จากปัญหา BTS เสียที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เชื่อว่าหลาย ๆ คนได้รับผลกระทบไปไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะด้านเวลาเดินทางที่คลาดเคลื่อนไปหลายชั่วโมง แต่วันนี้ทาง BTS และ Bombardier บริษัทผู้สร้างระบบการเดินรถไฟฟ้า ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องการปรับปรุงอาณัติสัญญาณครั้งใหญ่เพื่อให้เรามั่นใจว่า เหตุการณ์วันนั้น จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

โดยที่บีทีเอสและบอมบาร์ดิเอร์เตรียมใช้วันหยุดยาว 27-30 กรกฎาคมนี้ ที่มีปริมาณผู้โดยสารน้อย อัปเกรดระบบวิทยุสื่อสารที่ใช้ในการควบคุมการเดินรถไฟฟ้าในชื่อ “ม็อคซ่า” รวมทั้งทดสอบและปรับแต่งระบบให้พร้อมรองรับการให้บริการในอนาคต โดยจะยังคงให้บริการเดินรถไฟฟ้าตามปกติ เพื่อลดผลกระทบต่อผู้โดยสารให้เหลือน้อยที่สุด

ม็อคซ่าคืออะไร ?

ม็อคซ่าคือระบบป้องกันสัญญาณรบกวนที่ทางบอมบาร์ดิเอร์ได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยปกป้องคลื่นความถี่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับย่านที่ BTS ได้ใช้งานอยู่เข้ามารบกวนการทำงานของระบบรถไฟฟ้าที่ 2400 mHz โดยจะกันเอาสัญญาณที่มากกว่าหรือน้อยกว่าออกไป และทำให้สัญญาณมีความเสถียรขึ้นกว่าเดิมมาก

โดยเริ่มมีการดำเนินการลองทดสอบตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาในช่วงเวลากลางคืนตี 1 ถึงตี 4 เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีผู้โดยสารใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามต้องมีการทดลองใช้งานจริง ๆ ในช่วงเวลาปกติด้วย BTS จึงได้เลือกช่วงวันหยุดยาว 27 – 30 กรกฎาคมนี้ในการดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จ และจะติดตามความคืบหน้าไปจนกว่าจะสิ้นปี 2561 นี้เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตการณ์แบบเดียวกันขึ้นอีกครั้ง

หนุ่ย พงศ์สุข สัมภาษณ์ ดร.อาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการ และกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ดร.อาณัติ อาภาภิรม ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการ และกรรมการที่ปรึกษา บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บีทีเอสและบอมบาร์ดิเอร์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านระบบรถไฟฟ้า ได้ร่วมกันติดตั้งเครื่องกรองสัญญาณในทุกขบวนรถเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังทยอยติดตั้งเครื่องกรองสัญญาณระหว่างเส้นทางการเดินรถและที่สถานีทั้ง 35 แห่งด้วย ซึ่งช่วยป้องกันสัญญาณรบกวน และทำให้การเดินรถเป็นไปได้อย่างราบรื่นและเสถียรมากขึ้น

โดยในช่วงวันหยุดยาว27-30 กรกฎาคมนี้ เราจะดำเนินการขั้นต่อไป ด้วยการอัปเกรดและทดสอบระบบควบคุมอาณัติสัญญาณครั้งใหญ่ เพื่อรองรับส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ทั้ง 8 สถานี ได้แก่ สถานีปู่เจ้า สถานีช้างเอราวัณ สถานีโรงเรียนนายเรือ สถานีศรีนครินทร์ สถานีแพรกษา สถานีสายลวด และสถานีเคหะฯ รวมระยะทาง 11 กิโลเมตร ที่จะเปิดให้บริการในปลายปีนี้ ระหว่างการอัปเกรดดังกล่าว อาจเกิดผลกระทบต่อผู้โดยสารบ้าง แต่คาดว่าจะน้อยมาก”

นายเกรกอรี เอนไจเบิร์ท รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กลุ่มธุรกิจระบบสัญญาณควบคุมการเดินรถ และกรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท บอมบาร์ดิเอร์ ทรานสปอร์เทชั่น กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบันระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสและส่วนต่อขยายนั้นใช้เทคโนโลยี CBTC หรือ Communication-Based Train Control ซึ่งเป็นเทคโนโลยีควบคุมระบบการเดินรถไฟฟ้าที่ทันสมัย และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เป็นที่ยอมรับกันในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัย

สำหรับในครั้งนี้เราจะอัปเกรดระบบส่งข้อมูล (Data Transmission System) หรือเครือข่ายหลักที่เชื่อมต่อระบบวิทยุ ระบบอาณัติสัญญาณของรถไฟและราง ให้ทำงานประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น และจะทำให้ระบบวิทยุของระบบรถไฟฟ้าปัจจุบันกับส่วนต่อขยายที่จะเปิดในเดือนธันวาคมนี้เชื่อมต่อกันอย่างราบรื่น โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านระบบมาดูแลอย่างใกล้ชิด”

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้เริ่มอัปเกรดระบบตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยทำเฉพาะช่วงกลางคืนหลังปิดให้บริการ ซึ่งเท่ากับมีเวลาทำงานน้อยมากในแต่ละวัน การให้บริการเดินรถในช่วงนี้ ระบบอาจยังไม่เข้าที่และเกิดความขัดข้องบ้าง เราจะใช้ช่วงวันหยุดยาว 27-30 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะมีผู้ใช้บริการน้อยลง ดำเนินการอัปเกรดระบบครั้งใหญ่ โดยบีทีเอสจะยังคงเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าตามปกติ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการสัญจรของประชาชน ขอให้คำมั่นว่า บีทีเอสและบอมบาร์ดิเอร์จะพยายามดำเนินการทุกอย่าง เพื่อลดผลกระทบต่อผู้โดยสารให้เหลือน้อยที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว

และหลังจากนั้นเรายังต้องดำเนินการปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์หลังจากสายสีเขียวเปิดให้บริการในช่วงปลายปี ทั้งนี้ การอัปเกรดครั้งนี้จะรองรับการให้บริการในส่วนต่อขยายอย่างมีประสิทธิภาพไปอีก 20-30 ปี”

โดยทางแบไต๋จะมีคลิป แบไต๋บุก BTS มาให้แฟน ๆ ได้รับชมกันอย่างแน่นอนเร็ว ๆ นี้ ยังไงรอติดตามกันได้ที่เพจ Beartai Hitech นะครับ