หากจะให้พูดถึง มิวสิค – จิดาภา คงธนภักดี หรือ Music Sweat16 อดีตสมาชิกวงไอดอลอันดับต้น ๆ ของไทย จากแววตาที่มุ่งมั่ง ความตั้งใจที่จะเป็นที่ยอมรับ น้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ และมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง วันนี้กับเส้นทางที่เลือกเดิน ทั้งในส่วนที่เป็นบทบาทนักร้อง และก้าวเท้าสู่แวดวงธุรกิจ หลังจากที่นัดหมายกันหลายรอบกว่าจะลงตัวได้พูดคุย

beartai : จำได้ว่าก่อนที่จะประกาศจบการศึกษาจากวง มิวเคยมีเพลง มิมีดี ที่ทำงานร่วมกับวง Molamola Sunshine! เป็นไงมาไงถึงได้เกิดเพลงนี้ขึ้น

มิวสิค : พอดีรู้จักกับอาด่องที่เขาทำ วง Molamola Sunshine! เหมือนกับว่าเขาจะเป็นวงที่ไม่มีนักร้องนำประจำ แต่จะชวนศิลปิน มาร้องในเพลงเขาค่ะ

beartai : มิมีดี พูดถึงอะไร

มิวสิค : มิมีดี เหมือนกับว่า ดีแบบฉัน ไม่เรียกว่าดีหรอก ดีแบบเขาถึงจะดี เหมือนน้อยใจ เหมือนเราไม่มีดีอะไรเลยประมาณนั้น เพลงต่อมาก็ ห่างกันไว้ก่อน เป็นโปรเจกต์ของมหาลัยค่ะ

beartai : เพลงนั้นมายังไง

มิวสิค : คือตอนแรกมหาลัยเหมือนกับเขาอยากทำเหมือนฟิวเป็นโปรเจกต์เล็ก ๆ หลังบ้านที่สามารถส่งเราไปค่ายอื่นได้ ตอนนั้นปี 1 พอดีที่มิวเข้าไป แล้วเขาก็เริ่มทำโปรเจกต์นี้ปีนี้พอดี เขาก็เลยบอกว่างั้นก็ลองมาทำ single ของมหาลัยดู มิวก็เห็นว่าช่วงนั้นเราก็ไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว ก็เลยตกลงเขาไปค่ะ ลงช่อง Mahidol Music Connect

มิวสิค : หลังจากห่างกันไว้ก่อนก็ได้ร่วมกับ spacebar music แล้วก็ได้ขึ้นงาน youth explotion ที่มหิดลร่วมกับ Muzik move ที่มหิดล ลานมหิดล สิทธาคาร

beartai : หลังจาก มิมีดี ห่างกันไว้ก่อน แล้วอะไรต่อ

มิวสิค : อันนั้นพี่สุกิจก็อยู่ด้วย MV ที่พี่อดัมทำ เพลงตะโกน ค่ะ

มิวสิค : แต่เพลงนั้นหลังจากทำเสร็จก็รู้สึกไม่ค่อยถูกใจตัวเองสักเท่าไหร่ 

beartai : เหมือนกับมันแย้งจากลุกทั้งหมดที่เราเคยเห็นมิวมา

มิวสิค : “ความเป็นตัวมิว มิวไม่ได้ดุขนาดนั้น แล้วก็รู้สึกว่าเสียงตัวเองไม่ค่อยเข้ากับเพลงร็อก ถึงจะชอบเพลงร็อกเพลงอะไร แต่ก็รู้สึกว่าทั้งหน้าตาบุคลิก และเสียงมันไปกันไม่ได้ค่ะ”

beartai : ตะโกนผ่านไปแล้วยังไงต่อ 

จิดาภา คงธนภักดี – มิวสิค

มิวสิค : เพลงคนที่ดีกว่าฉัน เพลงนี้แต่งเองหมดเลยค่ะ

beartai : เหมือนมิวเคยพูดถึงอยู่ 

มิวสิค : เป็นเพลงป๊อปช้าที่เป็นจังหวะ 6/8 

beartai : อธิบายหน่อย

มิวสิค : คือทุกปีเวลาสอบ เขาเรียกว่าสอบสมอลล์ สอบรวมวงในมหาลัย มันจะต้องมีคนที่แต่งเพลงเพื่อไปสอบทุกปี ซึ่งพออยู่ในกลุ่มนี้ก็ไม่มีคนแต่งก็เลยแต่ง แล้วพอวันที่ไปเล่นรู้สึกว่าคนค่อนข้างให้ความสนใจ ก็เลยไหน ๆ ก็แต่งไปแล้ว ปล่อยเลยแล้วกัน มันแค่นั้นเลยค่ะ 555

beartai : แล้วเนื้อหาพูดถึงอะไร 

มิวสิค : เหมือนเป็นเพลงเศร้า ขอให้เธอเจอคนที่ดีกว่าฉัน เหมือนอารมณ์แบบขอโทษในสิ่งที่ทำผิดไป

มิวสิค : หลังจากเจอล่ำ ก็ทำเพลงคู่มา ชื่อ แค่รู้จัก ที่ Mv จะเป็นคล้าย ๆ vlog เป็นเรื่องราวของเราสองคนแล้วก็เหมือนกับพอรู้ว่าล่ำเป็นโปรดิวซ์ หนูก็ร้อง มันก็เป็นปกติ ที่จะทำเพลงด้วยกัน ก็เลยมาทำเพลงด้วยกัน เขาก็ขึ้นทำนองมาหนูก็แต่งต่อ ก็แต่งในแต่ละส่วนของตัวเองหนูร้องท่อนตัวเองก็แต่งท่อนนั้น ล่ำร้องท่อนไหนก็แต่งท่อนนั้นค่ะ

beartai : แล้วผลตอบรับเป็นยังไง 

มิวสิค : มันก็ไม่ได้ดีเท่าที่หวังค่ะ แต่ก็อย่างน้อยเราได้ทำสิ่งที่เราชอบ

beartai : หลังจากนั้นมาทำอะไรต่อ

มิวสิค : หลังจากนั้นก็เว้น ๆ นานเลย เพราะว่าเหมือนกับเราอยากอยู่กับตัวเองก่อนด้วย แล้วก็มีช่วงท้อแท้ หมดไฟด้วย จากนั้นด้วยความที่ล่ำทำธุรกิจอยู่แล้ว เขาก็จะมีธุรกิจพวกอย่างกบไมโครมิวสิกเซ็นเตอร์ก็จะเป็นร้านขายเครื่องดนตรีแล้วก็เป็นสตูดิโอค่ะ

ดีดี : สตูดิโอทำอัดเพลงแล้วก็ห้องซ้อมด้วยครับ

มิวสิค : ล่ำก็มี กบไมโครมิวสิกเซ็นเตอร์อยู่ที่ศรีราชา ด้วยความที่ทุกคนชอบดนตรีกันอยู่แล้ว เราก็เลยตกลงกันว่าอยากลองขายพวกเกี่ยวกับดนตรีดู การที่คนจะเข้าถึงง่ายที่สุดกับเครื่องดนตรีคือกีต้าร์ ก็เลยเริ่มขายกีต้าร์  Richer Guitars ก็เริ่มมาเป็นอันนี้

beartai : มิวรับหน้าที่อะไรบ้างในการขายกีตาร์ทำหน้าที่อะไร

มิวสิค : ประสานงานกับโรงงานที่ต่างประเทศ เป็นคนประสานงานแล้วก็เป็นแอดมินเพจ โซเชียลต่าง ๆ แล้วก็ไลน์แอดค่ะ ตอบนู่นตอบนี่ บางทีก็ช่วยคิด  คือเหมือนจริง ๆ ไม่ได้แบ่งหน้าที่กันขนาดนั้น คือใครมีอะไรก็ช่วยอะไร ๆ กันเสนอ ออกไอเดียกันค่ะ

beartai : ออกมาสักพักแล้วผลตอบรับเป็นยังไงบ้าง

มิวสิค : ตอนนี้ก็ OK สำหรับมิว แต่ว่าถามว่า ดีเท่าที่ตั้งไว้ไหม ก็ยังเหมือนกัน ด้วยความที่เป็นธุรกิจแรกที่เราเหมือนเพิ่งเริ่มที่จะสั่งกีต้าร์ ออกแบบเอง ให้โรงงานผลิตจากต่างประเทศเอง มันก็จะมีปัญหาเรื่องพวกเอกสารบ้าง ผลิตมาบางอันมันอาจจะไม่ตรงบ้าง หรือว่าเรื่องของเวลาในการผลิต จัดส่ง อย่างสั่งผลิต ก็เหมือนกับว่าก็จะมีเรื่องของโควิดเพราะว่าที่นู่นคือถ้าเกิดมีคนนึงที่ติดโควิดในโรงงานก็คือหยุดเลย 2 อาทิตย์ เวลามันก็เลยจะช้ามากกว่าที่จะเสร็จได้ อย่างตอนแรกเขาคาดการณ์ไว้ว่า 2 เดือนผลิตเสร็จ แล้วก็อีกประมาณ 2 อาทิตย์ส่งถึง อันนี้มันก็เลยใช้เวลา 3 เดือนกว่าเลยค่ะ ซึ่งตอนนี้ของถึงแล้ว แต่ว่าก็ยังมีเรื่องของเอกสารที่ต้องนำเข้า พวกเรื่องภาษี ก็จะมีเอกสารแบบเยอะแยะมาก ก็จะมีปัญหามาเรื่อย ๆ แต่ว่าก็ช่วยกันแก้ไขปัญหากัน

beartai : อันนี้ก็เหมือนทั้งหมดตั้งแต่มิวออกจาก Sweat 

มิวสิค : ใช่ แล้วก็ล่าสุดเพลง Single ที่เพิ่งปล่อยมา

beartai : ยังไม่เข้าแป๊บนึง

มิวสิค : ยังไม่เข้าอีกหรอคะ 555

beartai : เดี๋ยวก่อนสิ สิ่งหนึ่งที่อยากรู้ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องเพลง ตั้งใจจะมาคุยกันวันนี้ก็คือว่าจากแต่ก่อนที่เราอยู่เป็นกลุ่มหลาย ๆ คน 13 คน พอออกมาอยู่คนเดียว  พอทำเพียงคนเดียวแล้วเป็นยังไงบ้าง มันให้อะไรกับเราบ้าง รู้สึกยังไงบ้างในช่วงแรกจนถึงตอนนี้ตั้งหลายปีแล้ว  3 – 4 ปี

มิวสิค : คือมันแตกต่างเกือบหมดทุกอย่างเลย คืออย่างตอนที่อยู่วง ตอนนั้นพี่ไก่สุธี กับพี่บอย โกสิยพงษ์แต่งเพลงให้เรื่องเพลงเราไม่ต้องแตะเลย เรามีหน้าที่แค่อัดแค่นั้นเลย แล้วก็เรียนคิดท่าเต้นก็ไม่ต้องมีโคโลกราฟให้ คือเราก็แค่ซ้อมทำตาม แล้วพออยู่กันหลาย ๆ คน เวลาไปทำงานมันสนุก แบบมีคนไปด้วยไม่เหงา พอมาอยู่คนเดียวเหงามาก แต่ว่ามันก็ยากกว่าตรงที่ว่าเราต้องยังไงกับตัวเรา เราจะหาตัวเราเจอได้ยังไง แนวเพลงของเราจะเป็นประมาณไหน เราเข้ากับอะไร จะแต่งเพลงออกมายังไงบ้าง มันก็จะวุ่นวาย ๆ หน่อย แต่ก็ดีที่มี 2 คนนี้มาอยู่ด้วยก็ไม่เหงา เพราะว่าไปป่วนเขาหมดเลยค่ะ 555

beartai : เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง กับการทำงานคนเดียว อย่างที่เมื่อสักครู่นี้พูดถึง ตะโกน คิดว่ามันไม่ใช่ตัวเรา แล้วก็หลาย ๆ เพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงฟัง แล้วก็เพลงสบาย ๆ ซะมากกว่า อันนี้คิดว่าใช่ตัวเราแล้วใช่ไหม หรือว่าใช่ตัวเราในสิ่งที่ทุกคนรู้จัก คิดว่าอะไรมันมากกว่ากัน น้ำหนักอะไรมากกว่ากัน ใช่ตัวเรานั่นแหละหรือเปล่าหรือยังไง น้ำหนักมันไปอยู่ตรงไหนมากกว่ากัน สิ่งที่ค้นพบระหว่างเส้นทาง 3 ปี

มิวสิค : รู้สึกว่าคนที่รู้จัก ก็จะรู้จักแค่มุมที่แบบร่าเริง สดใส ก็เข้าใจแหละเพราะว่าก็เป็นคนที่ติ๊งต๊อง ปัญญาอ่อน ซื่อบื้อ แล้วก็ร่าเริง สดใสอยู่แล้ว มันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ 555  รู้สึกว่าจากที่แฟนคลับหรือหลาย ๆ คนพูดเขาจะชอบเวลาที่ยิ้ม แบบยิ้มแล้วโลกสดใสจังเลย มันก็เป็นอย่างนั้น เรารู้สึกว่ามีหน้าที่ให้ความสุข แต่ว่าถ้าพูดถึงเรื่องแนวเพลง มันก็มีหลายปัจจัยด้วยอย่างเช่น ช่วงเวลานั้น คือแล้วแต่ช่วงอายุคน แบบช่วงนี้เราอาจจะชอบแบบนี้ เราฟังแบบนี้แต่สมมุติถ้าเกิดอีก 5 ปีข้างหน้า อาจจะไม่ได้ทำเพลงป๊อปใส ๆ R&B อะไรอย่างนี้แล้ว อาจจะเป็นแนวอื่นก็ได้ มันก็เป็นช่วงเวลาของเราด้วย แต่คิดว่าตอนนี้ที่เข้ากับตัวเองที่สุดจะเป็นพวก citypop R&B pop ประมาณนี้ค่ะ แต่ก็อาจจะมีลูกเล่นอะไรเข้าไปนิดหน่อย 

Miiw Jydaa Ft.Da.Ddy – Close Friend [Official Audio]

beartai : มาเข้าเพลงนี้หน่อย Close Friend

มิวสิค : ก็คือตอนแรกที่จริงมิวทำกับล่ำไว้ประมาณปีกว่าแล้วค่ะ

beartai : นานแล้วด้วย

มิวสิค : ใช่ค่ะ ทำไว้ตั้งแต่ปีกว่าที่แล้ว แล้วก็ดองไม่ได้ปล่อยไม่ได้อะไรสักที จนดีดีกลับมาจากอเมริกา แล้วก็เหมือนกับว่าดีก็อยากทำเหมือนกัน คือปกติดีจะไปแนวทางฮิปฮอป ดีก็มีเพลง Single เป็นของตัวเองมาก่อน ฮิปฮอปไปเลย เป็นสายแรป เหมือนกับว่าเขาอยากหา Content ทำบ้าง อยากลองมาร้องในสิ่งที่เรายังไม่เคย สำหรับตัวดีดีเอง ดีรู้สึกว่าถนัดเหมือนกัน รู้สึกว่าเป็นไปได้เหมือนกัน ดีก็ชอบเหมือนกันค่ะ แล้วตอนนั้นหนูก็เปิดเพลง Close Friend อยู่มั้ง นี่ก็บ่นว่า แล้วเมื่อไหร่จะทำให้เสร็จสักที ดีก็เลยบอกเอาด้วยก็เลยมาร่วมโปรเจคกันค่ะ 

beartai : ทีนี้ Close Friend เป็นมายังไง ทำไมเกิดเพลง Close Friend ขึ้น เมื่อปีที่แล้วมันเกิดอะไรขึ้นถึงเกิดเพลงนี้ 

มิวสิค : ไปร้านอาหารตอนนั้นไปกับพี่เพชร ยังเพชร ไม่รู้พี่สุกิจรู้จักหรือเปล่า พี่เขาเป็นมือกลอง ที่ Cover ดี ๆ เขาก็มาบ่นว่า มิวพี่ได้เป็นแค่ Close Friend เลยนะ พี่เป็นได้แค่นี้เอง พี่อยากเป็นมากกว่าแต่มันเป็นไม่ได้ พี่น่ะอยู่ใน Close Friend เขาแล้ว เขาก็โชว์ให้ดูว่าอย่างนี้ ๆ แล้วก็เลยเอามานั่งคิดว่ามันน่าจะแต่งเกี่ยวกับอะไรอย่างนี้ดู

beartai : Close Friend ก็ดีแล้วนะจริง ๆ เป็น Close Friend เป็นหนึ่งในคนกลุ่มหนึ่งที่เขาต้องการให้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยเห็น Close Friend มันก็ดี

