สเตราส์ เซลนิค (Strauss Zelnick) CEO ของ Take-Two Interactive ค่ายดังที่มีเกมในสังกัดมากมาย และในปี 2025 จะมีการเปิดตัวเกมดังอย่าง ‘GTA6’ ออกวางขาย ทำให้เป็นหนึ่งในค่ายเกมที่ถูกจับตามมองในช่วงนี้ และล่าสุดเขาได้ออกมาพูดถึงอุตสาหกรรมเกม มีการกล่าวถึงบริการ Game Pass และความล่าช้าของการสร้างเกมของค่าย

โดยเซลนิคได้กล่าวกับ GamesIndustry ซึ่งพูดถึง Game Pass อีกครั้ง หลังจากถูกถามว่าเกมดังอย่าง ‘Call of Duty: Black Ops 6’ ที่จะเปิดตัววันแรกพร้อมกับการให้เล่นบนบริการ Game Pass ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ โดยเขาได้คาดหวังว่ามันมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนรูปแบบการขายเข้าสู่ระบบการสมัครสมาชิกได้อย่างน้อยก็ในระยะสั้น ๆ

อย่างไรก็ตามเซลนิคได้กล่าวว่าค่าย Take-Two จะไม่มีการปล่อยเกมเรือธงพรีเมียมของค่าย ในบริการสมัครสมาชิก เช่น Game Pass ในวันแรกที่วางจำหน่ายเกมอย่างแน่นอน เพราะเขาคิดว่ามัน “ไม่สมเหตุสมผล”

นอกจากนี้เซลนิคยังกล่าวถึงการปลดพนักงานของค่าย และได้บอกสาเหตุว่าต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานทางธุรกิจ ส่วนค่ายที่โดนปลดมากที่สุดคือค่ายเกมอินดี้อย่างสตูดิโอ Private Division ส่วนอีกประเด็นที่น่าสนใจคือการกลา่วถึงการเปลี่ยนยุคของเครื่องเกมคอนโซล โดยเซลนิคบอกว่าแฟนเกมส่วนใหญ่ยังมีเครื่องเกมรุ่นเก่า เช่น PS4 ทำให้ในตอนนี้ถือเป็นการเปลี่ยนยุคที่เชื่องช้ากว่าสมัยก่อน อย่างไรก็ตามเขายังคงคิดว่าการที่แฟนเกมต้องซื้อเครื่องเกมใหม่นั้นเป็นสาเหตุที่ ‘GTA6’ ออกบน PS5 และ Xbox Series X และ Series S

นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงความพยายามของ Take-Two ที่จะก้าวขึ้นเป็นธุรกิจบันเทิงที่ “มีประสิทธิภาพสูงสุด” แต่ก็มีบางเกมใช้เวลาสร้างนานมาก เช่น GTA6 ที่ทิ้งระยะเวลาห่างจากภาค 5 ยาวนานถึง 12 ปีกันเลย โดยระหว่างนั้น Rockstar มีเพียงเกม ‘Red Dead Redemption 2’ เท่านั้น นอกจากนี้เกม Judas ที่สร้างโดย Ghost Story Games และได้เปิดตัวเมื่อ 10 ปีแล้วก็ยังไม่วางขายเสียที

โดยเซลนิคได้กล่าวว่าสำหรับค่าย Take-Two เกมอย่าง Judas และ GTA 6 ไม่ได้สะท้อนถึงธุรกิจทั้งหมดของบริษัท เพราะทางค่ายยังมีเกมที่มียอดขายสูงและใช้เวลาพัฒนาไม่นานและออกวางขายทุกปีอย่างเช่น ‘NBA 2K’ และ ‘WWE 2K’ นอกจากจะมีกำหนดการวางขายที่แน่นอนแต่คุณภาพของเกมก็ยังพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

เนื้อหาล่าสุด

หลุดผลทดสอบ AnTuTu ของ REDMAGIC Gaming Pad แท็บเล็ตสำหรับเกมเมอร์ !

ล่าสุดมีผลทดสอบบน AnTuTu ของอุปกรณ์เลขโมเดล NP037 หลุดออกมา โดยคาดว่า อุปกรณ์รุ่นนี้ก็คือ REDMAGIC Gaming Pad ที่คาดว่าจะมาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 3 นั่นเอง

เปิดตัว Infinix Zero 40 ใช้ชิป MediaTek จอ 120Hz กล้อง 108 ล้านพิกเซล เริ่มต้นแค่ 9,500 บาท

Infinix เปิดตัวสมาร์ตโฟนใหม่ Zero 40 ซีรีส์ออกมา 2 รุ่น ได้แก่ Infinix Zero 40 4G และ Infinix Zero 40 5G ทั้งคู่มีสเปกหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกัน หลัก ๆ ...อ่านต่อ

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ โชว์ผลงานครึ่งปีแรกโต 9% เสริมแกร่งครึ่งปีหลังต่อด้วย 5 กลยุทธ์

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลชั้นนำ เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 67 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเสริมแกร่งครึ่งปีหลังด้วย 5 กลยุทธ์

Status Post
LIFE Money

ศึกฟาสต์ฟูดไทย KFC vs McDonald’s เจ้าไหนครองใจคุณ

เทียบกันหมัดต่อหมัด KFC และ McDonald’s สองยักษ์ใหญ่ในวงการฟาสต์ฟูดของไทยที่อยู่มานานกว่า 40 ปี แข่งกันด้านความหลากหลายของเมนู มีเมนูเด็ดที่หนีไม่พ้นเบอร์เกอร์สุดอร่อย ไก่กรอบนอกนุ่มใน เฟรนช์ฟรายส์ และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีส่วนลดโปรโมชันออกมาเอาใจลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ

โดยผู้จัดจำหน่ายของทั้งสองแบรนด์นั้นค่อนข้างต่างกัน ฝั่งทาง KFC ในประเทศไทย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ KFC ได้ให้สิทธิ์ 3 แฟรนไชส์ คือบริษัทเดอะ คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย (QSA) ในเครือไทยเบฟ, บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) และบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (RD) ซึ่งตอนนี้บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ก็ได้เปิดทางให้บริษัท Devyani International DMCC ที่ทำธุรกิจฟาสต์ฟูดจากอินเดียเข้ามาลงทุนแทน เนื่องจากขาดทุนหนักทุกปี ดังนั้น การสรุปรายได้ของ KFC จึงเป็นการรวมประมาณการรายได้จากทั้งสามบริษัท ส่วน McDonald’s ประเทศไทยมีบริษัท แมคไทย จำกัด ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว

โพสต์นี้ BT จึงชวนมาดูกันว่าทั้งสองแบรนด์นี้มีอะไรแตกต่างและเหมือนกันบ้าง แล้วสำหรับคุณเวลานึกถึงร้านฟาสต์ฟูด จะคิดถึงร้านไหนระหว่าง KFC หรือ McDonald’s

#BTbeartai #KFC #McDonalds #ฟาสต์ฟูด #ไก่ทอด #เฟรนช์ฟรายส์

เปิดตัว TAMRON 50-400mm F4.5-6.3 Di III VC VXD เลนส์ซูม 8x สุดอเนกประสงค์ เมาท์ Nikon Z

เรียกว่าหลุดมาปั๊บก็เปิดตัวปุ๊บ กับ ‘TAMRON 50-400mm F4.5-6.3 Di III VC VXD’ เลนส์ซูมฟูลเฟรมช่วงเทเลโฟโตสุดอเนกประสงค์ ซูมไกลถึง 8x ...อ่านต่อ

เปิดตัว realme 13 5G ซีรีส์ ใช้ชิป MediaTek จอ 120Hz เริ่มต้นแค่ 7,300 บาท

เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยกับ realme 13 รุ่นใหม่ ได้แก่ realme 13 5G และ realme 13+ 5G เพิ่มจากเดิมมี Realme 13 Pro, 13 Pro+ และ realme 13 4G