ความคืบหน้าในการสอบสวนเครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน MH370 สายการบินมาเลย์เซียแอร์ไลน์ ในขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นในการสืบสวน โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนของทางการมาเลเซียได้ระบุว่า เครื่องบินลำดังกล่าวถูกหันเหออกจากเส้นทางการบินด้วยความตั้งใจ ซึ่งพบว่า ได้บินสูงถึง 45000 ฟุต เกินระดับที่โบอิ้ง 777 จะสามารถไปได้ ก่อนที่จะลงมาที่ 23000 ฟุต และเจ้าหน้าที่สืบสวนมุ่งเน้นไปที่ผู้ต้องสงสัยที่มีความรู้ความสามารถที่จะปิดสัญญาณการบินเพื่อให้หลุดพ้นจากเครื่องตรวจจับ ไปจนถึงผู้ก่อการร้ายที่ถนัดดัานวนินาศภัยทางอากาศ รวมถึงสปายและสายลับจากทั้งในและต่างประเทศ โดยยังไม่ตัดกัปตันและนักบินออกจากรายชื่อผู้ต้องสงสัย ซึ่งทางการมาเลเซีย ได้สรุปความเป็นไปได้ในกรณีเครื่องบินปริศนาไว้ 4 แนวทางดังนี้

1 มีการข่มขู่ บีบบังคับ จนทำให้นักบินและผู้โดยสารจำเป็นต้องทำตาม

2 อาจจะมีบางคนที่เสียสติแต่มีความเข้าใจในเรื่องเครื่องบินโบอิ้งเป็นคนควบคุม
เครื่องบินลำนี้อยู่

3 เป็นการจี้เครื่องบินเพื่อเรียกค่าไถ่ หรือข้อเรียกร้องอื่นๆ ของผู้ก่อการร้าย

4 ปัญหาส่วนตัวบางประการ (Personal Problem)

จากกรณี MH370 หายปริศนาครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจ เช่นเดียวกับเหตุการณ์สูญหายของเครื่องบินพาณิชย์ลำอื่นๆ ก่อนหน้านี้ในอดีต เช่นเหตุการณ์ในวันที่ 10 มีนาคม 1956 เครื่องบิน B47 ของสหรัฐฯ ได้หายไปจากน่านฟ้าระหว่างบินจากฐานทัพ Macdil Air Force ในฟลอริดาสู่ฐานทัพทางอากาศ Ben Gerirในโมร็อกโก ซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าวบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์และอาวุธหนักมากมายพร้อมกับนักบินอีกสามคน ไม่มีใครได้รับรู้ชะตากรรมของเครื่องบินลำนั้นและนักบินอีกเลยจนถึงวันนี้

เครื่องบินโบอิ้ง 707  เที่ยวบิน Varig 967 ของสายการบินวาริค บราซิลเลี่ยนแอร์ไลน์ เดินทางจากสนามบินนานาชาติโตเกียวไปสู่เมือง ริโอ เด จาเนโร พร้อมลูกเรือและนักบินที่ชำนาญด้านการบินระดับสูง (กัปตันที่ขับเที่ยวบินมรณะลำนี้มีชั่วโมงบินถึง 23000ชั่วโมง) โดยพวกเขาทั้งหกคนหายไปพร้อมกับเครื่องบินขนาดมหึมาลำนี้ ซึ่งบรรทุกภาพเขียนของศิลปินชื่อดังลูกครึ่งบราซิล-ญี่ปุ่น มานาบู นาเบะ จำนวน 153 ภาพ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

1509667_10153878763150162_1534089588_n

ที่มา : PookSukontaFB | wikipedia