รีวิวเกม Toodee and Topdee แอ็กชันสลับมิติโลกคู่ขนาน
Our score
7.0

Toodee and Topdee

จุดเด่น

  1. รูปการเล่นผสมผสานได้สนุก
  2. มีความยากท้าทาย

จุดสังเกต

  1. เกมสั้นไปหน่อย
  2. กราฟิกธรรมดาไป

เป็นที่รู้กันว่าการเล่นเกมแบบ 2 มิติ จะมีมุมมอง 2 รูปแบบที่คุ้นเคยกันดีคือแบบมุมมองด้านบน และมุมมองด้านข้าง ที่นิยมเอามาสร้างเป็นเกมให้เล่นกันซึ่งก็เป็นแนวทางที่เรียบง่าย และหากมีผู้คิดที่จะเอาทั้ง 2 รูปแบบมารวมกันแล้วสร้างเป็นสิ่งที่แปลกแหวกแนวให้เล่นคงจะดีไม่น้อย

และมันคือ Toodee and Topdee เกมแนวผสมผสานที่นำเอาแอ็กชัน 2 มิติหลายรูปแบบมายำรวมกันในเกมเดียวได้แปลกตา โดยมันเป็นหนึ่งในเกมฟอร์มเล็ก ๆ จาก dietzribi ค่ายอินดี้ที่ไม่ได้โด่งดังอะไรมากมาย และวางขายบนคอนโซลเฉพาะบน Nintendo Switch รวมทั้ง PC ซึ่งสัมผัสแรกเห็นภาพอาจจะไม่น่าสนใจเพราะมันเหมือนกับของที่โหลดฟรีบนสมาร์ตโฟนมากกว่า

โดยเรื่องราวใน Toodee and Topdee จะเกิดขึ้นเพราะ Semicolon ที่คอยควบคุมมิติและจักรวาลได้ถูกขโมยไปทำให้เกิดความโกลาหลและเกิดมิติทับซ้อนพร้อมกับเรื่องวุ่นวาย จนทำให้ตัวเอกทั้ง 2 ต้องออกไปแก้ไขและทำให้มิติที่ทับซ้อนกลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิม ผ่านการท่องไปในดินแดนที่แตกต่างกันเพื่อเปิดประตูมิติและต่อสู้กับบอสที่รออยู่ท้ายฉาก

กราฟิก 2 มิติที่เรียบง่าย

เนื่องจากมันมาจากค่ายเล็ก ๆ และเน้นที่เกมเพลย์มากกว่าภาพสวยงาม ทำให้ภาพใน Toodee and Topdee มาแนวทางที่เรียบง่ายมาในรูปแบบพิกเซลเหมือนเกมสมัย 90S ยุค 16Bit ที่เข้ากับแนวทางการเล่นอย่างดี แต่งานออกแบบดูธรรมดาไม่ได้โดดเด่น เหมือนกับเกมค่ายอินดี้ทั่วไปที่ไม่ได้มีตัวละครที่น่าจดจำอะไร แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายถือว่ายังเล่นได้ลื่นไหลโดยเฉพาะการสลับเปลี่ยนมิติการเล่นที่สลับเปลี่ยนรูปแบบกราฟิกได้ในทันทีไม่ต้องรอ

งานออกแบบฉากที่จะเป็น 2 มิติที่จะมีการใส่ลูกเล่นของกราฟิกเข้าไปเล็กน้อยพอจะให้เห็นความแตกต่างของฉาก ส่วนบอสก็ทำออกมาได้ดีในระดับน่าพอใจเน้นตัวใหญ่ยักษ์แต่ไม่ค่อยมีรายละเอียด อีกจุดที่ดูธรรมดาไปหน่อยคือเพลงประกอบที่ราบเรียบไปหมด เหมือนของแจกฟรีที่ไม่ได้โดดเด่นทั้งที่ความจริงทำให้ดีกว่านี้หน่อยก็ได้ และแน่นอนว่ามันไม่มีเสียงพากย์ด้วยแต่ก็เข้าใจกับฟอร์มของเกมและราคาขายที่ไม่แพงนัก

รูปแบบการเล่นแอ็กชันสลับมิติ

ในเมื่อกราฟิกไม่ใช่จุดขายเกมเพลย์จึงเป็นความโดดเด่น โดยหลัก ๆ แล้วใน Toodee and Topdee จะเป็นแอ็กชัน 2 มิติที่ผสมผสานเกมแนวแก้ปริศนาแบบ พัซเซิล ที่ไม่เน้นการต่อสู้เรามีหน้าที่บังคับตัวละครทั้ง 2 ตัวไปยังจุดวาร์ปเพื่อไปฉากต่อไปก็เท่านั้น ฟังดูแล้วแฟนเกมฮาร์ดคอร์อาจจะมองเมินในทันทีเพราะมันเหมือนกับเกมที่เอาไว้ให้เด็ก 5 ขวบเล่นฆ่าเวลาก่อนนอน ซึ่งความจริงแล้วมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ

เพราะในเกมเราจะสามารถสลับเปลี่ยนมุมมองในการเล่นเพื่อร่วมกันแก้ปริศนาได้ และในเกมเราจะเล่นเป็น 2 ตัวละครแบบสลับเปลี่ยนกันเล่น ผ่านการเปลี่ยนมิติจากมุมมองด้านข้างไปมุมกล้องมองจากด้านบน และทั้งหมดจะเกิดในฉากเดียว โดยผู้เล่นต้องบังคับตัวละครในการเล่นที่แตกต่างกัน เพราะแต่ละมุมกล้องจะใช้แอ็กชันและการเล่นที่ไม่เหมือนกันทำให้เกิดเป็นเกมเพลย์ที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อเพราะฉากไม่ได้มีความกว้างอะไรและมีเพียงแค่ฉากบนแผนที่เดียวเท่านั้น

เกมเพลย์หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ

ในการเล่นแต่ละมุมกล้องจะมีเกมเพลย์ที่แตกต่างกัน โดยในแบบมุมมองด้านข้างตัวละครของเราจะกระโดดไปตามพื้นผิวได้คล้ายกับ Mario ส่วนเมื่ออยู่ในมุมกล้องด้านบนจะเหมือนกับเกม Zelda ภาค 2D ที่แม้จะกระโดดไม่ได้แต่จะมีความสามารถในการหยิบจับสิ่งของมาใช้งาน และทั้ง 2 ตัวละครแม้จะอยู่ต่างมิติกันแต่จะไม่สามารถมาพบเจอกันและสัมผัสกันได้ แต่การกระทำของตัวละครจะส่งผลกับอีกมิติด้วย เช่นการช่วยกันเปิดทางไปต่อทำให้เหมือนกับเกมแก้ปริศนาผมแอ็กชันที่ต้องใช้หัวคิดกันพอสมควรเลย

และผู้สร้างยังออกแบบด่านมาให้รองรับรูปแบบมุมกล้องที่ต้องสลับไปมาของ 2 ตัวละครได้ลงตัว แม้ตัวฉากจะไม่ได้กว้างแต่ก็เต็มไปด้วยลูกเล่นแปลก ๆ และมีความซับซ้อน แน่นอนว่ามีความโหดเพราะตัวละครของเราโดนอัดไม่กี่ครั้งก็ตาย และกับดักที่ใส่เข้ามาก็โหดแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือป้อมปืนยิงกระสุนแบบไม่หยุด และความยากคือตัวละครของเราจะไม่สามารถโจมตีโดยตรงได้ยิ่งทำให้การเล่นต้องทำให้ระมัดระวังมาก เพราะต้องทั้งแก้ปริศนาและต้องหลบการโจมตีศัตรูไปพร้อมกัน

ปริศนาซับซ้อนท้าทาย

นอกจากนี้การแก้ปริศนาก็ซับซ้อนแต่เข้าใจง่ายเช่นเดินเก็บกุญแจเพื่อปลดล็อกอิฐบล็อกที่ขวางทางเรา หรือกดปุ่มเพื่อเปิดเส้นทาง และในมุมมองด้านบนจะหยิบบล็อกเพื่อมาช่วยเล่นได้เช่นการสร้างทางไปต่อ หรือช่วยสร้างพื้นผิวให้กับตัวละครอีกมุมมอง และยังมีไอเดียที่ต้องคิดซับซ้อนและดูแปลก ๆ อย่างการใช้อีกมุมมองในการช่วยล่อศัตรูให้เดินหรือใช้ศัตรูช่วยเปิดทาง หรือเดินหลอกล่อให้ศัตรูช่วยเก็บกุญแจด้วยเรียกว่าซับซ้อนสุด ๆ และบางปริศนาหากพลาดไปแล้วก็ต้องกดยอมแพ้แล้วเริ่มเล่นใหม่หมด ส่วนบอสในเกมก็ต้องใช้วิธีการหลอกล่อให้มันมาโดนกับดักที่เราวางไว้หรือให้โดนพื้นหนามตายเอง เพราะตัวเอกไม่สามารถโจมตีโดยตรงได้

โดยรวมแล้ว Toodee and Topdee ถือว่าทำออกมาได้สนุกกว่าที่คาดไว้พอสมควร เพราะในตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับฟอร์มเกมและภาพที่เหมือนของแจกฟรีมากกว่า แต่พอได้เล่นถือว่ามีดีอยู่พอตัวแม้ว่าตัวเกมจะสั้นไปหน่อยก็ตามแต่ความโหดก็จัดเต็ม หากเราไม่ได้เลือกเล่นแบบง่ายและปรับให้เราเป็นอมตะ (ทำได้ในเมนู) ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเล่นจบ และมาเทียบกับราคาขายที่ไม่แพงถือว่าใครอยากเล่นแอ็กชันผสมพัซเซิลที่แปลกแต่สนุกใช้ได้ก็น่าจะลองกดมาเล่นกันได้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส