กระทรวงการคลัง ได้เสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามาตรการภาษีเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2558 จำนวน 1 มาตรการ ได้แก่ มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในระหว่าง วันที่25 ธันวาคม ถึง 31 ธันวาคม 2558 

ทั้งนี้ส่วนลด 15,000 คือ การเอาไปลดหย่อนเพิ่มเป็นค่าใช้จ่าย ไม่ใช่การลดภาษีโดยตรง จะลดได้มากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับฐานภาษีสูงสุดที่ท่านชำระอยู่ (เช่นถ้าตอนนี้เสียภาษีฐาน 10% ซื้อ 15,000 บาท ก็จะลดภาษีได้ 1,500 บาท หรือ ถ้าตอนนี้เสียภาษีฐาน 5% ซื้อ 15,000 บาท ก็จะลดภาษีได้ 750 บาท)

เกณฑ์ผู้ที่ต้องเสียภาษี

Screen Shot 2558-12-25 at 4.01.21 PM

อ้างอิงจาก : www.rd.go.th/publish/55862.0.html

 

รายละเอียดมีดังนี้

ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำเงินที่ท่านได้ใช้จ่ายเป็นค่าสินค้าและบริการแก่ผู้ประกอบการซึ่งจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เน้นว่า ต้องเป็นสินค้าและบริการ หรือ เป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และให้ นำใบเสร็จการชำระเงินที่มีการบวกค่า VAT นั้นๆไปเปลี่ยนเป็นใบกำกับภาษีฉบับเต็ม พร้อมระบุชื่อผู้ประสงค์จะขอลดหย่อนภาษี ในช่วงระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม ถึง 31 ธันวาคม 2558 จึงนำมายกเว้นการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ได้

ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการยื่นลดหย่อนภาษีตามมาตรการนี้

จะต้องเป็นผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล โดย ผู้ยื่นขอลดหย่อนจะต้องมีใบเสร็จรับเงิน หรือ ใบกำกับภาษีฉบับเต็ม ที่ระบุ ชื่อ นามสกุล ของผู้มีเงินได้ที่จะใช้สิทธิหักลดหย่อน จำนวนเงิน และวัน เดือน ปี ของเอกสารใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีที่ชัดเจน

TAXIN

รูปแบบใบกำกับภาษีฉบับเต็ม

OXdkL7n

ขอบคุณภาพจาก Facebook ของห้างเดอะมอลล์

ซึ่งรายละเอียดของสินค้าและบริการ ที่สามารถนำมาลดหย่อนได้หรือไม่ลดหย่อนไม่ได้นั้น มีดังนี้

  • สุรา เบียร์ ไวน์ ไม่ได้
  • ยาสูบ ไม่ได้
  • น้ำมันและก๊าซเติมยานพาหนะ ไม่ได้
  • รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ ไม่ได้
  • ค่าน้ำ ค่าไฟ ไม่ได้
  • ศัลยกรรม ค่ารักษาพยาบาล ไม่ได้
  • ทองคำแท่ง ไม่ได้
  • ทองรูปพรรณ ได้ (เฉพาะค่ากำเหน็จ)
  • เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ไม่ได้
  • หนังสือ นิตยสาร ตำราเรียน ไม่ได้
  • สินค้าใน Duty Free ไม่ได้
  • ร้านอาหาร ได้ (แต่ร้านนั้นต้องจดทะเบียน VAT และสุรา เบียร์ ไวน์ ต้องไม่นำมาคิด)
  • ประกันชีวิต ประกันภัย ไม่ได้
  • ซ่อมรถยนต์ ได้ (หากการซ่อมเกิดขึ้นระหว่าง 25-31 .. และแล้วเสร็จก่อน 31 ..)
  • อะไหล่รถยนต์ ได้
  • บัตรของขวัญห้างสรรพสินค้า ไม่ได้ (ต้องเป็นการระบุประเถทสินค้า เพราะบางสินค้าใช้ลดไม่ได้)
  • ทัวร์ต่างประเทศ ไม่ได้
  • ทัวร์ในประเทศ ได้

กระทรวงการคลัง ได้เสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามาตรการภาษีเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2558 จำนวน 1 มาตรการ ได้แก่ มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในระหว่าง วันที่25 ธันวาคม ถึง 31 ธันวาคม 2558 จากผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท โดยให้ผู้มีเงินได้ ต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าหรือรับบริการเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบตาม ม.86/4 แห่งป.รัษฎากร

และเมื่อรวมกับมาตรการตามกฎกระทรวง ที่มีผลใช้บังคับก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 58 กรณีเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ที่ได้จ่ายเป็นค่าโรงแรมภายในประเทศตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ทำให้กระทรวงการคลังมีมาตรการภาษี เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 58 รวม 2 มาตรการ เป็นจำนวน 30,000 บาท ซึ่งรายละเอียดก็คำนวณเช่นเดียวกัน 

แต่ในกรณี ที่จองผ่านคนกลางหรือเอเจนซี่ เช่นเว็บไซต์ “Agoda” บิลที่ออกจากคนกลางซึ่งไม่เข้าข่ายผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตข้างต้น ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานลดหย่อนภาษีได้

ขณะที่ผู้ออกใบเสร็จได้จะต้องเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ หรือ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมาย ซึ่งโรงแรมที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ทางกรมสรรพากรได้จัดทำลิสต์รายชื่อเอาไว้ให้ตรวจเช็กได้แล้ว บนเว็บไซต์ rd.go.thLmnnjZn
CUYp2pc