เปิดตัวมาอย่างเรียบ ๆ กับเรื่องราวของซีรีส์ ‘Star Wars Obi-Wan Kenobi’ ที่ทำเอาหลายคนบ่นออกมาเบา ๆ เพราะแทนที่เราจะได้เห็นการเดินทางของ โอบีวัน เคโนบี (Obi-Wan Kenobi) ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เรากลับได้เห็นคุณลุงกับหลานสาวที่หนีการตามล่าของนักล่าเงินรางวัล จนมาถึงตอนที่ 3 ของซีรีส์ที่เราได้เห็น ‘Sith Lord’ ผู้ชั่วร้ายอย่าง ดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) ออกมา โทนเรื่องที่เคยน่าเบื่อก็เปลี่ยนไปทันที จนหลายคนถึงกับสงสัยหรือลืมไปแล้วว่าในอดีตทั้งคู่นั้นเคยมีความรักความแค้นฝังใจอะไรกันมา พอเจอหน้ากันทำไมโอบีวันถึงหนีหัวซุกหัวซุน ขณะที่เวเดอร์ก็ตามล่าแบบเอาเป็นเอาตาย เรามาย้อนดูความสัมพันธ์ความรักและความแค้นที่ทั้งคู่นี้มีร่วมกัน ว่าอะไรที่เป็นต้นตอของความโกรธแค้นในครั้งนี้ โดยเราจะขอเล่าเฉพาะปมที่ทั้งคู่แสดงออกมาในเรื่อง รวมถึงเกร็ดต่าง ๆ ที่น่าสนใจจากสิ่งที่ทั้งคู่พูดถึงหรือแสดงออกมาที่บอกให้รู้ถึงปมที่เกิดขึ้นในตอนนี้ มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง มาย้อนอดีตดูเรื่องราวของทั้งคู่ไปพร้อมกันเลย

จุดจบของจุดเริ่มต้นปมความแค้นที่บนดาว Mustafar

Star Wars lll Revenge of the Sith

เริ่มต้นเรื่องแรกที่เรียกว่าจุดจบของจุดเริ่มต้นความแค้น ระหว่าง อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (Anakin Skywalker) กับ โอบีวัน เคโนบี (Obi-Wan Kenob) ที่ทั้งคู่มาตัดสินความเป็นความตายบนดาวภูเขาไฟ ‘Mustafar’ ที่ฝ่ายอนาคินนั้นจมดิ่งเข้าสู่ด้านมืดของพลัง เขายอมแพ้ให้กับความยึดติดเหนี่ยวรั้งไม่อยากสูญเสีย จนทำให้ฝ่าย ‘Sith’ นั้นเจอช่องทางที่จะเจาะเข้าไปล่อลวง ขณะที่ฝ่ายโอบีวันที่เคยผ่านเรื่องราวเหล่านี้มาแล้ว แต่จิตใจยังคงแน่วแน่มั่นคงและยึดมั่นในความถูกต้อง จึงทำให้โอบีวันกล้าเผชิญหน้ากับอนาคินคนที่เขารักเหมือนน้องชาย ก่อนที่สุดท้ายด้วยความที่โอบีวันเป็นอาจารย์ที่รู้จักลูกศิษย์คนนี้ดี ทำให้เขารู้ถึงความอวดดีเย่อหยิ่งในตัวอนาคิน จึงท้าทายเชิงหลอกล่อเมื่อเขากระโดดไปบนเนินที่สูงกว่า (รูปประกอบด้านล่าง) พร้อมพูดว่า “มันจบแล้วอนาคินข้าอยู่บนที่สูงกว่า” ซึ่งแน่นอนว่าลูกศิษย์หัวร้อนก็ตะโกนว่า “ท่านประเมิงพลังข้าต่ำไป” ก่อนกระโดดไปให้สูงกว่าที่โอบีวันยืนทันที ซึ่งสุดท้ายอนาคินก็พลาดท่าโดนตัดแขนขาทิ้งให้ตายบนดาวภูเขาไฟ ซึ่งโอบีวันคิดว่าอนาคินตายไปแล้ว จนเมื่อรู้ว่าศิษย์ที่ตนเองปล่อยให้ตายยังมีชีวิต อาจารย์ ‘Jedi’ ผู้หลบหนีก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที นั่นคือจุดเริ่มต้นของซีรีส์ ‘Star Wars Obi-Wan Kenobi’ กับปมความแค้นที่เกิดขึ้นในซีรีส์ แต่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีอะไรที่มากกว่านั้นก่อนจะมาสู้กัน เพราะต่อให้ทั้งคู่จะยึดมั่นแนวทางขนาดไหนก็ไม่มีทางที่จะมาสู้กันง่าย ๆ แบบนี้ เรามาย้อนดูปมความขัดแย้งนี้กันว่ามาจากอะไร

Star Wars lll Revenge of the Sith

Obi-Wan ไม่เห็นด้วยที่จะให้ Anakin ฝึกเป็น Jedi แต่ต้องทำเพราะคำขอสุดท้ายของ Qui-Gon Jinn

Star Wars I The Phantom Menace

ถ้าจะให้บอกเล่าเรื่องราวของปมความขัดแย้งของทั้งคู่ ก็ต้องย้อนกลับไปในภาคแรกสุดของซีรีส์ นั่นคือ ‘Star Wars I The Phantom Menace’ ที่บอกเล่าเรื่องราวของอาจารย์ ‘Jedi’ ไควกอน จินน์ (Qui-Gon Jinn) ที่บังเอิญไปเจอเด็กชายในร้านขายของเก่า ผู้มีพลังสถิตแรงกล้าจนไควกอนคิดว่าเด็กคนนี้คือผู้ถูกเลือกในคำทำนายโบราณ ว่าจะเป็นผู้นำความสมดุลคืนสู่พลัง จึงทำให้ไควกอนพยายามทำทุกทางเพื่อจะฝึกฝนอนาคินให้เป็น ‘Jedi’ แต่ทางสภา ‘Jedi’ กลับสัมผัสได้ถึงความหวาดโกรธกลัวยึดติด ที่เป็นเชื้อไฟชั้นดีให้กับด้านมืด ที่แม้แต่โอบีวันที่ในตอนนั้นยังเป็นเพียงศิษย์ของไควกอน ก็ไม่เห็นด้วยกับการรับอนาคินมาฝึกฝนตามที่สภาบอก แต่สุดท้ายเมื่อจบศึกบนดาว ‘Naboo’ ไควกอนที่พลาดท่าถูก ‘Sith’ ฆ่าตายได้สั่งเสียให้โอบีวันทำทุกทางเพื่อรับอนาคินเข้าไปฝึก ที่เมื่อถูกบังคับปนขอร้องจากอาจารย์ผู้ใกล้ตาย โอบีวันจึงไม่มีทางเลือกแม้จะไม่เห็นด้วยแต่ต้องยินยอมท่ามกลางความหัวเสียของสภา นั่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

Star Wars I The Phantom Menace

Obi-Wan แอบอิจฉา Anakin ที่อาจารย์ให้ความสำคัญมากกว่าตน

Star Wars I The Phantom Menace

ต่อเนื่องจากหัวข้อก่อนหน้านี้กับความรู้สึกอิจฉาที่มีอยู่ในส่วนลึกของโอบีวัน ที่แม้ในภาพยนตร์เราแทบจะไม่ได้เห็น แต่จากข้อมูลและสิ่งที่ตัวละครพูดก็สามารถบ่งบอกได้เลยว่า โอบีวันนั้นอิจฉาที่อนาคินแย่งความสำคัญของตนไป ยกตัวอย่างตอนที่ไควกอนอยากรับอนาคินเป็นศิษย์ต่อหน้าสภา ‘Jedi’ เขาเสนอให้โอบีวันเป็น ‘Jedi’ เพราะกฎของ ‘Jedi’ สามารถรับศิษย์ได้เพียงคนเดียว ซึ่งตอนนั้นแม้โอบีวันจะดีใจที่รู้ว่าอาจารย์เห็นความสามารถตน แต่เราก็อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ไควกอนยังสอนเชิงตำหนิเรื่องการรักษาดาบที่ไม่ควรห่างตัว ที่เหมือนบ่งบอกว่าโอบีวันยังคงต้องได้รับการฝึกสอนอีกเยอะ ซึ่งโอบีวันก็ทราบเรื่องนี้ดีจนถูกอาจารย์ โยดา (Yoda) ตำหนิโอบีวันว่า “เจ้าคล้อยตามเพราะเป็นศิษย์แม้ไม่เห็นด้วย” และหลังจากที่สภา ‘Jedi’ ไม่รับอนาคินเข้าฝึก ไควกอนก็พยายามสอนสิ่งต่าง ๆ ให้อนาคินตลอดเวลา จนสุดท้ายก็เกิดเรื่องอย่างที่เราได้กล่าวไป ซึ่งเชื่อเถอะว่าร้อยทั้งร้อยที่เจอแบบนี้เป็นใครก็คิด

Star Wars I The Phantom Menace

Anakin ไม่เชื่อฟังคำสอนของ Obi-Wan มองว่าน่ารำคาญ

Star Wars II Attack of the Clones

กระโดดมาที่ ‘Star Wars II Attack of the Clones’ ที่เป็นเวลานับสิบปีหลังจากนั้นที่อนาคินเติบโตมาเป็นหนุ่มในฐานะลูกศิษย์ของโอบีวัน ทั้งคู่ก็ได้รับภารกิจต่าง ๆ มากมายในฐานะอัศวิน ‘Jedi’ ที่ตัวของโอบีวันนั้นก็พยายามข่มใจฝึกฝนเด็กหัวดื้ออย่างอนาคินให้เข้าถึงวิถีแห่งพลัง ซึ่งแน่นอนว่าด้วยความเป็นศิษย์อนาคินย่อมรับปากแบบส่ง ๆ แต่สิ่งที่โอบีวันสอนนั้นไม่เคยเข้าหูหรือซาบซึ้งเลย ที่ดูได้จากตัวภาพยนตร์ตอนที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน โอบีวันจะเอาแต่สอนบ่นไปเรื่อย ขณะที่อนาคินนำหน้าเบื่อและเถียงทุกคำ ซึ่งสิ่งยืนยันในเรื่องนี้ก็มาจากคำสารภาพของตัวอนาคินเองใน ‘Star Wars lll Revenge of the Sith’ ที่บอกกับโอบีวันก่อนจากกันในฐานะมิตร ช่วงที่โอบีวันต้องไปตามล่า นายพลกรีวัส (General Grievous) อนาคินบอกว่าเขาไม่เคยซาบซึ้งหรือสนใจคำสอนของโอบีวันเลย แถมยังมองเขาเป็นอาจารย์ขี้บ่น แม้ลึก ๆ จะเข้าใจว่าโอบีวันหวังดีแต่ก็ยังเป็นตาแก่ขี้บ่น ซึ่งโอบีวันก็เข้าใจรับและรู้เรื่องนั้นดี ขณะเดียวกันอนาคินกลับไปเชื่อฟัง สมุหนายก พัลพาทีน (Palpatine) ทั้งคำสอนชี้แนะบอกกล่าวทุกอย่าง

Star Wars II Attack of the Clones

Obi-Wan มองว่า Anakin ควรเข้มงวดฝึกฝน แต่ความจริงเด็กชายต้องการคนที่เข้าใจ

Star Wars II Attack of the Clones

คราวนี้มาดูมุมมองของโอบีวันที่มีต่ออนาคินบ้าง ในฐานะที่โอบีวันเป็นทั้งพี่ชายและพ่อให้เด็กชายที่ห่างจากแม่ที่รักเพื่อมาฝึกฝนเป็น ‘Jedi’ โอบีวันที่เคยผ่านจุดนี้มาแล้วย่อมเข้าใจความเหงาและต้องการคนดูแลจิตใจเป็นอย่างดี แต่แทนที่โอบีวันจะให้ความรักในฐานะพ่อหรือพี่ชาย เขากลับสวมบทครูที่เข้มงวดขี้บ่นสอนทุกอย่าง บอกทุกเรื่องเพื่อให้อนาคินเติบโตมาเป็น ‘Jedi’ ที่เข้มแข็ง ซึ่งโอบีวันมองว่าสิ่งที่อนาคินเป็นนั้นเหมือนตนเองในอดีต ที่สุดท้ายการฝึกที่เข้มงวดการอยู่ในระเบียบจะสอนเด็กหัวรั้นให้เป็นคนที่อยู่ในระเบียบได้ เพราะในอดีตสมัยที่โอบีวันจะมาเป็นลูกศิษย์ของไควกอน ตัวของโอบีวันก็เคยเป็นแบบอนาคิน เขาจึงคิดว่าสิ่งที่ตนเองเป็นจะสั่งสอนเด็กชายได้ แต่โอบีวันหารู้ไม่ว่าจิตใจคนเรานั้นต่างกัน สิ่งที่อนาคินได้รับจากแม่คือพื้นฐานความดีเพียงหนึ่งเดียวที่เด็กชายมี จนเมื่อสูญเสียแม่ไปอนาคินก็ได้ แพดเม่ อมิดาลา (Padme Amidala) มาเป็นจุดยึดในจิตใจให้เป็นคนดีทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่มันก็ไม่มากพอสำหรับอนาคิน ขณะที่โอบีวันที่ควรเป็นจุดยึดทางจิตใจที่สำคัญรองมาจากแม่กลับไม่สามารถเป็นที่พึ่งทางจิตใจได้ เขาจึงไปหาที่ยึดเหนี่ยวเพิ่มนั่นคือสมุหนายก พัลพาทีน นั่นคือสิ่งที่ผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่โอบีวันทำพลาดในฐานะอาจารย์ ซึ่งสิ่งที่เรากล่าวมานั้นไควกอนมีทั้งหมด และถ้าเขาได้ฝึกอนาคินคงไม่เป็นอย่างนี้แน่นอน ดูได้จากที่ทั้งสองคนคุยกันสมัยที่อนาคินยังเด็ก ซึ่งถ้าบอกว่าโอบีวันมีส่วนผิดในเรื่องที่อนาคินเข้าสู่ด้านมืด ก็ต้องบอกว่ามีส่วนมากเลยทีเดียว แต่โอบีวันยังไม่รู้และเข้าใจในจุดนี้

Star Wars II Attack of the Clones
Star Wars I The Phantom Menace
Star Wars lll Revenge of the Sith

Anakin มองว่า Obi-Wan ฝีมืออ่อนด้อยกว่าตน

Star Wars lll Revenge of the Sith

จากข้อมูลที่ได้มาใน ‘Star Wars lll Revenge of the Sith’ ตอนที่โอบีวันสู้กับอนาคินในศึกสุดท้ายนั้น ทางต้นสังกัดบอกว่าพลังของอนาคินนั้นมีถึง 10 เต็ม ขณะที่โอบีวันนั้นมีเพียง 8 เท่านั้น และเมื่อเราไปย้อนดูการต่อสู้ครั้งนั้นเราจะเห็นเลยว่าโอบีวันถอยหลังถูกไล่ต้อนตลอดเวลาในการต่อสู้ ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าอนาคินนั้นเก่งและแข็งแกร่งกว่าโอบีวันหรืออาจจะมากกว่า ‘Jedi’ ทุกคนเสียด้วยซ้ำ ซึ่งตรงนี้อาจารย์ ‘Jedi’ ทุกคนก็รับทราบเรื่องนี้ดี แม้แต่โอบีวันก็ไม่เคยเถียงเลยว่าถ้าไม่มีอนาคิน ตัวของโอบีวันคงตายไปแล้วเกิน 10 ครั้ง แต่โอบีวันก็เถียงว่าแค่ 9 ครั้งเท่านั้น จนแม้แต่ตอนที่อนาคินเปลี่ยนมาเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ เขาก็ยังคงแข็งแกร่งที่โอบีวันและเจไดคนไหน ๆ ก็ไม่สามารถสู้ได้

Star Wars lll Revenge of the Sith

Darth Vader โกรธแค้นส่วน Obi-Wan หวาดกลัว

Star Wars Obi-Wan Kenobi

คราวนี้มาดูเรื่องราวในซีรีส์ ‘Star Wars Obi-Wan Kenobi’ ที่หลายคนน่าจะได้เห็นฉากการหนีตายของโอบีวัน ที่เมื่อเขารู้ว่าอนาคินนั้นยังไม่ตายและกลับมาอีกครั้งในฐานะปีศาจที่ชั่วร้ายในชื่อ ดาร์ธ เวเดอร์ ตัวโอบีวันก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที ด้วยความรู้สึกผิดที่ตนเองทำในอดีต ที่ปล่อยให้อนาคินตายอย่างเดียวดายบนดาวภูเขาไฟ บวกกับความสิ้นหวังพ่ายแพ้ไร้ซึ่งหนทางที่จะเอาชนะ ซึ่งสิ่งที่โอบีวันทำได้คือการปกป้องลูกของอนาคินไม่ให้เด็กชายไปอยู่ในมือของผู้เป็นพ่อ ไม่อย่างนั้นจักรวาลคงได้พังพินาศไปมากกว่านี้เพราะคนของ ‘Skywalker’ อย่างแน่นอน ขณะที่ ดาร์ธ เวเดอร์ ก็รู้ว่าผู้เป็นอาจารย์ไม่ตายเพียงเพราะคำสั่งที่ 66 ซึ่งเป็นคำสั่งทหารโคลนฆ่า ‘Jedi’ ทุกคนในจักรวาลแน่นอน เขาจึงพยายามตามล่าโอบีวันแบบไม่คิดชีวิตเพื่อแก้แค้นกับสิ่งที่ทำกับเขา ซึ่งสิ่งที่ยืนยันความแค้นของเวเดอร์ครั้งนี้ก็คือสิ่งที่เวเดอร์ทำกับโอบีวันโดยการใช้พลังลากโอบีวันไปบนกรวดติดไฟ (รูปประกอบด้านล่าง) เพื่อให้โอบีวินรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ตนเคยเจอ เป็นการยืนยันว่าทั้งคู่นั้นก้าวข้ามความรู้สึกรักและผูกพันที่เคยมีไปจนหมดแล้ว เหลือทิ้งเอาไว้แต่ความแค้น

