การไฟฟ้านครหลวงหรือ MEA ได้จัดกิจกรรม MEA EV Rally งานขับขี่ท่องเที่ยวด้วยยานยนต์ไฟฟ้าบนเส้นทาง 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, สมุทรปราการและนนทบุรี รวมระยะทางกว่า 140 กิโลเมตร เพื่อกระตุ้นให้ผู้ขับขี่เห็นถึงความพร้อมด้านพลังงานไฟฟ้าในไทย และมั่นใจในสมรรถนะของตัวรถ EV มากขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 65 คัน สอดรับกับโอกาสครบรอบ 65 ปีของ MEA ด้วย

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง

คุณวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เป็นประธานเปิดกิจกรรม MEA EV Rally โดยเริ่มออกสตาร์ทกันที่ การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานเพลินจิต ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปสู่พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ และป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ MEA ได้ดำเนินโครงงานนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน รวมถึงนำเอาต้นเสาไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้แล้ว มาทำเป็นแนวกันคลื่นทะเล เพื่อป้องกันการกัดเซาะบริเวณชายฝั่งของป้อมพระจุลจอมเกล้าด้วย

ป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการ

ต่อไปเราก็ได้ขับผ่านเมืองหลวงมุ่งสู่หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นอีกบริเวณที่ MEA นำสายไฟฟ้าลงใต้ดินเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่มีสายไฟมาบดบังทัศนีภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (ซ้าย), หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรี (ขวา)

กิจกรรมครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ถึงความพร้อมของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ในพื้นที่ของ MEA ซึ่งปัจจุบัน MEA มีสถานีชาร์จกว่า 138 หัวชาร์จให้บริการในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงสถานีชาร์จของหน่วยงานต่าง ๆ กว่า 1,200 จุดทั่วประเทศ พร้อมทั้งยังมีแอปพลิเคชัน MEA EV ช่วยอำนวยความสะดวกให้การหาที่ชาร์จของ MEA และพันธมิตร จองและจ่ายได้ในแอปเดียว ไปจนถึงบริการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแก่ผู้ที่ต้องการอีกด้วย

นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) (ขวา)

นอกจากนี้ในกิจกรรมยังมีการจัดงานเสวนาโดยมีคุณกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) เป็นแขกรับเชิญพิเศษ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ EV ในอนาคต ทำให้เห็นว่ารถยนต์สันดาปมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย 5 ปีที่แล้วทั่วโลกมีการขายรถยนต์สันดาปไปกว่า 85 ล้านคัน แต่ในปีแล้วกลับเหลือเพียง 65 ล้านคัน ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ากลับเพิ่มสูงขึ้นจาก 5 ปีที่แล้วขายได้เพียง 1 ล้านคัน แต่ปี 2022 กลับพุ่งขึ้นเป็น 10 ล้านคันเลยทีเดียว

MEA ก็ได้เตรียมความพร้อมระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่จะเพิ่มมากขึ้นและคาดไว้ว่าจะถึงจำนวน 6.6 ล้านคันภายในปี 2037 โดยมีการออกแบบระบบ Smart Charging สำหรับบ้านอยู่อาศัย ควบคู่กับTLM (Transformer Load Monitoring) เพื่อลดปัญหาการเกิด Overload และจัดการระบบจำหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงขยายการติดตั้งสถานีชาร์จให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นความพร้อมของ MEA ที่ต้องการพาประเทศมุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ(Low Carbon Society) ต่อไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส