พอล เจสัน ไคลน์ (Paul Jason Klein) คือฟรอนท์แมนของวง ‘LANY’ วงดนตรีอินดี้พอปสัญชาติอเมริกันจากแคลิฟอร์เนียที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในต่างประเทศและในไทย ซึ่งวงเองก็เคยมาเปิดคอนเสิร์ตในบ้านเราถึง 2 ครั้งโดยที่บัตร sold out ไปอย่างรวดเร็ว
ในวาระที่พวกเขากำลังจะออกอัลบั้มใหม่ซึ่งมีชื่อแปลกหูว่า ‘gg bb xx’ ป๋าเต็ดชวนพอลมาคุยใน ‘ป๋าเต็ดทอล์ก’ Special EP. เกี่ยวกับเรื่องราวของความสำเร็จ ความรับผิดชอบในฐานะศิลปิน และการรับมือกับ ‘ ความเกลียด ‘ เป็นบทสนทนาสั้น ๆ เพื่อให้รู้จักกับพอลและ LANY ดีขึ้น อุ่นเครื่องก่อนไปฟังผลงานอัลบั้มใหม่ ‘gg bb xx’ ต้นเดือนกันยายนนี้ครับ
พอลคิดถึงอะไรที่สุดในกรุงเทพ ฯ ครับ ไม่ได้มานานแล้วใช่ไหมล่ะ
ของกินครับ ผมชอบของกินที่นั่นมากโคตรอร่อย
อาหารแบบไหนบอกได้ไหม
ผมไม่รู้มันเรียกว่าอะไรผมชอบซุปต้มข่ามาก (น่าจะหมายถึงต้มข่าไก่) อีกอย่างที่ชอบคือ ‘ไก่สะเต๊ะกับซอสถั่ว’ ครับอร่อยขึ้นหิ้งมาก
คุณเพิ่งปล่อยอัลบั้ม ‘Mama’s boy’ ไปเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว แล้วตอนนี้คุณจะมีอัลบั้มใหม่เหมือนคุณทำไม่พักเลยนะ คุณทำได้ไงทำไมมันเร็วขนาดนั้น
คืออัลบั้มก่อนผมปล่อยวันที่ 2 ตุลาปีที่แล้ว แล้วผมก็ต้องตัดสินใจระหว่างนั่งพักไม่ทำอะไรเลยและรอให้โลกเป็นปกติหรือผมควรจะไปเขียนเพลงไปทำอัลบั้มใหม่ ซึ่งผมเลือกอย่างหลังแล้วผมก็ทุ่มทำมันสุดตัวมากคือโคตรเหนื่อยครับแต่ผมดีใจมากที่ได้ทำ เหนื่อยแต่ก็คุ้ม มันคุ้มจริงๆครับ ผมฟินมากนะที่ได้ทุ่มลงไปขนาดนั้น
โอเคครับแล้วคือโควิดเนี่ยมันแยกผู้คนออกจากกันมา 2 ปีแล้วนานมากมันดีหรือไม่ดีครับทำเพลงช่วงโควิด
ถ้าตอบสั้น ๆ เลยมันไม่ดีหรอกครับเพราะเพลงมันต้องการองค์ประกอบอื่นด้วยคือสมมุติว่าทุกคนสามารถเขียนเพลงที่ดีที่สุดในโลกได้ ปล่อยมันออกไปแล้วทุกคนบนโลกก็จะ ว้าว เจ๋ง ดีเยี่ยมยอด แล้วก็นั่งฟังกันไป ผมให้ 2 สัปดาห์เลยแต่แล้วไงถ้ามันไม่มีอย่างอื่นตามมา แต่อย่างไรก็ตามมันก็ทำให้ผมทำเพลงเร็วขึ้นแล้วมันก็ให้เวลาผมปั้นมันอยู่กับมันมากขึ้น แต่นั่นแหละผมไม่มีวันยอมแลกโอกาสที่จะเล่นคอนเสิร์ตกับอะไรทั้งนั้นในโลกนี้นะครับ คือมีศิลปินไม่เยอะนะครับที่เล่นคอนเสิร์ตต่อปีมากกว่าพวกเรา คือพวกเราเล่นกัน 130 โชว์ต่อปีทุกปีมันเป็นส่วนใหญ่ ๆ เลยของสิ่งที่พวกเราทำน่ะ แล้วเราก็รอเหลือเกินที่จะได้กลับไปทำแบบนั้น
ครับแล้วผมก็คิดว่าทุกคนก็อยากจะไปดูโชว์คุณอีกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เราต้องการคอนเสิร์ตมากครับตอนนี้
ใช่เลยครับ
มาที่ชื่ออัลบั้มใหม่ของคุณชื่อมันดูประหลาดหน่อย ๆ นะ ‘gg bb xx’ เล่าที่มาที่ไปให้ฟังได้ไหมครับ
ได้ครับตอบสั้น ๆ เลยคือมันไม่มีความหมายอะไรเลยครับคือ 12 เพลงในอัลบั้มนี้ ผมหมกมุ่นกับฟีลลิงของมันมากจนแบบถ้าจะเอาคำศัพท์ไหนในดิกชันนารีมาตั้งเป็นชื่อมันก็จะโดนชี้นำไป คือมันไม่ได้น่ะ ผมเลยแบบงั้นก็คิดคำใหม่ขึ้นเลยคือแบบสร้างประโยคใหม่เลยหรือลองเอาตัวอักษรมาเรียงต่อกัน ผมเลยตัดสินใจว่างั้นเอา gg bb xx แล้วเราก็บอกคนว่านี่แหละชื่ออัลบั้ม พอได้ยินคนพูดมันออกมาแบบคุณมันโคตรรดีเลยครับ มันโคตรเจ๋งครับ แล้วก็แบบ 12 เพลงนี้มันทำให้คนรู้สึกแบบไหนนั่นแหละความหมายของมัน
โอ้โหไอเดียดีมากเลยครับแล้วปกอัลบั้มนี้ก็แบบงานศิลปะมากมันน่าสนใจมากเป็นไงมาไงครับ
ซาบซึ้งใจมากครับที่คุณพูดแบบนั้น คือเราทำงานหนักมากแล้วมันสำคัญกับผมมากที่มันต้องใช่ มันต้องได้น่ะ มันเริ่มจากเช้าวันหนึ่งครับผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับฟังดูบ้า ๆ หน่อยนะมันคือภาพสมองที่ถูกทำโดยผลไม้ครับ คือผมเห็นภาพหัวของมันแล้วผมเห็นสมองอยู่ในหัวนั้นตอนนั้นผมก็เริ่มวาดมันออกมาเลยครับให้เหมือนภาพในหัวผมผ่านไปไม่กี่เวอร์ชันจนในที่สุดมันก็ออกมาเป็นแบบที่คุณเห็น คือเราทำเสร็จกันตั้งแต่ 4-5 เดือนที่แล้วนะแต่ผมยังมองมันทุกวันหยุดดูไม่ได้เลย คือผมยังเจอรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าคุณซูมเข้าไปก็จะเห็นรายละเอียดพวกนี้ครับผมภูมิใจกับมันมากจริง ๆ ครับ
มาที่ข้อต่อไปครับการเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จเนี่ยมันก็จะตามมาด้วยการเป็นจุดสนใจของผู้คนใช่ไหมครับแล้วเวลามันมีข่าวที่พูดถึงคุณในแง่ลบเนี่ย คุณรับมือกับมันยังไง
ผมคิดแป๊บนะครับผมว่าในที่สุดแล้วผมทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้นะคือผมรักการทำเพลง รักที่จะทำให้คนมีความสุข แต่ความจริงก็คือผมทำให้ทุกคนมีความสุขไม่ได้และในหลายหลายครั้งยิ่งคนประสบความสำเร็จในชีวิตมากเท่าไหร่ คนที่เกลียดคนมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วย หรืออยากจะพูดอะไรไม่ดี อยากสร้างเรื่องบางอย่างขึ้นมา แต่ผมคิดว่ามันก็เป็นสิ่งที่ผมต้องเรียนรู้นะ ผมยังต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับทัศนคติลบ ๆ หรือคำวิจารณ์ แต่ผมคงไม่ได้ยุ่งแล้วว่าคนจะพูดอะไรถึงผมหรือจะคิดอะไรเกี่ยวกับผม มันไม่ได้มีค่ากับเวลาของผมนะ ผมคงได้แค่การกระทำของผม ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ควบคุมได้ว่าผมจะปฏิบัติกับคนอื่นยังไง จะรักคนรอบตัวผมยังไง จะทำงานสร้างสรรค์ของผมยังไง คือผมเอาเวลาของผมไปใช้ตรงนั้นแทนแล้ว ปล่อยให้พลังลบพวกนั้นมันลอยหายไปเอง คือคุณทำงานหนักนะที่จะเขียนเพลงทำเพลง แน่นอนว่าคุณก็ต้องอยากให้คนชอบใช่มั้ยครับ คือมันไม่สนุกหรอกถ้าพวกเขาไม่ชอบอ่ะ แต่อย่างที่ผมบอกถึงที่สุดแล้วคือผมรักที่จะทำเพลง รักที่จะทำให้ทุกคนมีความสุข ก็คงได้แค่หวังว่าพวกเขาจะชอบเพลงของผม แต่ถ้าไม่ได้มันก็มีศิลปินคนอื่นอีกมากที่เขาสามารถไปติดตามฟังได้
อีกเรื่องหนึ่งครับคือบางคนมักจะคาดหวังให้ศิลปินดังทำอะไรบางอย่างตอบแทนสังคมไม่ว่าจะเป็นประเด็นทางสังคมหรือแม้แต่เรื่องการเมืองคุณมีความเห็นยังไงกับเรื่องนี้ครับ
ผมคิดว่ามันดีนะครับ แต่ส่วนตัวผมไม่ใช่คนที่จะไปบอกคนอื่นว่าต้องโพสต์อะไรในโซเชียลหรือต้องทำอะไรในชีวิตมันไม่ใช่เรื่องของผม สำหรับผมผมเจอมูลนิธิที่ผมรักมากชื่อ ‘charity : water’ พวกเขาทำงานกันโปร่งใสมากและมีเป้าแค่การให้น้ำที่สะอาดกับผู้คนเพราะทุกคนล้วนต้องการน้ำที่สะอาดนะผมก็ไปร่วมสนับสนุนมูลนิธินี้ครับและเมื่อวันเกิดที่ผ่านมาในปีนี้ผมก็ชวนทุกคนที่ฟอลผมช่วยหมดคนละ 1 ดอลล่าร์หรือ 1 เซนต์ก็ได้แล้วเราก็รวบรวมไปได้ถึงน่าจะใกล้ ๆ 18,000 ดอลล่าร์ให้มูลนิธินี้นำน้ำสะอาดมาให้กับผู้คนแล้วเราก็มีแผนที่จะนำเงินส่วนหนึ่งจากการขายตั๋วคอนเสิร์ต มาให้กับมูลนิธินี้ด้วยเช่นกันครับ นี่คือสิ่งที่ผมเชื่อแล้วผมเต็มใจมากที่จะทำคือมันเป็นตัวผมมาก ๆ ครับ
ในความเห็นของคุณอะไรคือปัจจัยสำคัญที่สุดในการจะเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จ
ผมเองก็พยายามอยู่นะผมพยายามไปถึงตรงนั้นอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมว่าใช่แน่ ๆ คือคุณต้องไม่ยอมแพ้ อย่าหยุดทำมันและถ้าคุณลองทำอะไรก็ตามแล้วมันยังไม่สำเร็จคุณก็ลองทำอะไรที่มันต่างออกไป อย่างวงของผมผมเขียนเพลงห่วยมาเยอะมากก่อนผมจะเขียนเพลงที่มันดีได้ มันใช้ทั้งเวลาและการฝึกฝนคือการเขียนเพลงมันก็เป็นเหมือนกล้ามเนื้อนะครับยิ่งคุณฝึกคุณก็จะยิ่งแข็งแรงแล้วถ้าคุณละเลยคุณก็เสียพลังนั้นไปเสียความแข็งแรงไป มันเลยสำคัญมากที่ต้องฝึกฝนไม่ยอมแพ้และอดทนครับ
เยี่ยมครับ สิ่งที่คุณพูดตอบคำถามต่อไปของผมแล้ว ผมข้ามไปที่ข้อถัดไปเลยแล้วกันครับ คือโควิดเนี่ยมันทำให้ศิลปินหลายคนไม่ได้ทำอาชีพของพวกเขาอย่างในประเทศไทยหลายคนยอมแพ้ไปแล้ว บางคนขายเครื่องดนตรีตัวเองไปเลยเพราะพวกเขาหาที่เล่นหาที่ทำอาชีพของตัวเองไม่ได้ ในช่วงโควิดนี้อะไรคือบทเรียนที่สำคัญที่สุดของคุณ
ผมเรียนรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ มันเปลี่ยนไปได้ในชั่วข้ามคืน ไม่มีอะไรอยู่กับเราไปตลอดเราไม่ควรมองข้ามคุณค่าของสิ่งที่เรามี ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ยังสามารถทำเพลงได้ยังสามารถเอาเพลงไปให้แฟน ๆ ฟังได้ เตรียมทัวร์คอนเสิร์ตได้ ยังจ่ายค่าเช่าบ้านได้ หาอาหารเข้าปากได้ 2 ปีที่ผ่านมาอะไร ๆ มันเปลี่ยนไปเยอะมากแล้วส่วนมากเราก็ควบคุมมันไม่ได้ ผมจึงได้เรียนรู้ที่จะซาบซึ้งถึงคุณค่าของสิ่งที่เรามีในช่วงเวลาที่ผมยังมีมันอยู่ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้ผมไม่ทำนะแต่มันมากกว่าเดิม พร้อมทั้งรู้สึกขอบคุณรู้สึกยินดี รู้สึกโชคดีมากที่ได้อยู่ในวงนี้ที่ยังได้ทำเพลงอยู่ต่อไป ต่อให้มันอาจจะมีคนสนใจแค่คนเดียวก็ตาม คือจริง ๆ มันก็ไม่ง่ายแล้วที่จะทำให้คนสนใจในอะไรก็ตาม เพราะงั้นถึงมีคนสนใจวงผมแค่คนเดียวมันก็ดีมากแล้ว นั่นแหละครับกับสิ่งที่ผมมีผมก็จะทำมันให้ดีที่สุด ผมสัญญากับแฟนเพลงทุกคนและกับใครก็ตามที่ฟังวงนี้ ผมจะไม่หยุดทำให้มันดีที่สุดและมอบเพลงที่ดีที่สุดให้คุณเท่าที่พวกเราจะทำได้ จะเล่นคอนเสิร์ตให้มากเท่าที่จะเล่นได้และก็จะทำทุกโอกาสที่เข้ามาให้มันดีที่สุดครับ
ผมก็หวังว่าเราจะได้ดูโชว์ของคุณที่นี่โดยเร็วนะครับ
ขอบคุณครับผมก็หวังแบบนั้น
ขอให้สนุกกับการฟังแฟน ๆ ของคุณออกเสียงชื่ออัลบั้มใหม่ของคุณนะครับ ‘gg bb xx’
ใช่เลยครับฟินมากครับ ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ
ขอบคุณที่มาให้สัมภาษณ์เช่นกันครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส