หลังมีข่าวครองแชมป์คนดังสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์จากการใช้เครื่องบินส่วนตัวผ่านไปได้ไม่นาน ข่าวเก่าเล่าใหม่ก็วนเข้ามาในชีวิตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) อีกครั้ง หลังคดีความเก่าที่ยกฟ้องไปแล้วตั้งแต่ปี 2018 ถูกนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง

ย้อนกลับไปในปี 2017 สวิฟต์ ถูกสองนักแต่งเพลง ฌอน ฮอลล์ (Sean Hall) และ นาธาน บัตเลอร์ (Nathan Butler) ฟ้องในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลง “Playas Gon’ Play” เนื่องจากในเพลง “Shake It Off” ของสวิฟต์มีการใช้คำว่า “playas” และ “haters” ใส่ลงไปในเพลง ซึ่งทั้งสองมองว่าสวิฟต์ตั้งใจละเมิดลิขสิทธิ์เพลงพวกเขา

โดยเนื้อเพลงที่ฮอลล์และบัตเลอร์อ้างว่าสวิฟต์เอาไปใช้ คือ

Playas, they gonna play
And haters, they gonna hate
Ballers, they gonna ball
Shot callers, they gonna call

3LW – Playas Gon’ Play (2001)

และนี่คือท่อนคอรัสเจ้าปัญหาในเพลง “Shake It Off” ของสวิฟต์

Cause the players gonna play, play, play, play, play
And the haters gonna hate, hate, hate, hate, hate
Baby, I’m just gonna shake, shake, shake, shake, shake
I shake it off, I shake it off

Taylor Swift – Shake It Off (2014)

ต่อมาในปี 2018 คดีนี้ได้ถูกปัดตกไป เพราะผู้พิพากษาไมเคิล ดับเบิลยู ฟิตซ์เจอรัลด์ (Michael W. Fitzgerald) ตัดสินว่าเนื้อเพลงของฮอลล์และบัตเลอร์นั้นเป็นเพียงวลีสั้น ๆ ที่ไม่ได้มีความแปลกใหม่และความคิดสร้างสรรค์ใด ๆ ที่จำเป็นสำหรับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ และผู้พิพากษาก็ได้ยกเพลงอื่น ๆ อีก 13 เพลงก่อนหน้าที่มีวลีคล้าย ๆ กันขึ้นมา ซึ่งกลายมาเป็นข้อสังเกตว่าทำไมฮอลล์และบัตเลอร์จึงไม่ฟ้องเพลงเหล่านั้นด้วย

แต่ในเดือนธันวาคม ปี 2021 คดีดังกล่าวก็ถูกนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งเพราะศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐได้กลับคำตัดสินของฟิตซ์เจอรัลด์ และได้กล่าวว่า “ฟิตซ์เจอรัลด์ตัดจบคดีเร็วเกินไป และเพลง “Playas Gon’ Play” ก็มีความคิดสร้างสรรค์เพียงพอสำหรับการคุ้มครองลิขสิทธิ์” ทำให้ฟิตซ์เจอรัลด์ต้องทำการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้งแม้จะยังไม่ได้กำหนดวันในการพิจารณาคดีในศาลอย่างเป็นทางการก็ตาม

ทำให้ในวันที่ 8 สิงหาคม 2022 นักร้องสาวได้ออกมาปฏิเสธว่าเธอไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์เพลงดังกล่าว และเธอยังได้พูดอีกว่าเธอไม่เคยได้ยินเพลงดังกล่าวมาก่อนเลย รวมถึงอธิบายที่มาของเนื้อเพลงที่เป็นปัญหาดังกล่าวเอาไว้ว่า “ในการเขียนเนื้อเพลง ฉันได้ใส่ประสบการณ์บางส่วนในชีวิตของฉันลงไป โดยเฉพาะเรื่องที่ทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับชีวิตของฉัน ข่าวพาดหัว ข่าวปั่น ๆ ในอินเทอร์เน็ต และคำวิจารณ์เชิงลบในรูปแบบต่าง ๆ ที่ฉันเรียนรู้ว่า ฉันต้องโยนมันทิ้งไปแล้วโฟกัสไปที่การแต่งเพลงของฉัน”

เสริมด้วย ปีเตอร์ แอนเดอร์สัน (Peter Anderson) ทนายของสวิฟต์ได้สนับสนุนข้อเรียกร้องในการยกฟ้องคดีนี้ โดยอ้างว่าไม่มีหน่วยงานไหนสามารถผูกขาดคำพูดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในวัฒนธรรมป๊อปได้หรอก

ซึ่งในอดีตคดีการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงเคยเกิดขึ้นในหลายกรณีและมีแนวทางไปสู่บทสรุปที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าคดีในครั้งนี้จะมีบทสรุปไปในทิศทางใดและใครจะเป็นผู้ชนะที่แท้จริง

ที่มา: NME , billboard

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส