[รีวิว] The Secret Life of Pets 2: เลข 2 คือความสนุกแบบคูณ 2 จากภาคแรก

Our score

9.0

จุดเด่น

1. การเล่าเรื่อง และการสร้างพัฒนาการตัวละครทำได้ดีขึ้นมาก
2. หนังน่ารักมาก สนุกมาก
3. สโนว์บอลโคตรเด็ด
4. ข้อคิดดี ๆ เรื่องพ่อแม่ลูก

จุดสังเกต

1. ตัวละครจากภาคแรกหลายตัวหายไปเลย

• ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท

  8.5

• คุณภาพงานสร้าง

  8.5

• ความสนุก

  9.5

• การสร้างตัวละคร

  9.5

• คุ้มเวลา ค่าตั๋ว

  9.0

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ

The Secret Life Of Pets เรื่องลับแก๊งขนฟู คือผลงานลำดับที่ 5 ซึ่งเป็นการจับมือกันระหว่างอิลลูมิเนชั่น เอนเตอร์เทนเมนต์ และยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งจะมาเผยความลับว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงทำอะไร ระหว่างที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้นักแสดงตลกชื่อดังอย่าง แพตตัน ออสวอล์ต, อีริค สโตนสตรีท และเควิน ฮาร์ท มาให้เสียงพากย์ โดยได้ คริส เรโนด์ จาก Despicable Me, Despicable Me 2 มารับหน้าที่ผู้กำกับเตรียมพบกับความน่ารักของเหล่าสัตว์เลี้ยงแสนซน (สุดแสบ) ใน The Secret Life Of Pets เรื่องลับแก๊งขนฟู

Play video

หลังจากภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งรายได้ทั้งคำวิจารณ์  ด้วยทุนสร้างราว 75 ล้านเหรียญ แต่กวาดเงินทั่วโลกไปกว่า 875 ล้านเหรียญ ทั้งยังแจ้งเกิดให้กับตัวละครร้ายขวัญใจมหาชนอย่างเจ้ากระต่ายแสบ สโนว์บอล ทั้งยังพาให้ เควิน ฮาร์ท ที่พากย์เสียงได้รับรางวัลตัวร้ายในดวงใจ และสัตว์เลี้ยงที่เด็กอยากเลี้ยงมากที่สุด จากเวที Kid’s Choice Awards 2017 ไปครองด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าในภาคต่อนี้ เจ้าสโนว์บอลต้องมีบทบาทสำคัญขึ้น

หนังเล่าเรื่องชีวิตที่น่าจะพบกับความปกติและสงบสุขของ แม็กซ์ (แพตตัน ออสวอล์ต) เจ้าสุนัขที่พบบ้านแสนสุขมีเจ้านายอย่าง เคที่ และเพื่อนรักเป็นหมาใหญ่อย่าง ดุ๊ก (อีริค สโตนสตรีท) ทั้งวายร้ายในภาคก่อนอย่างกระต่ายผู้เกลียดชังมนุษย์ สโนว์บอล (เควิน ฮาร์ท) ก็ได้พบเด็กน้อยเจ้านายใหม่ที่ทำให้เขากลับมารักมนุษย์ได้อีกครั้ง ทุกอย่างเหมือนน่าจะไม่มีภาคต่อก็ได้ แต่ทว่าสิ่งที่เจ้าแม็กซ์กังวลก็เกิดขึ้น “บ้านไหนที่มีเด็ก ชีวิตของสัตว์เลี้ยงจะเปลี่ยนไปตลอดกาล” แล้วเคที่ก็ได้พบรักและมีลูกจนได้ แรก ๆ มันคือหายนะแต่ในที่สุดแม็กซ์ก็หลงรักเจ้านายตัวน้อยของเขา ทว่าความรักที่มากเกินไปก็มาพร้อมความเครียดเพราะกลัวว่าเจ้านายตัวน้อยจะต้องออกไปเผชิญโลกกว้างในที่สุด ซึ่งทุกอย่างดูอันตรายเหลือเกินในสายตาของแม็กซ์ แม้สัตวแพทย์จะรักษาอาการทางใจของแม็กซ์ไม่ได้ แต่การเดินทางประจำปีของครอบครัวเคที่สู่ชนบทก็ทำให้แม็กซ์ได้พบกับ รูสเตอร์ (แฮริสัน ฟอร์ด) ผู้จะมาเปลี่ยนชีวิตของแม็กซ์ให้ดีขึ้นหรือไม่ก็เลวร้ายลงกว่าเดิม

ในขณะที่อีกด้าน สโนว์บอล ได้เล่นบทบาทซูเปอร์ฮีโร่ตามเจ้านาย และเขาก็อินถึงขนาดหาเหาใส่หัวเข้าไปรับปาก เดซี่ เพื่อช่วยเหลือเสือโคร่งขาวที่ถูกลักลอบนำเข้าประเทศ จนกลายเป็นการต่อกรกับเจ้าของคณะละครสัตว์วายร้ายที่มีสมุนเป็นแก๊งหมาป่าและลิงจ๋อสุดแสบ ในขณะที่อีกด้าน กิ๊ดเจ็ต สุนัขสาวผู้หลงรักแม็กซ์ก็ได้รับภารกิจฝากของเล่นสุดรักไว้หากแต่เธอเผลอทำกลิ้งเข้าไปในห้องที่มีแก๊งแมวสุดโหด และเธอต้องทำทุกวิธีทางเพื่อนำของเล่นสุดรักของแม็กซ์กลับคืนมา ซึ่งสุดท้ายทั้ง 3 เส้นเรื่องนี้ก็มาบรรจบกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ และสนุกมากกกกกกกก

โดยส่วนตัวคิดว่าหนังภาค 2 นี้ทำได้ดีและลงตัวกว่าภาคแรกมาก ตัวละครดูมีบทบาทกระจายและโดดเด่นในเส้นเรื่องของตัวเองชัดเจน เห็นพัฒนาการของตัวละครแต่ละตัวชัดขึ้นมีเสน่ห์ขึ้น นอกจากนี้การเดินเรื่องเองก็มีความน่าติดตามมากขึ้น ด้วยแต่ละตัวก็ล้วนมีภารกิจสำคัญแตกต่างกันไป และเมื่อทั้ง 3 ภารกิจมาบรรจบกันมันก็ทำให้สิ่งที่หนังปูมาทั้งหมด ว้าว มาก ๆ โดยเฉพาะเจ้า สโนว์บอล นี่ได้รับการปรับแต่งให้เฟี้ยวฟ้าวขึ้นมาก และเชื่อว่าสามารถมีหนังเดี่ยวของตัวเองได้สบาย ๆ ในอนาคต ส่วนแม็กซ์นั้นว่ากันตรง ๆ ก็เป็นตัวเอกที่เสน่ห์น้อยกว่าชาวบ้านตั้งแต่ภาคแรก ทว่าในภาคนี้กลับสามารถสร้างมิติของตัวละครให้เราเอาใจช่วยและรู้สึกผูกพันกับแม็กซ์ได้ดีมาก นับว่าเป็นการแก้ปัญหาการเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยลงตัวในภาคแรกได้อย่างยอดเยี่ยมเลย

สำหรับภาคนี้ยังมีเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ อีกคือ คนเขียนบทสามารถนำพาความรู้สึกของพ่อแม่ที่ห่วงลูก ยามเมื่อเด็กน้อยเริ่มโตและต้องไปโรงเรียนครั้งแรกหรือออกไปอยู่คนเดียวครั้งแรก โดยนำมาผสานกับเรื่องความกล้าหาญ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยงได้อย่างน่ารักน่าชัง ทั้งยังชวนคิดตามด้วย เป็นบทที่ออกแบบมาให้สะท้อนปัญหาในหนังและโลกความจริงไปพร้อมกัน เหมาะจะดูทั้งพ่อแม่ลูกเลยทีเดียว เชื่อว่าภาคนี้น่าจะทำได้ดีทั้งรายได้และกล่องมากกว่าภาคที่แล้วด้วย

แก๊งขนฟูยกมาเป็นโกดัง มนุษย์รีบควักตังค์เปย์โดยไว คลิ๊กที่รูปโลด