มิวสิค : ใช่ค่ะ แต่เป็นมากกว่านั้นไม่ได้ 555

beartai : มันเจ็บตรงนี้

มิวสิค : นั่นแหละก็เลยเป็นจุดแรกเลยที่คิดจะทำเพลงเกี่ยวกับ Close Friend ล่ำเป็นคนแต่งท่อนฮุกค่ะ

beartai : แต่งอะไร แต่งเมโลดี้ก่อนหรือแต่งคำร้องก่อนหรือยังไง

มิวสิค : ส่วนใหญ่ล่ำจะแต่งคู่กันไปเลย ซึ่งเพลงนี้ที่จริงเริ่มแรกมาจากล่ำเป็นคนแต่ง ตอนแรกหนูไม่ได้แต่ง แล้วพอมีดีดีเข้ามา ก็จะมีการเพิ่มท่อน ดีก็จะแต่งในส่วนพาร์ทของดีดี มันจะมีท่อนนึงท่อนเล็ก ๆ ที่หนูแต่ง เพราะว่าก่อนหน้านั้นมันโอเคอยู่แล้วที่ล่ำแต่งค่ะ

รัชนาท ชะนะเดิก – ดีดี

beartai : มาสัมภาษณ์ดีดีกันดีกว่า ดีดีพอได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกรู้สึกยังไงก่อน เอารู้สึกจริง ๆ แบบมิวไม่อยู่ 

ดีดี : เอาจริง ๆ ชอบนะพี่ คือชอบฟังเพลงแนวนี้อยู่แล้ว แต่ปกติไม่เคยแต่งเพลงแนวนี้ ก็ชอบก็เลยขอร้องด้วย ขอเขาก็ให้ก็แต่งตรงนั้นเลยครับ

beartai : จริง ๆ ดีดีก็คือเป็นศิลปินใช่ไหม 

ดีดี : ใช่ครับ ปกติเป็นศิลปินฮิปฮอป 

beartai : แล้วมีผลงานมามากน้อยแค่ไหนแล้ว แนะนำตัวหน่อย

ดีดี : หลายเพลงเหมือนกัน เพลงแรกที่ทำชื่อเพลงว่าสยามเมืองยิ้ม คือตอนแรกพี่ชายเขาอยากทำเพลง คือเขาอยากให้ผมร้องด้วย ตอนนั้นแต่งไม่เป็น อะไรไม่เป็นเลย ก็เลยลองแต่มั่ว ๆ ขึ้นมา ก็ทำเพลงแรกขึ้นมาจริง ๆ ก็ไม่ได้ชอบหรอก ก็เริ่มเข้าวงการฮิปฮอปมาเรื่อย ๆ ก็แต่งเพลงขึ้นมาเรื่อย ๆ ก็ปล่อยไปเรื่อย ๆ พอได้ไปเรียนที่อเมริกาก็ห่างมาซักประมาณปีนึง ก็เพลงเก่า ๆ มาปล่อย ไม่ได้แต่งไปปีนึงพอกลับมาเราก็เจอกับทางพี่มิว แล้วก็ได้มาเริ่มเข้ามาเพลงป๊อป เพลง R&B มากกว่า

beartai : พอเราฟัง ท่อนที่เราแต่งเข้าไป ไหนลองร้องให้พี่ฟังหน่อย มันมีคำยังไง

ดีดี : “ถ้าเธอไม่รักมาทำไมอีก ถ้าไม่คิดถึงทักทำไมอีก เธอไม่เข้าใจว่าฉันหน่ะรักไปแล้ว” แต่งอันนี้ไม่มีเรื่องผมเลย แต่งตามคอนเซ็ปต์ที่เขาให้มาครับ

beartai : จริง ๆ เราตั้งใจจะให้เป็นยังไงมิว ตั้งใจให้เป็นประชดประชัน ตั้งใจให้เป็นน้อยใจ หรือตั้งใจให้มันเป็นยังไง Close Friend

มิวสิค : พอมันได้รับรู้ว่าเป็น Content นี้ก็แต่งเลยแค่นั้นเองค่ะ สำหรับดีดี ก็คือเขาก็จะไปแปลความหมายของเขาเอง 

beartai : ไปตีความหมาย 

มิวสิค : ใช่ไปตีความของเขาเอง ไม่ได้คลุมไว้ว่ามันจะต้องอยู่แค่ตรงนี้ค่ะ

beartai : ก็คือไม่ได้วางกรอบให้มันมีแค่ Close Friend นี่แหละ แต่ว่าเนื้อหามันจะไปยังไงปล่อยให้เมโลดี้มันพาไปถูกไหม พี่เข้าใจถูกไหม

มิวสิค : ใช่ค่ะ

beartai : ดีดีพอฟังทีแรกเข้าใจความหมายของเพลงนี้ว่ายังไง

ดีดี : ตอนแรกได้ฟังท่อนฮุก จริง ๆ ก็จับได้ใจความเดียวคือเป็นได้แค่เพื่อนสนิทที่เป็นอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ

beartai : เจ็บ

มิวสิค : ใช่ค่ะ แล้วก็เหมือนเอาตรง IG มาเล่น Close Friend ใน IG เอามาเล่นแค่นั้น 

beartai : ตรงสีเขียว ๆ 

มิวสิค : ใช่ค่ะ ๆ ความหมายโดยรวมมันก็คือ Friend Zone แค่นั้น

ดีดี : ประมาณนั้นครับ

beartai : แล้วมันตรงไหม สิ่งที่ดีดีตีความ กับสิ่งที่มิวเขียนไปแล้ว หรือว่ามาทำใหม่พร้อมกัน

มิวสิค : ตรงค่ะ มันแค่สโคปใหญ่ ๆ ว่า Friend Zone นะ แล้วเขาก็ไปแต่ง เพราะฉะนั้นยังไงก็ตรงแน่นอน เพราะช่วงนั้นเขาก็ Friend Zone อยู่ด้วย555 ช่วงนั้นมีความ sad อยู่ด้วย sad Boy ก็เลยแต่งตรงเลย

beartai : แล้วตอนนี้ข้ามเขต Friend Zone หรือยัง 

ดีดี : ไม่ครับ ยอมแพ้แล้ว 555

beartai : แล้วท่อนแรกของเพลงที่แต่งขึ้นมาจำได้ไหม

ล่ำ : คิดว่าเราเป็นได้แค่นี้ เป็นได้แค่ close friend ที่อยู่ใน IG 

beartai : เป็นได้แค่นี้ เป็นได้แค่ close friend ที่อยู่ใน IG

ล่ำ : ดีดีเขาชอบผู้หญิงคนหนึ่งแล้วตอนนั้นเมาอยู่แล้วพูดหมดเปลือกเลยครับพี่ 

beartai : แล้วมันได้คำร้องมาด้วยไหม

ล่ำ : มาครบเลยครับ ดีดีใช้เวลาแต่งวันเดียว

beartai : ที่เราได้ยินกันทุกวันนี้คือดีดีแต่งวันเดียว

ล่ำ : ก็คือโดนผู้หญิงดองแชทไม่ตอบครับ

beartai : แล้วเหตุการณ์จริงคืออะไรดีดี ไหน ๆ ล่ำก็แฉแล้วเอาความจริงมาพูด

ดีดี : เอาจริง ๆ เรื่อง close friend มันตั้งแต่ที่อเมริกาแล้วพี่มันเฮิร์ทอยู่นิดหนึ่งก็เลยเอาเรื่องตรงนั้นมาแต่งครับ แต่พออยู่ไทยเรื่อย ๆ มันก็เจอเรื่อย ๆ มันก็มีเพลงใหม่มาเรื่อย ๆ ครับพี่

beartai : แล้วเหตุการณ์ในเพลงนี้คุณได้พยายามข้ามเส้นนั้นแค่ไหน ทำไมมันถึงยังเฮิร์ทอยู่เพราะอะไร มันต้องมีเหตุการณ์ เช่น ที่เล่าให้ฟังเมื่อกี้ว่าถูกดองแชตหรืออะไรสักอย่างหรือว่าทักไปเขาไม่ตอบหรือว่าจริง ๆ เข้าเขต  friend zone ที่มันเป็น close friend ก็ถือว่าเยอะกว่าเพื่อนแล้วนะแต่ก็ไปต่อไม่ได้ พี่อยากรู้ว่าเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เฮิร์ทแล้วเมาพูดกับล่ำแล้วจนได้เพลงขึ้นมา

ดีดี : เป็นเพื่อนสนิทที่อเมริกาครับ คราวนี้ผมก็เคยบอกเขาแล้วว่าเราชอบเขานะ แล้วเขาก็บอกว่าจริง ๆ ก็คิดเหมือนกันแต่คือด้วยความที่ว่าสถานการณ์ถ้าเขาจบคือตอนนั้นเขาอยู่ ม. 6 เขาจบเขาก็จะไปที่อื่นผมจบผมก็กลับมาไทย ก็เลยตกลงกันว่าเก็บเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิมดีกว่าไม่ต้องไปเป็นแฟนกันแล้วมาเลิกกันอีกที

beartai : มีอะไรอยากจะเล่าอีกไหมว่าเพลงนี้ถึงเพลงนี้

รัชชานนท์ ชะนะเกิด – ล่ำ

ล่ำ : close friend ที่จริงมันถูกดองมาปีกว่า ๆ เพลงนี้มันทำมานานมาก ๆ แล้วเราก็พอมันถึงเวลาหนึ่งที่แบบนี้มันต้องเสร็จสักทีหนึ่ง มันก็เลยมารวมกองกัน ใช้คำว่ารวมกองกันได้เลยเพราะว่าตอนแรกผมก็ทำโครงมาคนเดียวทำไปเรื่อย ๆ ก่อนจะปล่อยท่อนไม่ครบอย่างนี้ ก็เลยมองดีดีมาแล้วก็ให้มันแต่งให้หน่อยแล้วมันก็ดันแต่งมาได้ดีแล้วก็มิกซ์มาสเตอร์มาแล้วลงเลยพี่ รูปภาพ MV ก็ไม่ได้ทำ รูปภาพปกก็คือตัดกันแบบโง่ ๆ เลยไดคัทยังไม่เนียนเลยครับ 555

มิวสิค : ตอนนี้ยอดวิว ประมาณ 60,000 แล้วค่ะ

beartai : แล้วมิว กับล่ำจะวางแผนยังไงต่อไปในอนาคตกับศิลปินที่ชื่อมิวจิดา

มิวสิค : คือที่จริงตอนนี้หนูมีโปรเจกต์ทำกับดีดีหลายเพลงมากประมาณ 6 – 10 เพลง ทำคู่กันกับดีดีเป็นอัลบั้มค่ะ

มิวสิค : เมื่อกี้โยงเรื่อง Kobmicro กับ Richerไปแล้ว ตอนนี้อย่างดีดีก็มีแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ชื่อว่า MFUF ค่ะ

beartai : ของผู้ชายหรือของผู้หญิง

ดีดี : จริง ๆ เป็น unisex แต่จะเน้นทางผู้ชายมากกว่า

beartai : ยังไง คนแก่อย่างพี่ใส่ได้ไหม

ดีดี : ได้ครับ ของผมเป็นแนวแบบ Street Luxury

ดีดี : คอลเลกชันแรกทำกับแบรนด์ชื่อว่า Hasguard

ล่ำ : Hasguardเป็นคนจัดการให้

beartai : แบรนด์เสื้อผ้าวางแผนไว้ยังไงบ้าง จะให้มันยังไงหรือว่าแค่คืนทุนแล้วก็เลิกไปหรือจะคอลแลบส์ กับคนอื่นไปเรื่อย ๆ 

ดีดี : จริง ๆ ผมทำแบรนด์ยาวเลยช่วงแรก ๆ คือจะทำคอลแลบส์กับแบรนด์ที่มีชื่อยู่แล้วกับคนที่มีชื่ออยู่แล้วให้มัน pop up ให้คนเห็นหน่อย เสร็จปุ๊บก็จะทำเป็นตัวของตัวเองแล้วก็จะเป็นพวกแนวสตรีท ลักซ์ชัวรีเป็นเหมือนออกบาเล็นซิเอก้าแต่สตรีทมากกว่านั้นนิดหนึ่ง

beartai : แพงไหมตัวหนึ่ง

ดีดี : แบรนด์ผมจะมี 2 แผนก เป็น MFUF ธรรมดากับ MFUF คลาสสิค ตัวคลาสสิกจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,300 ถึง 4,000 บาท MFPF ธรรมดา ก็คือช่วงสูงจะเป็น 4,000  ถึง 10,000 บาท ครับ

beartai : เรื่องธุระกิจ

ล่ำ : กีต้าร์ไปแล้ว KMC ไปแล้ว MFUF ไปแล้ว เดี๋ยวมีบาร์กับร้านอาหารครับ

beartai : ที่ไหน

ล่ำ : แถวบ้าน ที่ทองหล่อครับเป็นร้านอาหารตอนกลางคืนก็เปิดเป็นบาร์แล้วก็สลับแบบนี้พี่ทั้งคืนทั้งวันเลยครับ ชื่อร้านว่า Vassal กำลังอยู่ระหว่างเตรียมตัว น่าจะประมาณปลาย ๆ ปีเลย

มิวสิค : มีประมาณนี้ค่ะ ก็เหมือนเราก็จะมี 2 มุม ก็คือมุมที่เราเป็นศิลปินทำเพลง producer แล้วก็อีกมุมหนึ่งก็คือเป็นมุมที่แบบวัยรุ่นธุรกิจ ก็จะมี 2 มุม สำหรับ 3 คนนี้ค่ะ

Kobmicro music center – ร้านเครื่องดนตรี

IG : KobmicroMusiccenter
FB : KobmicroMusiccenter

Richer Guitars – กีตาร์

Website : Richerguitars.com
Ig : Richer_guitars
FB : Richer guitars
Twitter : Richer Guitars

[MFUF] – เสื้อผ้า

Website : mfufworldwide.com
Ig : mfuf_worldwide
FB : MFUF Worldwide
Twitter : mfuf_worldwide

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

เนื้อหาล่าสุด

TikTok กำลังจะสั่งอาหารได้? เมื่อ ByteDance เดินหน้าขยายธุรกิจ Food Delivery ในจีน

ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ประกาศขยายธุรกิจ Food Delivery ในประเทศจีน หวังชิงส่วนแบ่งการตลาดกับ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง Meituan และ Alibaba

เสี่ยงไม่ได้จัด! สิงคโปร์และบรูไนถอนตัวจากการแข่ง VALORANT ในซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา

กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือซีเกมส์ (SEA Games) ที่จัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี เป็นเวทีสำหรับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการแสดงความสามารถด้านกีฬาของตน ซีเกมส์ครั้งที่ 32 ...อ่านต่อ

Leonardo DiCaprio ถูกลือว่ากำลังออกเดต กับนางแบบอายุ 19

อีกแล้วเหรอพรี่? ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ (Leonardo DiCaprio) นักแสดงหนุ่มเจ้าของรางวัลออสการ์ ถูกลืออีกครั้งว่ากำลังออกเดตกับนางแบบอายุ 19 ปี นามว่า เอเดน โพลานี (Eden Polani) ...อ่านต่อ

ทำไปเพื่ออะไร? นักซิ่งญี่ปุ่นรวมตัวแข่งรถบนทางด่วน ใช้แท่นชะลอความเร็วช่วยเหินฟ้า

แฮชแท็ก #TatsumiJumping กำลังเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดียของญี่ปุ่น จากการที่ผู้ใช้รถพยายามทำให้รถของตัวเอง ‘เหินฟ้า’ ด้วยการใช้แท่นชะลอความเร็วบนทางด่วน

รู้จัก Bella Ramsy ความหวังของมนุษยชาติ จาก ‘The Last of Us’

หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตา เบลล่า แรมซีย์ จาก ‘Game of Thrones’ ที่รับบทหญิงสาวผู้สูงศักศักดิ์ ลีอานา มอร์มอนต์ กันมาบ้างแล้ว แต่ใครที่มาโดนเธอตกจากซีรีส์เรื่อง ‘The Last of Us’ ...อ่านต่อ

“กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่” เหตุใดต้องตบท้ายของหวานหลังอาหาร

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินสำนวนสุภาษิต ‘กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่’ หมายถึงการดูถูกผู้ที่มีฐานะทางสังคมต่ำกว่า ...อ่านต่อ