การวิเคราะห์นี้เกิดขึ้นจาก หนังสือพิมพ์ของอังกฤษที่มีชื่อว่า Telegraph ได้ทำการวิเคราะห์ว่า นักวิจัยของเขาชี้ให้เห็นว่า ในเวลา 15 ปีที่ผ่านมานั้น ราคาของตัวต่อ Lego ที่เด็กๆเรียกร้องให้เราซื้อให้เล่นเพื่อต่อเล่นฝึกสมองนั้น จะมีราคาจะสูงขึ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12% ต่อปี เมื่อบริษัทหยุดผลิตเซ็ตนั้นๆไปแล้ว และชุดใหม่ๆที่เริ่มต้นวางขายในปีที่แล้ว พอมาภายในปีนี้ราคาจึงสูงขึ้นถึง 36% และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันกับ ราคาทอง ที่สูงขึ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9.6% ต่อปีนั้น จึงทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่า การลงทุนในการซื้อ ตัวต่อ Lego นั้น ทำกำไรได้มากกว่าการซื้อ ทอง เก็บไว้ ที่อัตราเฉลี่ย 2.4% ต่อปีเลยทีเดียว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นักวิเคราะห์ก็ไม่ได้ถึงกับแนะนำนักลงทุนทั้งหลายให้หันมาเก็บสะสม ตัวต่อ Lego กันเป็นจำนวนมากแทนที่จะเก็บ ทอง หรอกนะ เพราะเนื่องจาก ตัวต่อ Lego ทุกชุดนั้นก็ไม่ได้มีราคาขึ้นสูงๆทุกชิ้นไป แต่จะต้องเป็นชุดที่มีผู้คนต้องการมากเท่านั้น หรือเป็นชุดที่ถูกผลิตออกมาน้อยๆ หรือชุดแบบ limited edition ที่มีจำนวนจำกัดแบบนั้น ถึงจะได้ราคาดี

lego2_3415350c

เช่นชุดของ Ultimate Collector’s Millennium Falcon ซึ่งเริ่มต้นการขายที่ราคา 510 UDS ในปี 2007 แต่ตอนนี้ราคาประมูลในตลาดอยู่ที่ 4,041 USD (ราคาปรับขึ้นมา 792%) เลยทีเดียว และ Taj Mahal ราคาเริ่มต้นการขายอยู่ที่ 298 USD ในปี 2008 แต่ตอนนี้ราคาขึ้นไปอยู่ที่ 2,753 USD (ราคาปรับขึ้นมา 296%) 

deathstar_3416638b

Ultimate Collector’s Millennium Falcon

lego-tajmahal

Taj Mahal

และการซื้อขาย ตัวต่อ Lego นั้น จะต้องทำความเข้าใจการตลาดและทำการซื้อขายด้วยตัวเองถึงจะได้ราคา ซึ่งเราควรจะมองว่า ตัวต่อ Lego เป็นเหมือนของสะสมที่มีราคาค่อนข้างสูง เหมือนๆกับพวก นาฬิกาโรเล็กซ์ หรือ พระเครื่อง มากกว่าที่จะมองเป็นการลงทุนแบบ ทอง นะจ๊ะ 

ที่มา : telegraph