ด้วยเสียงวิจารณ์จากแฟนพันธุ์แท้ของ ‘Game of Thrones’ เอง หรือแม้แต่คนดูที่ดูเอามันแค่มังกรกับซอมบี้หิมะ ถึงปัญหาเรื่องช่องโหว่ในซีรีส์นี้ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในซีซันสุดท้าย เช่นแม่มังกรแดเนอริส ทาร์แกเรียน เข้าโหมดคลั่งเร็วเกินไป หรือประเด็นของกองเรือเหล็ก Iron Fleet ที่ถูกลืม แต่สำหรับ จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน (George R.R. Martin) สิ่งที่รบกวนจิตใจของเขามาตลอดคือ ฉากที่เกิดขึ้นใน ‘Game of Thrones’ ซีซันแรก ซึ่ง ‘House of the Dragon’ ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อยอย่างดีเยี่ยมใน EP 3 นี้

และฉากที่ว่าเป็นปมในใจของมาร์ตินนั่นก็คือในซีซันแรก ตอนที่ 5 ฉากที่กษัตริย์ โรเบิร์ต บาราเธียน กับองครักษ์ และข้าราชบริพารติดตามเพียง 2-3 คนกำลังเดินล่าหมูป่าในป่าคิงส์วูดนั่นเอง!

กษัตริย์ออกล่าสัตว์มันต้องไม่ใช่มีคนแค่นี้สิ!

“เงินทุนเราต่ำจริง ๆ ในตอนนั้น คุณเชื่อมั้ยว่ามันคือฉากที่ผมไม่ชอบที่สุดในทั้ง 8 ซีซันเลยล่ะ” เขาเคยบ่นให้สื่อฟังเมื่อตอนเปิดตัวหนังสือ ‘Fire Cannot Kill a Dragon’ ในปี 2020 “ในฉากนี้มีแค่กษัตริย์โรเบิร์ตกับผู้ติดตามอีก 3 คน เดินเท้าถือหอกเพื่อล่าสัตว์ ซึ่งในหนังสือเขียนไว้เพียงแค่ ‘กษัตริย์โรเบิร์ตออกล่าสัตว์ และได้รับข่าวร้ายว่าพระองค์โดนหมูป่าขวิด’ แต่ก็จริงแหละที่ผมไม่เคยทำฉากนี้มาก่อน แต่ผมรู้ดีว่าเวลากษัตริย์จะออกล่าสัตว์ทั้งที จะมีต้องคนเป็นร้อย ๆ ที่คอยอำนวยความสะดวก ดูแลอารักขา มีพลับพลาที่ประทับชั่วคราว มีสุนัขแกะรอย มีการเป่าเขาสัตว์ส่งสัญญาณกันอึกทึกครึกโครม มันไม่ใช่มีแค่ผู้ชาย 3-4 คนเดินตามหาหมูป่าแน่นอน” 

‘House of the Dragon’ เลยจัดให้ ด้วยงบประมาณที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย!

ไรอัน คอนดัล (Ryan Condal) และ มิเกล ซาปอชนิก (Miguel Sapochnik) ตระหนักดีถึงสิ่งที่เป็นปัญหานี้ และถึงแม้ว่าในหนังสือ ‘Fire & Blood’ จะไม่ได้ลงรายละเอียดของการออกล่าสัตว์ของกษัตริย์วิเซริสเอาไว้ แต่พวกเขาก็เติมเต็มให้จินตนาการของมาร์ตินเกิดขึ้นบนจออย่างที่เราได้เห็นกัน ทั้งค่ายล่าสัตว์ที่สุดอลังการ คนติดตามเป็นร้อย ม้า สุนัขล่าสัตว์ ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่กษัตริย์ในยุคกลางพึงกระทำเมื่อออกล่า และว่ากันว่าฉากนี้ก็มีคนชื่นชมอยู่ไม่น้อยทีเดียว บางทีคนอาจจะชอบมากกว่าฉากเจ้าชายเดมอนขี่มังกรรบกับคนเลี้ยงปูเสียอีก และรายละเอียดต่าง ๆ ที่ออกมาก็ทำได้ดีมาก ๆ เปรียบเทียบกับซีรีส์ ‘Game of Thrones’ ที่ต้องรอการอนุมัติงบประมาณให้มากขึ้นในซีซันถัดไป จนถึงซีซันสุดท้ายที่ทุ่มงบไปมหาศาลเพื่อให้ซีรีส์จบได้ดีที่สุด แต่สำหรับ ‘House of the Dragon’ เราได้เห็นการ “ทุ่มทุนสร้าง” ของจริง เพื่อให้ความสมบูรณ์ในรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ ในจอตรงกับจินตนาการของมาร์ตินในหนังสือให้มากที่สุดตั้งแต่ตอนแรกและซีซันแรกของซีรีส์

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส