[รีวิวแผ่น 4K] กลับสู่มิดเดิลเอิร์ธกับ Lord Of The Rings Trilory 4K Blu-Ray Steelbooks Collection

Our score

7.8

จุดเด่น

1. งานภาพ 4K แท้และมีระบบภาพ Dolby Vision ทำให้การมาชมไตรภาคแห่งแหวนเอกธำมรงค์คราวนี้ไม่เหมือนเดิม
2. ระบบเสียง Dolby Atmos คือดีงามมาก กระหึ่มและมีมิติ
3. แพ็กเกจจิงสุดพรีเมียม หรูหรา และดีไซน์ได้ถูกใจแฟนหนังมาก ๆ

จุดสังเกต

1. ไม่มี Blu-Ray Special Features ให้

• การแพ็กของและขนส่ง

  10.0

• แพกเกจจิง

  9.0

• คุณภาพแผ่น

  10.0

• Special Features

  0.0

• ความคุ้มค่า

  10.0

นับถึงวันนี้หนัง The Lords of the rings ภาคแรกอย่าง Fellowship of the rings ก็ได้มีอายุครบ 19 ปีเป็นที่เรียบร้อย (หนังฉาย 19 ธันวาคม 2001) และหลังจากมันออกฉายก็ได้สร้างตำนานหนังแฟนตาซียอดเยี่ยมกวาดทั้งรายได้และได้เข้าชิงออสการ์สาขาใหญ่ ๆ ติดต่อกันทั้ง 3 ภาคและหลังจากผ่านเวลามาร่วม 2 ทศวรรษก็ได้เวลาที่ตำนานไตรภาคแห่งแหวนเอกธำมรงค์เรื่องนี้จะได้ออกวางจำหน่ายในรูปแบบ 4K Blu-Ray Steelbook Collection กันเสียทีโดยคราวนี้เราสั่งมาจากทาง MPO Licensing ผู้ได้รับลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายผ่านช่องทางเว็บไซต์ Chatuchak2Home.com

การแพ็กของและการขนส่ง

สำหรับการแพ็กของแล้วก็เชื่อมือ MPO ได้ครับเพราะใส่ใจทั้งการห่อบับเบิลและบุทั้งก้นกล่องและบนบ้บเบิลด้วยเศษกระดาษจากเครื่องทำลายเอกสารเรียกได้ว่าถ้ากล่องไม่หล่นลงมาโดนรถบรรทุกทับจริง ๆ ก็ยากล่ะครับที่จะทำให้สินค้าเสียหายดังนั้นเอาไป 10 คะแนนเต็ม

แพ็กเกจจิง

สำหรับแพ็กเกจจิงของ The Lord of The Rings Motion Pictures Trilogy ก็นับว่าอลังการงานสร้างสมการรอคอยและราคาสุดแสนจะเจ็บปวดครับฮ่าาาาา เพราะนอกจากกล่องสตีลบุ๊กงาม ๆ แล้วก็ยังมีเคสเหล็กทองเงางามเป็นกล่องสวมที่ทางผู้ผลิตเรียกซะหรูว่า Library Case ที่พิมพ์รูปกราฟิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังไตรภาคแห่งวงแหวนเอกธำมรงค์โดยจะมีการ์ดบอกข้อมูลแผ่นหุ้มอยู่ตามในภาพ

และเมื่อเรานำกล่องเหล็กทั้ง 3 ภาคออกมาเชยชมก็จะเห็นการออกแบบที่ดูตั้งอกตั้งใจมากโดยภาคแรกอย่าง The Fellowship Of The Ring จะทำหน้าปกกล่องเหล็กเป็นเงาของพันธมิตรแห่งแหวนในขณะที่ปกในใต้ถาดจะเป็นรูปปั้นหน้าประตูแห่งอาร์โกนาร์ธ ส่วนภาคที่ 2 อย่าง The Two Towers ก็จะมีเงาของกองทัพทรีเบียร์ดแห่งเอนต์ท่าเตรียมรบหน้าไอเซนการ์ดป้อมหอคอยคู่ของซารูมาน ปกในจะเป็นภาพจากฉากสมรภูมิแห่งเฮล์มสดีป ส่วนภาคที่สามอย่าง The Returns Of The Kings ก็จะมีหน้าปกเป็นกอลลัมดาวเด่นแห่งภาคนี้และปกในจะเป็นฉากสมรภูมิทุ่งเพเลนนอร์สุดอลังการ