Star Wars Obi-Wan Kenobi

ปลายทางการต่อสู่ของทั้งคู่

Star Wars Episode IV A New Hope

ปิดท้ายกับปลายทางการต่อสู้ของทั้งคู่ ที่สุดท้ายแล้วโอบีวันน่าจะสามารถพาตัวเองกลับสู่วิถีแห่งพลังได้ จนสามารถต่อสู้กับดาร์ธ เวเดอร์ได้อย่างสูสีใน ‘Star Wars Episode IV A New Hope’ ที่แม้เวลาจะผ่านมานานแสนนานนับจากในซีรีส์ ที่เปลี่ยนโอบีวันเป็นตาแก่ผมขาวไปแล้ว แต่ความแข็งแกร่งในพลังกลับไม่ได้ลดลงเลย แถมสามารถต่อกรกับเจ้าแห่งด้านมืดได้อย่างสูสี ที่เหมือนเป็นการปลดเปลื้องความรู้สึกผิดในใจไปจนหมดแล้ว ขณะที่เวเดอร์ยังคงจมอยู่กับความทุกข์ที่ไม่มีวันย้อนกลับไปได้ จนต้องจมดิ่งลงไปในความมืดให้ลึกขึ้นเพื่อหนีความจริง ซึ่งโอบีวันก็ทราบดีว่าตนเองนั้นไม่สามารถช่วยอดีตศิษย์ที่เป็นเหมือนน้องชายตนเองได้อีกแล้ว แต่ก็ยังมีความหวังใหม่นั่นคือตัวของลูกชายอนาคิน ที่ถ้าชี้นำในทางที่ถูกต้องลูกชายต้องดึงอนาคินที่หลับอยู่ในส่วนลึกของผู้เป็นพ่อออกมาได้ โอบีวันจึงยอมสละชีวิตเพื่อปูทางให้ลูกชายมาปลดเปลื้องความผิดบาปให้ผู้เป็นพ่อ ซึ่งประเด็นสำคัญในซีรีส์ ‘Star Wars Obi-Wan Kenobi’ คือตัวของโอบีวันที่ควรรับรู้ความรู้สึกผิดที่ตนเองกระทำและยอมรับมัน ที่สุดท้ายโอบีวันก็สามารถทำได้ ส่วนอนาคินหรือดาร์ธ เวเดอร์ต้องยอมรับในบาปที่ตนเคยทำต่อไป ซึ่งกว่าที่เวเดอร์จะคิดได้ก็ช่วงวินาทีสุดท้ายที่ลูกชายร้องขอให้พ่อช่วย ที่เป็นการดึงตัวตนอนาคินให้ออกมาในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต นับเป็นการจบเรื่องราวความรักความแค้นของทั้งคู่ในที่สุด

Star Wars Episode IV A New Hope

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวการวิเคราะห์เนื้อหาความรักความแค้นของโอบีวัน เคโนบีและอนาคิน สกายวอล์กเกอร์ที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ภาค 1 จนมาถึงภาค 6 กับปมหลาย ๆ อย่างที่หลายคนอาจจะไม่เคยทราบ ซึ่งต้องใช้การสังเกตดูดี ๆ เราจะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้กล่าวไปแบบชัดเจน เพราะทางผู้สร้างภาพยนตร์ได้จงใจใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปแบบชัดเจน ซึ่งคนที่เป็นแฟนซีรีส์นี้ต่างรับรู้ได้เป็นอย่างดี โดยเป้าหมายของบทความนี้ต้องการให้หลายคนที่ได้ดูซีรีส์ ‘Star Wars Obi-Wan Kenobi’ ได้รับรู้สิ่งที่ขาดหาย เพื่อคุณจะได้ตั้งต้นดูซีรีส์นี้ในตอนต่อ ๆ ไปได้สนุกขึ้น และถ้ามีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเราจะรวบรวมเอามาให้ได้อ่านกันยังไงก็กดติดตามกันไว้ได้ รับรองว่าคุณจะไม่พลาดเนื้อหาที่น่าสนใจในวงการเกมการ์ตูนภาพยนตร์แน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส