เด็กสมัยนี้วัน ๆ จะดูแต่ (อนิเมะ) ไม่สนใจศึกษาธรรมะกันบ้างเลย นั่นคือสิ่งที่อาจารย์แดงไม่ได้บอกเอาไว้ แต่เชื่อว่าหลายคนคงจะได้ชมเรื่องราวการต่อสู้ของมนุษย์และเหล่าเทพใน ‘Record of Ragnarok’ จบกันไปแล้ว ที่นอกจากความสนุกของการต่อสู้ที่มาพร้อมกับปมประวัติของตัวละครที่น่าสนใจ ที่ต้องบอกก่อนว่าเรื่องราวที่เราได้ดูทั้งหมดในเรื่องนี้นั้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดไม่ใช่ของจริงตามตำนานที่มีอยู่ (อย่างเอาไปบอกใคร ๆ เชียวอายเขา) และในคราวนี้เราก็ได้พบตัวละครใหม่ที่มาขโมยซีนใน ‘Season 2’ ไปจนหมด กับท่าน ศากยมุนี เทพเจ้าที่เราก็รู้ว่าท่านคือใคร (ไม่กล้าเขียนตรง ๆ กลัวดราม่า) ที่ในตอนท้ายของเรื่องราวท่านศากยมุนีก็เลือกที่จะสู้ในฝั่งมนุษย์ซึ่งสร้างความเฮฮามากขึ้นไปอีก เพราะความเท่ปน ‘Badass’ (สาธุ) ของท่านนั้นกระแทกจิตกระเทือนใจคนดูอนิเมะทรงอย่างแบดมาก ๆ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้เห็นท่านศากยมุนีปรากฏตัวในอนิเมะ เรามาดูกันดีกว่าว่านอกจากเรื่องราวใน “มหาศึกคนชนเทพ” แล้วท่านศากยมุนีไปปรากฏในอนิเมะมังงะเรื่องใดบ้าง เพื่อใครสนใจจะได้ไปศึกษาธรรมะกัน จะได้เลิกสนใจ (อย่างอื่น) แล้วมาสนใจธรรมะมากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วก็มาสาธุ 99 ไปพร้อมกันเลย

หมายเหตุ บทความนี้มิได้ลบหลู่หรือล้อเลียนแต่เป็นการบอกให้ทราบว่าในการ์ตูนที่เราดูก็มีเรื่องราวเหล่านี้ปรากฏอยู่เท่านั้น

Buddha The Great Departure

Buddha The Great Departure

เริ่มต้นเรื่องแรกกับการนำประวัติของท่านศากยมุนีมาดัดแปลงเป็นอนิเมะในชื่อ ‘Buddha The Great Departure’ ที่ออกฉายเมื่อปี 2011 กับเรื่องราวของ สิทธัตถะ โคตรมะ (Siddhartha Gautama) เจ้าชายแห่งอาณาจักร ‘Shakya’ ผู้ถือกำเนิดขึ้นมา (ไม่ได้เดิน 7 ก้าวพร้อมดอกบัวแต่เกิดแบบคนธรรมดา) พร้อมกับคำทำนายที่ว่าเมื่อเจ้าชายสิทธัตถะจะได้เป็นราชาท่านจะกลายเป็นผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรทั้งปวง โดยเรื่องราวจะบอกเล่าประวัติช่วงที่ท่านศากยมุนีตั้งแต่ยังเด็กไปจนถึงช่วงวัยรุ่น ซึ่งถ้าใครเคยศึกษาหรือเรียนในวิชาพระพุทธศาสนามาก็น่าจะทราบว่า เจ้าชายสิทธัตถะไม่เคยรู้จักชีวิตนอกปราสาทเลย จนท่านได้หนีออกมาและได้พบกับผู้คนที่อดอยากความทุกข์ความเศร้า ที่เป็นต้นเหตุแห่งการออกบวช และเรื่องก็จะตัดสลับมาเล่าในมุมมองของตัวละครอีกตัวที่มีชื่อว่า ชะปรา (Chapra) แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักร ‘Kosala’ ที่เริ่มต้นชีวิตจากลูกทาสที่ถูกเกลียดชังจนสามารถเป็นแม่ทัพผู้หญิงใหญ่ ซึ่งทั้งคู่มีอายุเท่ากันแต่ชะตาชีวิตต่างกันราวฟ้ากับเหว คนหนึ่งใช้ชีวิตสุขสบายไม่เคยรู้จากความทุกข์ กับอีกคนที่ชีวิตมีแต่ความทุกข์ยากอดอยากเกลียดชัง จนทั้งสองมาเจอกันในสนามรบ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะตัดสินใจทำบางอย่างที่เป็นจุดเปลี่ยนให้กับสงครามและอาณาจักรของตนเอง นั่นคือเรื่องราวของอนิเมะที่มีการดัดแปลงแต่งเสริมเรื่องราวของเจ้าชายสิทธัตถะให้ต่างออกไปกับตำนานเดิม พร้อมกับตัวละครใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของความรักโลภโกรธหลงและกิเลสในใจมนุษย์ ตัวอนิเมะจะแบ่งออกเป็นสองภาคที่ในภาคสองนั้นจะเป็นการออกบวชและพบเจอมารผจญกับหนทางพ้นทุกข์ ที่ใครสนใจเรื่องราวของท่านศากยมุนีที่ย่อยง่ายก็ไปหามาดูและสาธุกันได้ ตัวอนิเมะวาดสวยทำดีมาก ๆ คุ้มค่าเวลาแน่นอน

Buddha The Great Departure

Saint Young Men

Saint Young Men

หลังจากที่ดูอะไรจริงจัง ๆ ไปแล้วคราวนี้ก็มาดูเรื่องราวเบาสมอง ที่บ้านเราไม่กล้าเอามาฉายเพราะกลัวดราม่าของอนิเมะเรื่อง ‘Saint Young Men’ หรือชื่อไทยอย่าง “ศาสดาลาพักร้อน” กับเรื่องราวของสองศาสดาที่เราก็รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าท่านคือใคร (ไม่กล้าเอ่ยนามกลัว) ที่ท่านทั้งสองนั้นทำงานอย่างหนักแบบไม่ได้พักผ่อนมาเป็นพันปี จนทั้งสองคนที่มาเจอกันก็เลยคิดว่าจะหาทางลาพักร้อนกันดีกว่า ด้วยการไปเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ในญี่ปุ่น (โชคดีที่ท่านไม่ได้มาประเทศไทย) ที่เห็นว่าเป็นการ์ตูนตลกเบาสมองแบบนี้ในเรื่องกลับใส่เนื้อหาหลักคำสอนและสิ่งต่าง ๆ ของทั้งสองศาสนาได้อย่างลงตัว ที่ถ้าคุณเปิดใจไม่อคติกับสิ่งที่เห็น (ซึ่งคนส่วนมากจะไม่เปิดใจและต่อว่าในสิ่งที่เห็นก่อนจะรู้ความจริง) คุณจะได้พบกับเรื่องคำสอนเกี่ยวกับธรรมะมากมายในอนิเมะเรื่องนี้ ที่เมื่อดูจบคุณอาจจะสาธุเอเมนออกมาได้เลยทีเดียว 

Saint Young Men

Buddha

Buddha

เปลี่ยนบรรยากาศมาที่มังงะกันบ้างสำหรับเหล่าผู้ที่รู้ว่าธรรมะที่แท้จริงนั้นไม่มีคำว่าปลอบใจ  แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อนว่าอาจารย์ เทซูกะ โอซามุ (Tezuka Osamu) นักเขียนมังงะระดับตำนานของญี่ปุ่น กับผลงานระดับขึ้นหิ้นเอาไว้ชาบูสำหรับนักอ่านยุค 80s ถึง 90s ที่รู้จักและหลงรักอย่าง เจ้าหนูปรมาณู กับ แบล็กแจ็กหมอปีศาจ และอีกมากมายที่ต้องใช้ทั้งบทความในการเอารายชื่อการ์ตูนที่อาจารย์เทซูกะ โอซามุเขียนไว้บอกคุณ และหนึ่งในการ์ตูนที่อาจารย์เขียนไว้ก่อนเสียชีวิตท่านก็เคยหยิบชีวประวัติของท่านศากยมุนีมาเขียนด้วย ในชื่อเรื่อง ‘Buddha’ ที่บอกเล่าเรื่องราวของอินเดียโบราณที่มีแต่ความอดอยากภัยแล้งและสงคราม จนเมื่อการประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะโลกใบนี้ (ที่ไม่ได้เดิน 7 ก้าวพร้อมดอกบัวแต่เกิดตามปกติ) โลกนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลง เรื่องราวในมังงะจะเล่าตั้งแต่ที่เจ้าชายสิทธัตถะเกิด จนรับรู้เกี่ยวกับความทุกข์โลภโกรธหลงของมนุษย์ตามแบบในตำนานที่เรารู้จัก จนเจ้าชายตัดสินใจออกบวชที่เรียกว่าตรงตามที่เรารู้มา (เกือบ) ทุกอย่าง แต่จะเปลี่ยนเป็นรูปการ์ตูนที่อ่านง่ายเหมาะสำหรับเด็ก ๆ เพราะในเรื่องจะมีการใส่คำสอนเกี่ยวกับธรรมะในรูปแบบการ์ตูนที่เอามาแปลเป็นรูปภาพ พร้อมคำสอนเลยทำให้เราเข้าใจความหมายมากกว่าอ่านจากตัวหนังสือ หรือในชั้นเรียนที่เน้นการท่องจำเพื่อเอาไปสอบมากกว่าการทำความเข้าใจในเนื้อหาที่เรียน และเหมาะสำหรับคนที่ต้องการศึกษาธรรมะที่ฟังอาจารย์แดงมา แล้วอยากศึกษาธรรมะแต่ไม่ชอบอ่านเยอะ ๆ มังงะเล่มนี้เหมาะมาก ๆ ที่ก็ไม่รู้ว่ามีฉบับแปลไทยไหม (เท่าที่หาไม่เจอ) ซึ่งเรื่องในมังงะจะเล่าเรื่องราวตั้งแต่ประสูติตรัสรู้และปรินิพพานอ่านจบครบเอาขึ้นหิ้งบูชาได้เลย สาธุ 99

Buddha

The Golden Laws

The Golden Laws

คุณเคยรู้จักคำว่า ‘The Golden Laws’ หรือ “กฎทองคำ” ไหม เพราะมันคือหลักของการของการปฏิบัติต่อผู้อื่นตามที่เราต้องการได้รับการปฏิบัติกลับมา หรือแปลง่าย ๆ คือถ้าเราอยากให้คนอื่นทำแบบไหนกับเรา ตัวเราก็ควรทำกับเขาแบบนั้นกับเขาก่อน และถ้าเราไม่อยากให้เขาทำแบบนั้นกับเรา ตัวเราก็อย่าไปทำกิริยาไม่ดีใส่คนอื่น แต่ถ้าเราทำกับเขาแล้วเขาทำแย่กับเรากลับก็ช่างมันไม่ต่องไปยุ่งเสียเวลาชีวิต (อันท้ายนี้ไม่มีในกฎ) โดยกฎนี้สามารถพบได้ในหลักคำสอนของศาสนาและลัทธิส่วนใหญ่ที่เอาสิ่งนี้มาตีความใหม่ในรูปแบบของตนเอง จนเกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘The Golden Laws’ จนหลักคำนี้ถูกเอามาตีความเป็นอนิเมะในชื่อเดียวกัน ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของ ซาโตรุ (Satoru) และ อริสา (Alisa) สองเด็กน้อยวัยทรงอย่างแบดที่เดินทางข้ามเวลาไปในช่วงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของศาสนา ซึ่งก็มีเรื่องราวของท่านศากยมุนีรวมอยู่ด้วย ที่ในเรื่องนี้จะเป็นการตีความคำสอนของทุกศาสนามามาวิเคราะห์ในเชิงเทววิทยาและวิทยาศาสตร์ ที่บางมุมอาจจะทำให้หลายคนขัดใจไปไกล ใครที่เป็นสายเคร่งห้ามเอาให้ดูหรือเอาสิ่งที่อยู่ในเรื่องนี้ไปพูดเชียวเดี๋ยวจะเป็นเรื่อง (อันนี้เตือนจริง ๆ ไม่ใช่มุก) ส่วนใครที่อยากรับรู้มุมมองใหม่ ๆ ที่ต่างออกไปจากเดิมก็ไปหามาดูกันได้ โดยเฉพาะการตีความเกี่ยวกับท่านศากยมุนีที่ไม่สามารถเอามาเขียนตรงนี้ได้เพราะเดี๋ยวจะดราม่าแน่นอน ส่วนใครอยากรู้ว่าการตีความเกี่ยวกับท่านศากยมุนีเป็นอย่างไรก็ไปหามาดูเอาเอง เพราะบางเรื่องแม้จะเห็นต่างและมีเหตุผล แต่ก็ใช่ว่าการเห็นต่างจะได้รับการรับฟังจากฝ่ายที่เชื่อหลงรักแบบไม่สนใจสิ่งที่ต่างกับที่ตนเองคิด และบางเรื่องก็รู้ไว้ประดับความรู้แต่อย่าไปหาเรื่องดราม่าจะดีที่สุด

The Golden Laws

Record of Ragnarok

Record of Ragnarok

และก็มาถึงพระเอกของบทความนี้ที่ไม่พูดถึงท่านผู้นี้บทความนี้คงขาดความสมบูรณ์ไปในทันทีกับท่านศากยมุนีหรือคนที่เราก็รู้ว่าท่านคือใครจากอนิเมะเรื่องดังที่เพิ่งฉาย ‘Season 2’ ไปเมื่อไม่นานมานี้กับ ‘Record of Ragnarok’ หรือ “มหาศึกคนชนเทพ” ที่ใน ‘Season 2’ ก็ได้มีตัวละครใหม่ปรากฏตัวมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือท่านศากยมุนีที่อยู่เบื้องหลังการช่วยเหลือมนุษย์ในการต่อสู้กับเหล่าทวยเทพ จนทำให้เหล่าเทพไม่พอใจที่เทพเจ้ามาเข้าข้างมนุษย์ ก่อนที่ท่านศากยมุนีจะประกาศเลือกต่อสู้กับฝั่งมนุษย์พร้อมกับวลีเท่ ๆ ว่า “หากทวยเทพไม่ช่วยพวกมนุษย์ฉันจะทำเอง และถ้าพระเจ้าองค์ใดขวางทางฉันจะฆ่าพวกมันให้หมด” ทำเอาคนดูในตอนนั้นตาลุกวาวเลยทีเดียว ซึ่งน่าเสียดายที่เรื่องราวใน ‘Season 2’ จบลงตรงนี้คงต้องมารอดูว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร และใน ‘Season 3’ เราจะได้รับรู้ประวัติของท่านศากยมุนี ที่ต้องบอกล่วงหน้าก่อนว่าเนื้อหาประวัตของท่านศากยมุนีในอนิเมะมังงะเรื่องนี้ จะถูกแต่งขึ้นมาใหม่และคงไม่ตรงตามประวัติจริง ๆ ดังนั้นอย่าเอาไปอ้างอิงไม่ได้นะบอกไว้ก่อน และที่เห็นแบบนี้ท่านศากยมุนีก็ไม่ได้ออกมาแค่ยืนนอนนั่งกินลูกอมพูดเท่ ๆ เอาใจพุทธศาสนิกชนแบบอาจารย์แดงเท่านั้น แต่ท่านบรรลุรักโลภโกรธหลงที่เรียกว่า “พรหมวิหาร 4” ทุกอย่างแล้ว (ไม่อย่างนั้นท่านจะได้มาเป็นเทพหรอ) และท่านคิดว่าการลงโทษมนุษย์ด้วยการทำลายทิ้งมันคือความคิดที่งี่เง่าเอาแต่ใจมาก ๆ เพราะมนุษย์นั้นมันมีความรักโลภโกรธหลงอยู่เยอะและไม่มีทางแก้หาย แถมมนุษย์หลายคนก็คิดว่าตัวเองมีพรหมวิหาร 4 แต่ความจริงแค่หลอกตัวเองและใคร ๆ ว่าตัวเองมี ที่สุดท้ายเดี๋ยวมันก็ทำลายตัวมันเองแบบในประวัติศาสตร์ที่ผ่าน ๆ มา แล้วเทพเจ้าที่อยู่เหนือมนุษย์จะมาจุ้นจ้านชี้เป็นชี้ตายกับมดปลวกพวกนี้เพื่อ เพราะเหตุนี้ท่านศากยมุนีเลือกมาอยู่ฝั่งมนุษย์นั่นเอง

Record of Ragnarok

Saint Seiya

Saint Seiya

เมื่อพูดถึงเรื่องราวของท่านศากยมุนีแล้ว จะไม่พูดถึงตัวละครคนอื่นที่อ้างอิงพูดถึงท่านศากยมุนีมันก็คงจะดูแปลก ๆ และเมื่อพูดถึงตัวละครที่เกี่ยวกับท่านศากยมุนีคนแรก ๆ ที่เราคิดออกก็คือ เวอร์โก้ ชากะ (Virgo Shaka) ผู้ดูแลปราสาทหญิงพรหมจรรย์ ‘Gold Saint’ เพียงคนเดียวที่สามารถบรรลุจนเข้าถึงท่านศากยมุนี หรือบางตำนานก็บอกว่าชากะคือท่านศากยมุนีกลับชาติมาเกิด ที่วัน ๆ เขาไม่ได้ดูแต่ (อนิเมะ) แต่ตั้งใจศึกษาธรรมะ จนได้ฉายาว่า “ชายผู้เกือบจะเป็นเทพเจ้า” ในซีรีส์ ‘Saint Seiya’ เพราะชากะอยู่เหนือกิเลสตัณหาและความผูกพันของมนุษย์ พร้อมกับพลังอันยิ่งใหญ่จนชุดเกราะหญิงพรหมจรรย์เลือกเขามาเป็นผู้สวมเกราะ โดยพลังของชากะจะเป็นการสร้างภาพลวงตาที่จะพาคนผู้นั้นไปยังมิติแห่งบาป พร้อมการทำลายประสาทสัมผัสทั้งห้าของคู่ต่อสู้ กับการรับท่าโจมตีด้วยมือเพียงข้างเดียว แต่สุดท้ายชากะก็พ่ายแพ้ให้กับแมลงสาบ ฟีนิกซ์ อิคคิ (Phoenix Ikki) ที่อัดแน่นไปด้วยกิเลสและภาระที่มีน้องชายอีก 999 คนอยู่ข้างหลัง (ทุกคนมีพ่อเดียวกันแต่ต่างแม่) ที่อัดไปกี่ครั้งใช้ภาพหลอนทำลายไปอย่างไรธรรมะก็ไม่ซึมเข้าหัวและก็ยังลุกขึ้นมาได้ ประหนึ่งคนที่ไม่ตั้งใจศึกษาธรรมะวันเอาแต่ดู (อนิเมะ) ซึ่งเราจะได้รับรูปประวัติเรื่องราวของชากะจากตอนศึกสู้ศึก 12 ปราสาทที่ ‘Hades’ ส่งเหล่า ‘Saint’ ที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมา ซึ่งชากะก็คือหนึ่งในนักสู้ที่สละชีวิตเพื่อต่อสู้กับอดีตพวกฟ้องตัวเอง พร้อมกับการนั่งเล่าอดีตของชากะที่เราไม่เคยรู้ ซึ่งเมื่อพูดถึงท่านศากยมุนีแฟน ๆ อนิเมะต้องคิดถึงเวอร์โก้ ชากะมาด้วยนั่นเอง

Saint Seiya

Ikkyuu-san

Ikkyuu-san

ปิดท้ายกับเจ้าของวลี “จะรีบไปไหนจะรีบไปไหนพักเดี๋ยวนึงซิ” ที่เมื่อเราพูดถึงท่านศากยมุนีอีกหนึ่งตัวละครพระในอนิเมะที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ที่เรานึกถึงนั่นคือ อิคคิวซัง (Ikkyuu-san) ที่อนิเมะในชื่อเดียวกันแต่ชื่อไทยจะเปลี่ยนเป็น “เณรน้อยเจ้าปัญญา” ที่บอกเล่าเรื่องราวของอดีตเจ้าชายที่ต้องหนีมาบวชเพื่อกันการโดนประหารชีวิตจาท่านโชกุน ซึ่งเรื่องราวในอนิเมะเล่าบอกเราเพียงเท่านั้น แต่ความสนุกจริง ๆ ของเรื่องนี้คือการแก้ปริศนาของสามเณรอิคคิวซัง ที่แต่ละอันเรียกว่าสนุกจนเด็ก ๆ ยุค 80s ถึง 90s ไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปริศนาการจับเสือในรูปวาดที่ท่านโชกุนบอกให้อิคคิวซังจับเสือในรูปให้หน่อย อิคคิวซังก็ใช้หมองนั่งสมาธิก่อนจะสั่งให้คนไปเตรียมอุปกรณ์และกรงมาเพื่อจับเสือ สร้างความขบขันให้ผู้คนที่เห็น รวมทั้งคนดูที่คิดว่าอิคคิวจะจับเสืออย่างไร ก่อนที่อิคคิวซังจะบอกท่านโชกุนว่า “ข้าน้อยเตรียมอุปกรณ์พร้อมจับเสือแล้ว ท่านโชกุนกรุณาเรียกเสือออกมาจากรูปภาพให้ข้าน้อยที ถ้าท่านไม่เรียกมันออกมาข้าน้อยก็จับเสือให้ท่านมิได้” เจอมุกนี้เป็นใครก็หงายเงิบและอีกหลายต่อหลายอย่างที่ดูไม่เคยเบื่อ และหลายครั้งที่ปริศนาการท้าทายมันยากอิคคิวซังก็จะมานั่งหน้าพระพุทธรูปเพื่อทำสมาธิ ที่ก็อ้างอิงถึงท่านศากยมุนีได้เหมือนกัน (วกกลับมารวมจนได้) ใครที่ชอบอนิเมะสนุกผู้ใหญ่ดูได้เด็กควรดูก็ขอแนะนำเลย ดูจบแล้วคุณจะรู้สึกว่าตัวเองฉลาดขึ้นแบบ 200% เลยทีเดียว

Ikkyuu-san

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 เรื่องราวที่เกี่ยวกับท่านศากยมุนีในอนิเมะเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องบอกก่อนว่ามีเยอะมาก ๆ แต่ส่วนมากจะเป็นการหยิบรูปร่างหน้าตาและเป็นเชิงล้อเลียนเสียมากกว่า และถ้าเราเอามาก็เกรงว่าจะเกิดดราม่าได้ เราจึงไม่ได้หยิบมานำเสนอ และที่เราเห็นญี่ปุ่นเอาท่านศากยมุนีมาทำแบบนี้ได้ ก็เพราะทางญี่ปุ่นเขาให้ความสำคัญกับคำสอนมากกว่ารูปลักษณ์และตัวบุคคล ต่างกับบ้านเราที่ไม่สนคำสอนสนแค่ตัวบุคคลและสิ่งที่จับต้องได้ และเราก็หวังว่าเนื้อหาในบทความนี้จะเป็นหนึ่งในกระบอกเสียง ให้หลายคนหันมาสนใจเกี่ยวกับศาสนามากขึ้น ที่ไม่ว่าจะเป็นศาสนาไหนก็สอนให้เราเป็นคนดี และในทุกที่ก็ย่อมมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกันไป ดังนั้นก็อย่าไปเหมารวมว่าคนกลุ่มนั้นสิ่งนั้นไม่ดีจากคนไม่กี่คน และถ้าคุณชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับอนิเมะก็สามารถย้อนไปอ่านบทความเก่า ๆ ด้านล่างได้เลย ที่แต่ละเนื้อหาเราคัดมาอย่างดีเพื่อคนชอบอนิเมะทุกคน เพราะที่แบไต๋มีจบครบทุกความบันเทิงเพื่อคุณ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส