X-men แฟรนไชส์ทรงคุณค่าของมาร์เวล ที่อยู่กับฟอกซ์มาอย่างยาวนาน ที่พาเราสนุกโลดแล่นไปกับเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์กันมา 7 ภาค ผ่านนักแสดงมา 2 ชุด เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะประทับใจกับทีมนักแสดงในไตรภาคแรกกัน ถือว่าเป็นทีมนักแสดงที่ผ่านการแคสติ้งมาได้มีคุณภาพและเหมาะสมกับบทที่สุด โดยเฉพาะตัว Mystique มิวแตนท์ฝ่ายร้าย ที่มีเอกลักษณ์สุดโดดเด่น ด้วยร่างกายสีน้ำเงินเข้ม และความสามารถอันน่าทึ่ง กับการแปลงร่างเป็นใครก็ได้ ซ้ำยังมีเทคนิคการต่อสู้ที่ไม่เป็นรองใครอีกด้วย

หน้าสวย หุ่นเป๊ะ สมกับตำแหน่งนางแบบแถวหน้าของวงการ

ในไตรภาคแรกนั้น มิสติค รับบทโดย รีเบ็กก้า โรไมจ์น (Rebecca Romijn) นางแบบระดับแถวหน้าที่หันมาเอาดีทางการแสดงในวัย 28 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่า มิสติคนั้นต้องปรากฏตัวในภาพลักษณ์ที่เกือบเปลือยเปล่าสีน้ำเงินมีเกล็ดทั่วร่าง ซึ่งโรไมจ์น ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างมาก กับหุ่นที่สมบูรณ์แบบของเธอ สมกับตำแหน่งนางแบบแถวหน้าของวงการ แต่ถึงอย่างนั้น การรับบทเป็นมิสติคแม้ว่าจะแจ้งโรไมจ์นในวงการแสดง เป็นที่รู้จักและเป็นที่จดจำ แต่เธอก็ต้องแลกมาด้วยความอดทนอย่างสูง เพราะเธอต้องผ่านการเมกอัปหัวจรดเท้าแต่ละครั้งเป็นเวลายาวนานถึง 8 ชั่วโมง

เธอต้องอดทนกับขั้นตอนเมกอัปวันละ 8 ชั่วโมง

และในหนัง X-Men ภาคแรกเมื่อปี 2000 นั้น นับว่าเป็นโปรเจกจ์ใหญ่ที่ฟอกซ์คาดหวังอย่างสูง ทุกขั้นตอนในกระบวนการถ่ายทำจึงเป็นความลับ เพราะบรรดามนุษย์กลายพันธุ์ในคอมิกนั้นมีมากมายหลายตัวเหลือเกิน ยิ่งทำให้แฟน ๆ คอมิกกระหายใคร่รู้ว่า หนัง X-Men ภาคแรกนั้นจะมีมนุษย์กลายพันธุ์รายไหนบ้าง การเมกอัปของโรไมจ์นจึงต้องทำกันในพื้นที่ปิดทึบ ไร้หน้าต่าง สร้างความอึดอัดกับเธออย่างมากกับขั้นตอนเมกอัปในทุก ๆ วัน ซึ่งโรไมจ์นก็อดทนอย่างที่สุดมาจนถึงวันสุดท้ายของการถ่ายทำ เธอจึงเป็นคนที่ดีใจที่สุดที่วันนี้มาถึง จึงขอประกาศปลดปล่อยอย่างเต็มที่ โรไมจ์นมากองถ่ายพร้อมกับหนีบเตกิล่าขวดโตมาด้วย แล้วก็ชวนนักแสดงและทีมงานมากระดกเตกิล่ากับเธออย่างทั่วถึง

ฉากต่อสู้ระหว่างมิสติค และวูล์ฟเวอรีน

แต่โรโมจ์นอาจจะฉลองเลยเถิดไปสักนิด เพราะเธอยังต้องเข้าฉากสุดท้าย และเป็นฉากการต่อสู้ระหว่างมิสติคกับวูล์ฟเวอรีน พอถึงเวลาที่ผู้กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์ สั่งแอ็กชันนั้น โรไมจ์นซึ่งกระดกเตกิลาไปซะหลายช็อตแล้ว ยิ่งต้องเข้าฉากต่อสู้ด้วย ท กับการที่เธอต้องกระโดดไปมา ก็เลยกระตุ้นให้เตกิลาในกระเพาะทำงาน ผลก็คือเตกิลาขย้อนออกมาระหว่างต่อสู้กับวูล์ฟเวอรีน แล้วการที่โรไมจ์นผ่านการเมกอัปเป็นมิสติคนั้น ทีมงานต้องชะโลมสีน้ำเงินไปทั่วทุกอณูบนร่างของเธอ ไม่เว้นแม้แต่บางส่วนในปาก ผลก็คืออาเจียนที่เธอขย้อนออกมานั้น กลายเป็นสีน้ำเงินไปด้วย คนที่น่าสงสารก็คือ ฮิว แจ็กแมน ที่ร่างกายต้องเลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยอาเจียนสีน้ำเงินของโรไมจ์ เพื่อนนักแสดงคนสวย

ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดหลังจากนี้ว่า ผลสุดท้ายกองถ่ายวันนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง สภาพร่างของโรไมจ์นยังสามารถถ่ายทำต่อไปได้ไหม แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ เหตุการณ์นี้เป็นที่จดจำของบรรดานักแสดงและทีมงานต่อไปอีกนาน

ที่มา