คอนเซ็ปต์โฟน APEX ของ Vivo ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อซีรีส์ Vivo NEX โดยมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ NEX A ที่เป็นรุ่นมาตรฐาน และ NEX S ที่เป็นรุ่นพรีเมียม

สเปค Vivo NEX A

  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2316 x 1080 พิกเซล), อัตราส่วน 19.3:9
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 710 ระดับ 10 นาโนเมตร, ชิปกราฟิก Andreno 616
  • แรม 6 GB
  • ความจุ 128 GB รองรับ MicroSD Card
  • กล้องหลังคู่ 12 (f/1.8) + 5 (f2.4) ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 8 (f/2.0) ล้านพิกเซล
  • ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบด้วย Funtouch OS 4.0
  • แบตเตอรี่ 4,000 mAh
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
  • ผู้ช่วยดิจิทัล Jovi
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.

สเปค Vivo NEX S

  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2316 x 1080 พิกเซล), อัตราส่วน 19.3:9
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 845 ระดับ 10 นาโนเมตร, ชิปกราฟิก Adreno 630
  • แรม 8 GB
  • ความจุ 128 – 256 GB รองรับ MicroSD Card
  • กล้องหลังคู่ 12 (f/1.8) + 5 (f2.4) ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 8 (f/2.0) ล้านพิกเซล
  • ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบด้วย Funtouch OS 4.0
  • แบตเตอรี่ 4,000 mAh
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • ผู้ช่วยดิจิทัล Jovi
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.

จากสเปคที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า Vivo NEX A และ NEX S นั้น มีดีไซน์แบบเดียวกัน แต่จะต่างกันที่สเปค ซึ่ง NEX S นั้นมีความเป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนดมากกว่า โดยได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมอบบนหน้าจอเช่นเดียวกับ Vivo X21 UD ที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมด้วยชิปเซ็ตระดับเรือธง Snapdragon 845 และแรม/ความจุ มากถึง 8 GB/ 256 GB

ส่วน NEX A นั้น ยังคงมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง พร้อมด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 710 ที่ Qualcomm เพิ่งเปิดตัวใหม่ และแรม/ความจุ อยู่ที่ 6 GB/ 128 GB

สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นมาๆของสมาร์ทโฟนซีรีส์ NEX คือ หน้าจอ Super AMOLED ที่เรียกว่า Ultra FullView Display ขนาด 6.59 นิ้ว ที่ได้ไร้ส่วนเว้าใดๆ บนหน้าจอ โดยช่องหูฟังการสนทนาได้ถูกตัดออกไป โดยนำเทคโนโลยี Screen SoundCasting Technology ที่ทำให้เกิดการสั่นบหน้าจอ ซึ่งทาง Vivo ได้อ้างว่าให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า

อีกทั้งกล้องหน้ายังสามารถยื่นออกมาจากขอบเครื่อง (Periscope) ได้ ดังที่มีรายงานก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ Vivo NEX ยังมีผู้ช่วยดิจิทัลที่เรียกว่า Jovi ที่สามารถเรียกใช้งานได้จากการกดปุ่มที่ด้านข้างตัวเครื่อง (คล้ายกับ Bixby ของ Samsung) โดย Jovi นั้น รองรับคำสั่งเสียงในหลายรูปแบบ

Vivo NEX จะเริ่มเปิดให้จองในวันที่ 13 มิถุนายน 2018 และจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 23 มิถุนายน 2018 โดยมีราคาดังนี้

  • NEX A (6 GB/ 128 GB) ราคา 4,000 หยวน (ประมาณ 20,000 บาท)
  • NEX S (8 GB/ 128 GB) ราคา 4,498 หยวน (ประมาณ 22,500 บาท)
  • NEX S (8 GB/ 256 GB) ราคา 4,998 หยวน (ประมาณ 25,000 บาท)

ข้อมูลอ้างอิง : gsmarena