โดยแต่ละภาคจะบรรจุแผ่น 4K Blu Ray 3 แผ่นเป็นฉบับฉายโรง 1 แผ่นและฉบับ Extended Edition 2 แผ่นที่จะยาวกว่าฉบับฉายโรงและไม่มีบลูเรย์สเปเชียลฟีเจอร์สอะไรแถมมาให้เลยซึ่งใครที่ไม่เคยซื้อฉบับ DVD หรือบลูเรย์ไว้เลยก็จะไม่มีสปเชียลฟีเจอร์สให้ดูซึ่งถือเป็นข้อด่างพร้อยเล็ก ๆ สำหรับนักสะสมนะครับแต่ด้วยคุณภาพของแพ็กเกจจิงความอลังการของไลบรารีเคสก็ทำให้มันครอง 9 คะแนนไปในหมวดนี้ครับ

คุณภาพแผ่น

สำหรับข้อมูลของแผ่นหนัง The Lord of The Rings ฉบับไตรภาคนี้ตัวหนังถ่ายด้วยฟิล์ม 35 มม.แล้วมีการถ่ายโอนภาพดิจิทัลหรือ Digital Intermediate ที่ความละเอียด 4K มาตรฐาน Dolby Vision ซึ่งบอกตามตรงเลยว่าแค่สเปกที่มันบอกมานี่ก็คาดหวังถึงความยอดเยี่ยมของงานภาพได้อยู่แล้ว และจากการชมจริงก็พบว่งานภาพมันมหัศจรรย์มากซึ่งเห็นได้ถึงความประณีตของปีเตอร์ แจ็กสัน ในการถ่ายทำและงานด้านวิชวลเอฟเฟกต์ระดับมาสเตอร์พีซจริง ๆ จนกล้าพูดได้เลยว่านี่คือฉบับที่ดีที่สุดของ The Lord of The Rings แล้วครับ

และไม่เพียงงานภาพเท่านั้น งานเสียงที่คราวนี้มิกซ์ใหม่ในระบบ Dolby Atmos ก็ทำได้อย่างน่าทึ่งและแตกต่างจากการชมในครั้งแรกจริง ๆ คราวนี้ฉากรบพุ่งต่าง ๆ จะสมจริงขึ้นด้วยการทำงานของลำโพงเหนือศีรษะและลำโพงด้านข้างที่บอกเลยว่ากระหึ่มสะใจและให้มิติเสียงที่ดีมาก ๆ ครับ โดยสิ่งที่น่าเสียดายสำหรับแผ่น 4K Blu-Ray ชุดนี้มีอย่างเดียวคือไม่มีพากษ์ไทยที่ถือว่าเป็นมาสเตอร์พีซมากสำหรับหนังชุดนี้แต่จากคุณภาพโดยรวมก็พร้อมยกใจให้แล้วครับเอาไปเลย 10 คะแนนเต็ม

Special Features

มาถึงจุดสุดเจ็บปวดของสินค้าชุดนี้กันบ้างนั่นคือ The Lord of The Rings Trilogy 4K Blu-Ray ชุดนี้จะไม่มีสเปเชียล ฟีเจอร์ส อะไรมาให้เลยซึ่งถ้าใครเคยซื้อ DVD หรือBlu-Ray ไว้บ้างแล้วก็ถือว่าโชคดีล่ะนะครับที่ยังอาศัยแผ่นเก่ามาดูเบื้องหลังงานสร้างที่นับได้ว่าล้ำค่ามาก ๆ กลับมาดูอีกครั้งแต่หากใครเพิ่งซื้อสะสมเป็นครั้งแรกก็อาจต้องหาแผ่น Blu-Ray หรือ DVD 2 แผ่นมาเพื่อดูเบื้องหลังเพิ่มเติมหรือรอฉบับ Remaster ที่มีกำหนดวางขายในอเมริกาเดือน เมษายนปี 2021 แทนครับซึ่งหมวดนี้ถือว่าไม่ได้คะแนนนะครับ

สรุปเลยคุ้มไม่คุ้ม

สำหรับราคาของThe Lord of The Rings Trilogy 4K Blu-Ray Steelbook ในรูปแบบ Boxset บนเว็บไซต์ของ chatuchak2shop.com อยู่ที่ 7,900 บาทซึ่งตอนนี้สินค้าได้ขาดตลาดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าหากใครได้ซื้อหามาไว้ในอนาคตสามารถเก็งราคาได้แน่นอนครับเพราะตอนนี้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีการเปิดให้จองสินค้าก็ขึ้น Sold Out กันหมดแล้ว ดังนั้นแม้จะเป็นการลงทุนที่ “เจ็บที่สุด” ในปีนี้แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุ้มมากดังนั้นเอาไป 10 คะแนนเต็ม

พิสูจน์อ้กษร : สุชยา เกษจำรัส