เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกประกาศผ่านเว็บไซต์ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Tesla Vision (ระบบ Autopilot ที่เน้นใช้กล้อง) ได้ถอดเซนเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว ที่มักติดตั้งไว้ตรงกันชนหน้าและหลังของรถ ออกจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model 3 และ Model Y ทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และจะตามมาด้วย Model S และ Model X ในปี 2023 หลังจากที่บริษัทได้ประกาศถอดเรดาร์ออกจากรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นตั้งแต่พฤษภาคม 2021
เซนเซอร์อัลตราโซนิกมีประโยชน์สำหรับวัดระยะทางในระยะใกล้ด้วยคลื่นอัลตราโซนิกที่สนับสนุนการทำงานของระบบป้องกันการชนในขณะที่ใช้ความเร็วต่ำ เช่น การจอดรถ
ทั้งนี้ในช่วงแรกรถยนต์ที่ไม่ได้ติดตั้งเซนเซอร์อัลตราโซนิกจะถูกส่งมอบโดยการปิดหรือจำกัดการใช้งานในบางฟีเจอร์เอาไว้ชั่วคราวแล้วจะเปิดให้อัปเดตซอฟต์แวร์เมื่อประสิทธิภาพพร้อมใช้งาน ได้แก่ Park Assist การช่วยเหลือขณะจอดเมื่อเข้าใกล้วัตถุรอบข้างด้วยความเร็วน้อยกว่า 5 ไมล์ (8 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง, Autopark การเคลื่อนที่ในที่จอดรถแบบขนานหรือตั้งฉากอัตโนมัติ, Summon สั่งงานผ่านแอปบนสมาร์ตโฟนให้รถมารับหรือไปจอดโดยหลบหลีกสิ่งกีดขวางอัตโนมัติในระยะทางสูงสุด 200 ฟุต
นอกจากนี้เทสลายังได้เปิดตัว “Vision-based occupancy network” ที่ใช้ใน FSD รุ่นเบต้า เพื่อแทนที่การรับข้อมูลอินพุตที่สร้างโดยเซนเซอร์อัลตราโซนิก ซึ่งเป็นเครือข่ายที่จัดเก็บตำแหน่งพื้นที่อย่างละเอียด การมองเห็นในระยะที่ไกลขึ้น และการแยกแยะวัตถุด้วยข้อมูลที่มาจากกล้อง ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : techcrunch และ tesla
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส
เนื้อหาล่าสุด
10 เหตุผลสุดประหลาดที่ทำให้นักดนตรีต้องยกเลิกงานคอนเสิร์ต
ชิป Snapdragon 8 Gen 2 ที่ Samsung นำใช้ จะโอเวอร์คล็อก CPU และ GPU ให้แรงขึ้น
Elizabeth Holmes ผู้ก่อตั้ง Theranos ถูกตัดสินจำคุกกว่า 11 ปี ในคดีฉ้อโกง
อลิซาเบธ โฮล์มส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Theranos ได้ถูกตัดสินจำคุกกว่า 11 ปี ฐานฉ้อโกงนักลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัพของเธอ
รวมฟีเจอร์ที่คาดว่าจะมีเฉพาะ iPhone 15 Pro แต่รุ่นปกติไม่มี
Overwatch 2 ไม่มีใครเล่น Support เลย Blizzard กำลังหาทางแก้ไขในเรื่องนี้
UN ประกาศ จำนวนประชากรโลกก้าวผ่านหลัก 8,000 ล้านคนแล้ว อัตราการเกิดใหม่สูงในกลุ่มประเทศยากจน
Xbox เผย การเข้าซื้อ Activision Blizzard สนใจลุยตลาดเกมมือถือมากกว่า Call of Duty ด้วยซ้ำ
Xbox เผย การเข้าซื้อ Activision Blizzard สนใจลุยตลาดเกมมือถือมากกว่า Call of Duty ด้วยซ้ำ