Huawei จัดเต็ม แสดงเทคโนโลยี 5G ชุดใหญ่ในงาน Huawei Pacific Innovation Day 2019 (Huawei HID) ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน ซึ่งงานนี้ได้จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยปีนี้ได้จัดในธีม “Innovation Enables Asia-Pacific Digitization” พร้อมเชิญบุคลากรจากภาครัฐและสื่อมวลชนในภูมิภาค เอเชีย แปซิฟิกมาร่วมงานกว่า 200 คน ภายในงานนำเสนอเทคโนโลยี 5G ที่เชื่อมต่อกับสิ่งต่าง ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพแบบก้าวกระโดด

“เทคโนโลยี 5G มาได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ด้วยเทคโนโลยี 5G ที่สามารถครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น, มี Bandwidth ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีแทบไม่มีค่าความหน่วงในการส่งผ่านข้อมูล นั่นทำให้ 5G สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับอุสาหกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งจะมีแอปพลิเคชั่นที่จะเปลี่ยนแปลงโลกเกิดขึ้นมากมายเมื่อผนวกรวมกับเทคโนโลยี 5G, และในขณะเดียวกันตัวเทคโนโลยี 5G, AI, IoT และ Cloud ก็จะพัฒนาคุณภาพชีวิตพร้อมๆกับดูแลรักษาธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นอย่างแน่นอน”มร. วิลเลียม สวี กรรมการบริษัทหัวเว่ย และประธานบริหารของสถาบันแห่งการวิจัยยุทธศาสตร์

เอเชียแปซิฟิกกลายเป็นภูมิภาคชั้นนำของโลกในด้านการเปิดให้บริการ 5G โดยมีเกาหลีใต้เป็นประเทศแรกในโลกที่เปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ และตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ 5G เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน จำนวนผู้สมัครใช้บริการเทคโนโลยี 5G ได้เพิ่มสูงเกิน 2 ล้านรายแล้ว ประเทศเกาหลีใต้ได้กลายเป็นมาตรฐานของโลกสำหรับการเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ ในขณะที่ประเทศจีนได้มีการสร้างเครือข่าย 5G ขนาดใหญ่สำหรับการทดลองให้บริการเชิงพาณิชย์ ผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ทั้ง 3 ราย ก็ได้ติดตั้งเครือข่าย 5G ในเมืองหลักๆ รวมถึงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เซิ่นเจิ้น และเฉิงตู ซึ่งมีอัตราความเร็วของการดาวน์โหลดสูงถึง 1 Gbps หรือเทียบได้กับการดาวน์โหลดภาพยนตร์ HD ความละเอียดสูงระดับ 1080P เรื่องหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

เทคโนโลยี 5G กลายเป็นความจริงแล้ว ขณะนี้ ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม 35 รายใน 20 ประเทศทั่วโลกได้เปิดให้บริการ 5G แล้ว และอีก 33 ประเทศได้มีการจัดสรรคลื่น 5G แล้ว

หัวเว่ยได้เซ็นสัญญา 5G เชิงพาณิชย์แล้วกว่า 50 ฉบับทั่วโลก และได้ส่งมอบ Massive MIMO AUU ไปแล้วกว่า 200,000 หน่วย หัวเว่ยคร่ำหวอดในธุรกิจการติดตั้ง 5G เชิงพาณิชย์และยังคอยศึกษาวิจัยรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ อยู่เสมอ บริษัทมุ่งมั่นที่จะมอบผลิตภัณฑ์ โซลูชัน ตลอดจนสถานการณ์การใช้งานเทคโนโลยี 5G ที่ล้ำสมัยและปลอดภัยที่สุด บริษัทปรารถนาที่จะร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในเอเชียแปซิฟิกเพื่อเร่งการติดตั้ง 5G พร้อมใช้เทคโนโลยีดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป้าหมายของเราคือการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เพิ่มประสิทธิภาพของสังคม และเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรม

ภาพการ Launch of the world’s first 4G + 5G Collaborative Multilayer Network, China Mobile & Huawei

 ในงาน ไชน่า โมบาย เสฉวน และหัวเว่ยได้เปิดตัวเครือข่าย 5G แบบ Stereo-Coverage ซึ่งประกอบไปด้วยเลเยอร์  Basic Coverage เลเยอร์ Capacity Experience และการครอบคลุมภายในอาคารสำหรับรูปแบบการใช้งานแบบ High–Value เพื่อให้เกิดการครอบคลุมของ 5G แบบไร้รอยต่อ   นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้จับมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและบริษัทพันธมิตรอื่นๆ อีกหลายราย เพื่อสาธิตแอปพลิเคชันการใช้งานเชิงอุตสาหกรรมใหม่ๆ มากมาย รวมถึง 5G+VR, วิดีโอ 5G+8K, 5G+โดรน, การแพทย์ทางไกล 5G และรถพยาบาลฉุกเฉิน 5G ทั้งหมดนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าการใช้เทคโนโลยี 5G ในเชิงพาณิชย์นำไปปรับใช้ได้กับอุตสาหกรรมที่หลากหลาย

ผู้เข้าร่วมงานจากหน่วยงานรัฐบาล อุตสาหกรรม และนักวิชาการ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในมุมมองต่างๆ อาทิ การวางนโยบาย การกำกับ และการพัฒนาอุตสาหกรรมให้เป็นดิจิทัล เป็นต้น  โดยพวกเขาได้กล่าวถึงการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมการเรียนรู้และการป้องกันระบบนิเวศทางธรรมชาติ พร้อมแบ่งปันกรณีศึกษาเรื่องการเสริมสมรรถนะให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี 5G และ AI

Smart Hospital

นอกจากนี้ยังได้พาชมโรงพยาบาล The Third People’s Hospital of Chengdu เพื่อสาธิตการนำ 5G ใช้ในการแพทย์อีกด้วย

  • Remote Ultrasound ที่ช่วยให้แพทย์ที่โรงพยาบาลหลักที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษสามารถ Live Chat เพื่อวินิจฉัยเคสผู้ป่วยร่วมกับแพทย์จากโรงพยาบาลสาขาที่อยู่ห่างออกไปถึง 1,000 ก.ม. ได้อย่างแม่นยำแบบ Real Time ด้วยการเชื่อมต่อผ่านระบบ 5G ที่ไร้ความหน่วง เทคโนโลยีนี้จะทำให้การแพทย์กระจายไปถึงผู้คนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อประหยัดทั้งเวลาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และยังสามารถนำมาใช้ช่วยเหลือผู้คนที่ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากอีกด้วย
  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้อุปกรณ์ในการบังคับหุ่นยนต์ในการรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในสถานที่ห่างไกล ด้วยความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลของเทคโนโลยี 5G ทำให้การบังคับหุ่นยนต์ยกระดับจาก Semi automatic เป็น Fully automatic เต็มรูปแบบ

วิทยาการเหล่านี้จะยังอยู่ในขั้นตอนของการทดลองก่อนนำมาใช้จริง และเมื่อถึงเวลาที่เครือข่าย 5G เข้ามาเต็มรูปแบบ วิทยาการเหล่านี้จะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้อย่างมากมายเลยทีเดียว

Smart Bus

รถบัสอัจฉริยะที่นำเทคโนโลยี 5G และ 8K มาใช้ร่วมกัน ในตัวรถจัดแสดงการส่งข้อมูลผ่าน 5G มายังรถที่กำลังวิ่งด้วยการถ่ายทอดสดวิดีโอในความละเอียดระดับ 8K ที่มีขนาดความละเอียดเป็น 4 เท่าของ 4K ที่ใช้กันในปัจจุบัน เทคโนโลยี 5G นี้ให้ความเร็วมากกว่า 2gbps ทำให้การถ่ายทอดสดวิดีโอแทบไม่มีค่าความหน่วงเลย โดยสามารถนำนักดนตรีในสถานที่ที่ห่างไกลกันมาเล่นดนตรีในเพลงเดียวกันผ่านวิดีโอถ่ายทอดสดได้เลย และยังมี Gaming Zone ที่สามารถเล่นเกมออนไลน์ผ่าน Cloud ได้อย่างลื่นไหลบนรถบัสอีกด้วย

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้กล่าวถึงการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้กับอุตสาหกรรมต่างๆ อีกมากมาย เช่น

  • การนำ 5G มาใช้กับ VR เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าชมสถานที่สำคัญต่างๆหรือแม้แต่สถานที่ที่เข้าถึงได้ยากได้จากทั่วทุกมุมโลก
  • การใช้ 5G เพื่อพัฒนาศักยภาพให้กับโดรนและใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นการขนส่งยาและเครื่องมือแพทย์, การช่วยเหลือผู้คนด้วยการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยที่เข้าถึงยากด้วยโดรน หรือการเตือนภัยด้วยโดรน

ซึ่งการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้จะสามารถสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมการเรียนรู้ รวมไปถึงการป้องกันระบบนิเวศทางธรรมชาติ พร้อมแบ่งปันกรณีศึกษาเรื่องการเสริมสมรรถนะให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี 5G และ AI ได้ในอนาคตอันใกล้นี้

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส