเน้นส่วนไหน ในรายละเอียดก็จะมีการบอกว่าวิดีโอยาวเท่าไหร่ และเบิร์นกี่แคล

ในคลิปก็จะมี 3 ตัวอย่างนะครับ

  • BEGINNER สำหรับผู้เริ่มต้น
  • INTERMEDIATE บุคคลทั่วไป
  • ADVANCED สำหรับคนที่อยากออกกำลังกายอย่างเข้มข้น

ส่วนผู้นำการออกกำลังกายก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายจากมหาวิทยาลัยมหิดลนะครับ ในคลิปเราจะไม่สามารถกรอไปข้างหน้าได้นะครับ ทำได้เพียงกรอย้อนหลังเพื่อดูท่าทางที่ถูกต้อง… ทั้งนี้ก็เพื่อให้เราออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กับวิดีโอโดยที่ไม่โกงเวลาครับ

ในการออกกำลังกาย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เราสามารถเชื่อมต่อสมาร์ตวอตช์เข้ากับ SPRING UP ได้ ปัจจุบันแอปเพิ่งเปิดตัวก็เลยต้องเชื่อมต่อ smart watch ผ่าน Apple Health และ Google Fit แต่ในอนาคตจะเชื่อมต่อตรงกับแอปของสมาร์ตวอตช์ทุกยี่ห้อได้อย่างแน่นอนครับ

เมื่อเราออกกำลังกายเสร็จแล้วก็จะมีการบอกนะครับว่าเราเผาผลาญไปกี่แคล และสามารถดูสรุปข้อมูลที่เราออกกำลังกายหรือทานอาหารไปทั้งหมดให้เข้าใจได้ง่าย ๆ

สุดท้ายก็คือ Telemed หรือการปรึกษาหมอออนไลน์ ตรงนี้ SPRING UP จะให้เราแชตคุยกับหมอได้ ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม โดยปรึกษาได้ครั้งละ 15 นาที กี่ครั้งก็ได้ แต่เราจะต้องอายุมากกว่า 15 ปี ถึงจะใช้ฟังก์ชันนี้ได้ ซึ่งหมอที่คุยก็เป็นหมอจริง ๆ เพราะมีการเปิดเผยชื่อไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นฝ่ายเราเองก็ต้องเปิดเผยตัวเองชัดเจนเช่นกัน เพราะข้อกำหนดในการพูดคุยกับหมอคือ ก่อนใช้บริการเราต้องถ่ายภาพพร้อมบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวเองก่อน ถึงจะเริ่มแชตได้ ซึ่งในการแชตเราจะไม่สามารถวิดีโอคอลได้นะครับ ทำได้เพียงถ่ายรูปและส่งเป็นข้อความเท่านั้น

ทดลองใช้บริการ Telemed

หลังจากที่เราพูดคุยเสร็จแล้วระบบก็จะมีการบันทึกไว้นะครับว่าการพูดคุยเป็นอย่างไร และเราเองก็สามารถให้คะแนนความพึงพอใจได้ ซึ่งถ้าหากกังวลว่า 15 นาทีจะคุยกับหมอทันไหม ไม่ต้องกังวลครับ เพราะตอนที่จะหมดเวลา 15 นาที จะมีข้อความถามเราว่าอยากจะต่อเวลาเพื่อคุยกับหมอต่อไหม ซึ่งก็สามารถต่อเวลาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ครับ

ที่สำคัญถ้าปรึกษาแล้วต้องมีกินยา เราสามารถสั่งซื้อแล้วให้ SPRING UP มาส่งผ่าน Messenger ได้ด้วย โดยมีคิดค่าส่งตามระยะทางปกติครับ

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตรงนี้ก็จะเป็นการให้คำปรึกษาและสอบถามอาการเบื้องต้น ซึ่งถ้าหากเรามีแนวโน้มว่าอาการจะหนัก หรือมีโรคอันตรายแทรกซ้อน แพทย์ก็จะแนะนำให้เราไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบอาการอีกครั้ง
จากการใช้งานของกองบรรณาธิการแบไต๋ก็ต้องบอกว่าประทับใจ SPRING UP มาก ๆ

ข้อสังเกต

ข้อแรกคือการตรวจจับเมนูอาหารที่อาจจะยังไม่ครบถ้วน ยกตัวอย่างผัดกะเพรา แม้จะมีกะเพราหลายแบบให้เราเลือก แต่ผัดกะเพราหมูกรอบกลับไม่มี นี่มันเมนูอาหารแห่งชาติเลยนะครับ!

ส่วนอีกจุดหนึ่งคือตัวแอปยังไม่รองรับการใช้งานในแท็บเล็ต กล่าวคือยังใช้ได้แค่ในสมาร์ตโฟนเท่านั้น แต่ข้อสังเกตทั้ง 2 จุดที่กล่าวมาคาดว่ามาจากการที่แอปเพิ่งเปิดตัว ก็หวังว่าในอนาคตเมื่อการพัฒนาเข้าที่แล้ว ทั้งเรื่องเมนูอาหาร และการรองรับดีไวซ์ที่หลากหลายก็น่าจะสมบูรณ์มากขึ้นครับ

สุดท้ายรีวิวที่ดีต้องมีราคา

ต้องบอกว่า SPRING UP นั้นในฟีเจอร์อาหาร และการวางแผนออกกำลังกายนั้นฟรีครับ! แต่ในส่วนของ Telemed นั้นมีค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ 999 บาท/ปี ซึ่งถ้าสมัครภายในปีนี้จะได้รับ Huawei Band 4 ฟรีด้วยนะครับ พอลองมาคำนวณดี ๆ ก็เฉลี่ยเดือนละ 83 บาทเท่านั้น แถมคุยกับหมอได้ไม่อั้นอีก ที่สำคัญได้สมาร์ตวอตช์ฟรีด้วย

หรือถ้าเราอยากได้สมาร์ตวอตช์รุ่นอื่น ๆ แทน ก็สามารถซื้อผ่าน SPRING UP ได้ในราคาพิเศษสุด ๆ ด้วยครับ

ถ้าใครสนใจก็สามารถโหลดใช้ได้เลยครับรองรับทั้ง IOS และ แอนดรอยด์ ที่สำคัญตอนนี้เปิดให้ทดลองใช้ Telemed ฟรี 1 เดือนด้วย กับ SPRING UP แอปเดียวจบ ครบทุกการมีสุขภาพดี!

สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ที่ : http://onelink.to/7a4nu9

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส