[รีวิวเกม] ‘Skull Island: Rise of Kong’ ย้อนรอยตำนาน Kong กับว่าที่เกมห่วยแห่งปี
Our score
1.3

Skull Island: Rise of Kong

จุดเด่น

  1. ได้รู้เรื่องราวช่วงต้นของ Kong

จุดสังเกต

  1. กราฟิกสุดห่วยย้อนยุคไป 20 กว่าปี
  2. เกมเพลย์เลวร้าย แอ็กชันน่าเบื่อมาก
  3. ฉากออกแบบไม่ดีระบบเกมยังไม่สมบูรณ์

สำหรับเกมที่สร้างจากภาพยนตร์ดัง ในยุคนี้อาจจะไม่ค่อยเป็นกระแสมากมายอะไรนัก เพราะว่าหลังจากการมาของเกมบนสมาร์ตโฟน ทำให้เกมที่สร้างจากหนังไปออกบนมือถือเสียส่วนใหญ่ เพราะสร้างได้ง่ายประหยัดและเข้าถึงคนได้มากกว่า

แต่การมาของ ‘Skull Island: Rise of Kong’ เกมที่สร้างจากภาพยนตร์ในจักรวาล Monsterverse เป็นกระแสฮือฮาตั้งแต่ยังไม่วางขาย แต่ไม่ใช่เกมน่าสนใจหรือมีเกมเพลย์ที่สนุก แต่เป็นเพราะกราฟิกในเกมย้อนยุคไปไกลมากเหมือนเกมยุคแรก ๆ บน PS2 ที่ออกในปี 2000 และหลังจากออกวางขายเกมเพลย์ก็โดนวิจารณ์ในแง่ลบชนิดถล่มทลายจากทุกสำนัก จนผู้สร้างต้องออกมาชี้แจงถึงสาเหตุของความห่วย เพราะมีทุนสร้างน้อยและมีเวลาสร้างไม่มากพอ โดยเกมจะวางขายบน PS5, PS4, Xbox Series X/S, Xboxone, Nintendo Switch และ PC

อย่างไรก็ตามความห่วยกลับกลายเป็นข้อดีเพราะมีหลายคนสนใจอยากเล่น เพราะอยากสัมผัสความห่วย จนเป็นที่มาของรีวิวนี้ ส่วนเนื้อเรื่องใน ‘Skull Island: Rise of Kong’ จะเล่าย้อนไปในอดีตสมัย Kong ยังเป็นเด็ก แต่แล้วก็เกิดเหตุร้ายกับครอบครัว Kong เพราะพ่อและแม่โดนฆ่าตาย จนทำให้มันต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและต้องเอาตัวรอดในเกาะกะโหลกที่เต็มไปด้วยอันตรายเพียงลำพัง

กราฟิกแย่กว่าที่คิดไว้มาก

ตามคาดเพราะตั้งแต่คลิปเปิดตัวก็เห็นได้ว่ากราฟิกมันย้อนยุคไปไกลมาก และพอได้สัมผัสจริงมันก็เป็นไปตามนั้น ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของตัวละครที่แทบไม่มี ฉากในเกมที่ดูโล่ง ๆ พื้นผิวของด่านอยู่ในระดับเลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา บอกตรง ๆ ว่าเกมบนสมาร์ตโฟนแจกฟรียังดีกว่าหลาย 10 เท่าเลยด้วยซ้ำ เรียกว่าเหมือนเกมยังสร้างไม่เสร็จมากกว่า

ต่อเนื่องจากกราฟิกเฟรมเรตก็ไม่ได้ลื่น แถมมีอาการโหลดฉากไม่ทันอยู่หลายจุด แถมยังมี Bug มากมายเช่นการเดินตัวติดฉาก เรียกว่าแทบไม่มีอะไรให้ชมเหมือนได้นั่งเล่นเกมบน PS2 แถมเป็นเกมที่ยังสร้างไม่เสร็จด้วย ส่วนเพลงประกอบก็ใส่มาแบบเรียบ ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นไม่มีเพลงธีมจากภาพยนตร์ใส่เข้ามา ยังดีที่มีเสียงพากย์เข้ามาตอนเล่าเรื่องราวด้วยทำให้มันเป็นสิ่งเดียวที่เหมือนว่าผู้สร้างยอมลงทุนทำให้

เกมเพลย์ที่จืดชืด

รูปแบบการเล่นของ ‘Skull Island: Rise of Kong’ มาแนวแอ็กชัน 3 มิติที่ปรับมุมกล้องได้ เราจะได้รับบทเป็น Kong ที่ยังอยู่ในวัยรุ่นทำให้มันตัวเล็กกว่าในภาพยนตร์มาก และยังไม่ได้เก่งกาจอะไรผู้เล่นต้องค่อย ๆ อัปเกรดความสามารถไปเรื่อย ๆ ซึ่งหากฟังตรงนี้อาจจะคิดว่าเราจะได้ต่อสู้กันแบบดุเดือดเร้าใจ แต่พอได้สัมผัสมันผิดคาดมาก

เพราะในช่วงแรกเราจะได้สู้กับนก, ปู หรือสัตว์เล็ก ๆ ที่ไม่น่าจะเป็นศัตรูกับยักษ์ใหญ่อย่าง Kong ได้แต่ใครจะเชื่อว่าสัตว์พวกนี้ฆ่าเราตายได้อย่างง่ายดาย ยังดีที่พอเล่นไปสักพักจะได้พบกับไดโนเสาร์และสัตว์ประหลาดในตำนานมาให้เราต่อสู้ พร้อมกับการเติบโตของ Kong ที่จะกลายเป็นราชาของเกาะ อย่างไรก็ตามปัญหาไม่ใช่เพียงแค่ศัตรูไม่โดดเด่น แต่เกมเพลย์ก็อยู่ในระดับเลวร้ายไม่แตกต่างกับกราฟิก

แอ็กชันสุดน่าเบื่อฉากออกแบบได้ย่ำแย่

ในส่วนของแอ็กชันก็มาแบบเรียบง่ายเราจะได้ใช้พลังทำลายล้างของ Kong เพื่อต่อสู้เช่นการใช้กำปั้นต่อยตี และทุบรวมทั้งมีการโจมตีที่หลากหลายเช่นการพุ่งตัวชน, กระโดดทุบพื้น และมีการสานต่อเป็นคอมโบ แต่มันไม่สามารถทำได้ลื่นไหลนักทำให้การต่อสู้ทำได้ยากลำบากมาก แม้จะมีการโจมตีระยะไกลเช่นการหยิบหินมาปาใส่ศัตรูแต่ระบบเล็งยิงก็ทำออกมาไม่ดีจนแทบจะไร้ประโยชน์ไปเลย ส่วนระบบการหลบหลีกก็ทำได้เรียบ ๆ เพราะมีแต่ท่ากลิ้งตัวหลบที่ทำได้เชื่องช้าทำให้เราพลาดโดนศัตรูโจมตีได้ง่ายจนหัวร้อนบ่อยครั้ง

ต่อเนื่องกับงานออกแบบฉากที่อยู่บนเกาะกะโหลก ก็มีความซับซ้อนพอประมาณ เพราะเราต้องเดินสำรวจหาทางไปต่อและค้นหาไอเทมที่ซ่อนอยู่ ที่มีการกระโดดหรือทุบทำลายกำแพง และปีนป่ายเถาวัลย์ไปยังที่สูงที่ฟังดูง่าย ๆ แต่ด้วยความมือใหม่ของทีมงานก็ทำให้การสำรวจทำได้ลำบาก เพราะมี Bug อยู่หลายจุดที่ทำให้เราร่วงหล่นลงมาระหว่างปีนแบบไม่ทราบสาเหตุ ส่วนการกระโดดข้ามเหวเพื่อเดินทางท่องไปยังสถานที่ใหม่ ๆ ก็ทำออกมาได้แย่การกดปุ่มทำได้ลำบากทำให้ผู้เล่นพลาด ซึ่งแม้จะไม่ได้ตายหรือเสียพลังแต่ก็ต้องเริ่มต้นปีนขึ้นมาใหม่หมดทำให้น่าหงุดหงิดมากกว่าจะสนุก

นอกจากนี้ระบบการเล่นยังไม่มีอะไรแปลกใหม่ แม้ว่าผู้สร้างพยายามจะใส่ระบบอัปเกรดตัวละครด้วยการเพิ่มท่าไม้ตายใหม่ แต่ก็เรียบเกินไปและการอัปเดตก็ไม่ได้ง่าย ๆ เพราะการเก็บค่าพลังสกิลทำได้ยากเกินไป ส่วนระบบแผนที่ก็ทำได้แปลกประหลาดเพราะแม้จะมีแผนที่ให้ใช้งาน แต่กลับไม่ได้บอกว่าผู้เล่นอยู่ตรงจุดไหนและต้องไปทำอะไร ผู้เล่นต้องคาดเดากันเอง ซึ่งทำให้มันดูยุ่งยากอย่างมาก

การนั่งเล่น ‘Skull Island: Rise of Kong’ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายเพราะเกมแทบไม่มีอะไรดี นอกจากผู้เล่นจะได้ฝึกความอดทนกับการเล่นเกมสุดห่วยที่เหมือนยังสร้างไม่เสร็จ กราฟิกก็ตกยุคไปเกิน 20 ปี ดังนั้นควรหลีกห่างให้ไกลไม่จำเป็นไม่ต้องไปหามาเล่น สิ่งดีของเกมอาจจะมีแค่อย่างเดียวคือได้รู้เรื่องราวของ Kong ตั้งแต่วัยเด็กและรู้ว่ามันพบเจออะไรบนเกาะกะโหลก นอกนั้นคือความเลวร้ายทั้งหมด

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส