กลับมาอีกครั้งกับโครงการดี ๆ อย่าง Design Excellence Award 2019 หรือ DEmark 2019 ซึ่งเป็นโครงการของสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมผลงานที่โดดเด่นและน่าสนใจประจำปี 2019 นี้ให้เป็นที่ยอมรับและแพร่หลายในระดับโลก

คุณบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มอบรางวัลให้ผู้ชนะภายในงาน

รางวัล DEmark มีที่มาจากรางวัล Prime Minister’s Export Award (PM Export Award) ในสาขา Best Design มีการพัฒนามาสู่การพิจารณาให้รางวัลสินค้าที่มีการออกแบบดี จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 12 และได้รับการตอบรับเข้าร่วมโครงการจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี เป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ด้านการออกแบบให้มีมูลค่าเพิ่ม เกิดการยอมรับและแข่งขันได้ โดยในปีนี้ก็ได้พิจารณาแจก รางวัลในโครงการนี้ จํานวน 32 รายการ จากผู้ประกอบการในสาขาต่าง ๆ ที่ได้รับรางวัล นับว่าประสบความสําเร็จ ในการผลักดันผลงานออกแบบไทยออกสู่สายตาของตลาดสากลมาได้อย่างต่อเนื่องคุณบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีนโยบายเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการสามารถ แข่งขันได้ในตลาดโลก สร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทย โดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยนํา นวัตกรรมการออกแบบ และเทคโนโลยี มาพัฒนา และปรับปรุงสินค้าและบริการไทยให้มีคุณภาพและมีความ น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค โครงการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินสินค้าไทยที่มีการ ออกแบบดี Design Excellence Award (DEmark) จะช่วยส่งเสริมการออกแบบสินค้าของผู้ประกอบการไทย โดยใช้ตราสัญลักษณ์ DEmark เป็นเครื่องหมายรับรองผลงานที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ สร้างความ แตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย รวมถึงยกระดับสินค้าที่มีการออกแบบให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลาย ในตลาดโลก เพื่อประโยชน์ทางการค้า และเกิดความภาคภูมิใจเป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ของประเทศต่อไป

อีกทั้งกรมได้รับความร่วมมือจากสถาบันส่งเสริมการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ Japan Institute of Design Promotion (JDP) ในการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากรางวัล Good Design Award (G-MARK) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรางวัลด้านการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วม พิจารณาตัดสิน โดยในปีนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในสาขาต่าง ๆ รวม 72 รายการ แบ่งเป็นผู้ได้รับ รางวัลจากกรุงเทพมหานคร 43 รายการ และจากต่างจังหวัด 29 รายการ ดังนี้

  1. กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (Furniture) จํานวน 12 ราย
  2. กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) จํานวน 16 ราย
  3. กลุ่มความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย (Creative & Innovative Fashion) จํานวน 13 ราย
  4. กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Industrial) จํานวน 10 ราย
  5. กลุ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging) จํานวน 3 ราย
  6. กลุ่มสินค้ากราฟิกดีไซน์ (Graphic) จํานวน 14 บริษัท
  7. กลุ่มผลงานออกแบบตกแต่งภายใน (Interior Design) จํานวน 4 บริษัท

โดยผลงานที่ได้รับรางวัล DEmark Award 2019 แบ่งเป็นจังหวัดได้ ดังนี้ กรุงเทพมหานคร 43 ชิ้นงาน ปทุมธานี 5 ชิ้นงาน สมุทรสาคร 3 ชิ้นงาน นครปฐม 3 ชิ้นงาน เชียงราย 3 ชิ้นงาน ขอนแก่น 2 ชิ้นงาน นนทบุรี 2 ชิ้นงาน สมุทรปราการ 2 ชิ้นงาน ฉะเชิงเทรา 1 ชิ้นงาน เชียงใหม่ 1 ชิ้นงาน ชลบุรี 1 ชิ้นงาน ตรัง 1 ชิ้นงาน นครราชสีมา 1 ชิ้นงาน ตาก 1 ชิ้นงาน ภูเก็ต 1 ชิ้นงาน ระยอง 1 ชิ้นงาน และ สงขลา 1 ชิ้นงาน

สําหรับผู้ได้รับรางวัล DEmark จะได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากกรมส่งเสริมการค้า ระหว่างประเทศ เช่น สามารถใช้โลโก้ในการส่งเสริมการขายสินค้าได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้รับส่วนลด ค่าใช้จ่ายสมทบโครงการร้อยละ 50 ในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศที่กรม เข้าร่วม (ไม่เกิน 3 ครั้ง ใน เวลา 1 ปี) ได้รับการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการโฆษณาในสื่อต่าง ๆ รวมทั้งนําสินค้าไปจัดแสดงนิทรรศการทั้งในและต่างประเทศ อาทิ งานแสดงสินค้า STYLE Bangkok และ Milan Design Week นอกจากนี้ ผู้ได้รับรางวัล DEmark จะได้เข้ารอบ 2 รางวัล G-mark ประเทศญี่ปุ่นโดยทันที

ปัจจุบันสินค้าไทยที่ได้รับรางวัล DEmark รวมทั้งหมด จํานวน 821 รายการได้รับรางวัล G-Mark แล้ว จํานวน 428 รายการ โดยนักออกแบบ/ผู้ประกอบการสามารถใช้โลโก้ความร่วมมือ DEmark และ G-mark เพื่อช่วยส่งเสริมเป็นช่องทางทางการค้าต่อไป

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส