[รีวิวเกม] Fobia – St. Dinfna Hotel : ไขปริศนาออกจากโรงแรมหลอน
Our score
8.0

[รีวิวเกม] Fobia – St. Dinfna Hotel : ไขปริศนาออกจากโรงแรมหลอน

Fobia - St. Dinfna Hotel

แนวเกมอินดี้ จากผู้พัฒนา Pulsatrix Studios ผู้จัดจำหน่ายโดย Maximum Games เป็นแนวเกมหลอนประสาท ให้ผู้เล่นได้เอาชีวิตรอดแก้ไขปริศนาปลดล็อกเรื่องราวต่าง ๆ มาพร้อมกราฟิกจาก Unreal 4 ที่ผู้เล่นต้องติดอยู่ในบรรยากาศน่าขนลุกของโรงแรมที่มีแต่ปริศนาให้ไข

จุดเด่น

  1. การไขปริศนาสร้างสรรค์
  2. เนื้อเรื่องน่าสนใจ
  3. ราคาคุ้มค่าเกินราคา

จุดสังเกต

  1. ความสมเหตุสมผลน้อยเกินไป
  • เนื้อเรื่อง

    7.8

  • เกมเพลย์

    8.0

  • กราฟิก

    7.9

  • ความคุ้มค่า

    8.1

Fobia - St. Dinfna Hotel

เกม Fobia – St.Dinfna Hotel เป็นการเขียนรีวิวที่ผู้เขียนคิดว่า “ไม่น่าจะมีเกมอินดี้ไหนราคาคุ้มขนาดนี้” พอได้ลองจับจอยเล่นแล้วหันไปดูราคาต้องเอามือทาบที่อก ไม่อยากเชื่อว่านี่เกมราคาหลัก 379 บาท

สำหรับเกมนี้เป็นแนวเกมเอาชีวิตรอดภายในโรงแรม ไขปริศนาหาทางออก กราฟิกมีความชวนหลอน ๆ ประสาท คล้ายเกม The Evil Within ตัวละครติดอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่งโดยไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ตื่นขึ้นมาพร้อมความมึนงงฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

Fobia - St. Dinfna Hotel
จุดเริ่มต้นของเรื่อง

จุดเริ่มต้นเรื่อง


ตัวเนื้อเรื่องของเกมตั้งแต่ ชื่อเกม ยันหน้าปกเกม บ่งบอกชัดเจนว่า เป็นแนวเกมสยองขวัญ มีความหลอนในตัวแน่นอน แต่สำหรับผู้เขียนมองว่า ความหลอนระดับนี้ อายุ 16 ปีที่มีวิจารณญาณสามารถก็เล่นเกมนี้ได้แล้ว

เนื้อเรื่องย่อของเกมเราเล่นเป็นตัวละครที่มาตามสืบข้อมูล ข้อเท็จจริง ว่าเกิดอะไรกับเมืองนี้ เมื่อเราถึงเมืองและจำเป็นต้องเข้าไปพักตามคำเชิญของผู้หญิงคนหนึ่ง ในคืนนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับเรา เหตุการณ์พิศวงนี้เราจำเป็นต้องผ่านมันไปให้ได้ ทั้งเด็กที่ใส่หน้ากากคือใคร พนักงานที่พูดจาแปลกประหลาด ตั้งแต่เราเข้ามาเหยียบโรงแรม มีแต่เรื่องชวนสงสัย และเมื่อต้องเอาชีวิตรอดจากโรงแรมนี้ ยิ่งทำให้เราเริ่มรู้เรื่องราวลึกลับของคนทั้งเมืองจากโรงแรมนี้

Fobia - St. Dinfna Hotel
น้องผู้ใส่หน้ากาก

เรื่องราวภายในเกมจะเน้นการปลดล็อกระหว่างทาง แก้ไขปริศนาเพื่อเสพเนื้อเรื่อง มีสมุดบันทึกให้เราจดทุกอย่างเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวที่เราพบเจอ ผู้เขียนขอสารภาพว่ามีบางครั้งที่หาทางไปไม่ถูก สามารถเดาจังหวะเกมได้ว่าต้องมาแนวนี้แน่นอน แต่หาทางไปไม่ถูกเหมือนผู้พัฒนาจะรู้ทัน เลยออกแบบฉากให้มึนหัวปวดหัว ระหว่างเล่นเหมือนได้ยินเสียงผู้พัฒนาพูดตลอดทางว่า “เดินวนไปนะผู้เล่น”

เนื้อเรื่องต้องยอมรับว่ายังคงเบสิกไม่ได้หงือหวามาก สามารถคาดเดาแนวทางระหว่างทางต่อได้ แม้ตอนท้ายทางผู้พัฒนาพยายามหักมุมแต่ผู้เขียนกลับไม่เข้าใจตอนจบของเกมเป็นอย่างมาก จะทิ้งท้ายเพื่อจบเกมหรือสานต่อยังเดาไม่ถูกสำหรับฉากจบเกม ต้องจะจบแบบนี้จริง ๆ หรือ


Gameplay


จุดเด่นของเกมโฟเบียต้องยกให้เกมเพลย์เลยค่ะ นอกจากเนื้อเรื่องที่น่าติดตามก็ต้องมาพร้อมการเล่นที่สัมพันธ์กันได้ดี เกมนี้ก็ทำออกมาได้ไหลลื่นส่งผลเสริมให้เนื้อเรื่องน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุดของเกมเพลย์คือ กล้องส่องย้อนเวลาค่ะ

Fobia - St. Dinfna Hotel
มีลิฟต์แต่ใช้ไม่ได้

เนื่องด้วยตัวเกมเป็นแนวเกมอินดี้ที่ราคาเป็นมิตรกับผู้เล่น การจะใส่อะไรที่เยอะเกินไปมากเกินไป คงทำให้เปลืองพื้นที่ ต้องตัดความน่าจะเป็น เหตุและผลจากชีวิตจริง ผู้เล่นคงต้องโละทิ้งออกจากหัวของเราไปก่อน เช่น สิ่งกีดขวางทางเดิน ในความเป็นจริงนั้น เราสามารถเดินข้ามไปได้ง่าย ๆ แต่เกมนี้จะบังคับให้เราต้องเดินอ้อมไปแทน

หรือการเปิดประตูลิฟต์ ปุ่มกดเราสามารถเอาปุ่มไหนมามาแทนปุ่มที่หายไปได้ แต่ในตัวเกมต้องหาปุ่มตัวเลขนี้เท่านั้นถึงจะกดได้ การไขกุญแจห้องนี้เพื่อไปเอากุญแจห้องโน้น เรียกอีกอย่างว่าเป็นห้องซ้อนห้อง แลเป็นมิติใหม่ในการไขกุญแจอย่างมากสำหรับผู้เล่น

กล้องส่องย้อนเวลา

แต่เกมเพลย์ในส่วนที่ผู้เล่นชื่นชอบอย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือ กล้องส่องย้อนเวลาตัวผู้เขียนคิดว่าเป็นสิ่งที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก หากเป็นเกมอื่นจะใช้กล้องที่ยกส่องเพื่อให้ผีกลัว หรือใช้มือถือถ่ายรูปผีเพื่อให้ผีหนีไป แต่เกมนี้มาเหนือ ส่องย้อนเวลากันไปเลยค่ะ

Fobia - St. Dinfna Hotel
กล้องส่องย้อนเวลา ส่องแล้วเจอทางออก

ใช่แล้วค่ะเกมเพลย์ภายในเกมนั้นเล่นกับมิติแห่งเวลา เราจะได้เล่นในฉากปัจจุบันและเมื่อเรายกกล้องส่องตามฉากก็จะเปลี่ยนเป็นฉากย้อนอดีตทันที เกมนี้ทั้งอดีตและปัจจุบันเชื่อมโยงกัน เราต้องแก้ไขปริศนาทั้งฝั่งอดีตและปัจจุบันเลยทีเดียว

นอกจากนั้นผู้เล่นจะได้เล่นตัวละครมากกว่า 1 ตัว คือการเล่นย้อนอดีตไปมาของตัวละครค่ะ เพื่อที่ผู้เล่นอย่างเราจะได้เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นภายในเมืองนี้แล้วโรงแรมนี้มันเกี่ยวอะไรกับเมืองนี้นั่นเองค่ะ

NPC กับความโหดของเกม

Fobia - St. Dinfna Hotel
ไล่ผู้เล่นทั้งเกม

โดยส่วนตัวผู้เขียนชื่นชอบการไขปริศนาของเกม Fobia – St. Dinfna Hotel เนื่องจากรู้สึกว่ามันน่าติดตาม แต่เมื่อเล่นไปส่วนท้ายกลับรู้สึกว่าตัวเกมยัดเยียดความบ้านหมุนมากเกินไป หาทางออกปิดกั้นทางมากเกิน บวกกับช่วงท้ายสัตว์ประหลาดเริ่มออกมาเยอะ มันเลยปวดหัวมาก

ความยากง่ายของเกมเราสามารถปรับได้ตั้งแต่เริ่มเกมหรือระหว่างเกมก็ได้ เราสามารถตั้งให้ช่วยเรื่องของคำใบ้ หรือตั้งให้มีกระสุนให้เก็บได้มากหรือน้อยตามความสะดวกของผู้เล่นได้เลยค่ะ

Fobia - St. Dinfna Hotel
ช่องเก็บของแบ่งเป็นสัดส่วน

ช่องเก็บของและจุดเซฟในเกมค่อนข้างคล้ายเกม Resident Evil อย่างมาก เริ่มเกมตัวเกมจะให้ช่องเก็บของมาน้อย แล้วให้ตัวผู้เล่นออกตามหาช่องเก็บของเอาเอง เรียกว่าผู้พัฒนาคงได้แรงบันดาลใจมาจากเกมนี้เต็ม ๆ

สำหรับ NPC ลักษณะการเคลื่อนไหวค่อนข้างช้า ถึงปานกลาง แอบใส่ฉาก Jump Scare เล็กน้อย เพิ่มความหวิวให้ผู้เล่นรู้สึกกลัวตัวละครตาย เนื่องจากยารักษาแม้เราจะหามาได้แต่ก็ต้องคำนวณเรื่องช่องในกระเป๋าให้ดี

เพราะเกมนี้เป็นเกมไขปริศนาผู้เล่นจำเป็นต้องพกกุญแจ คีย์การ์ด ติดตัวไว้ตลอดเวลา แต่โชคดีที่ช่องเก็บของเกมนี้จัดแยกแบ่งเป็นสัดส่วนดีมาก ของเควส กระดาษข้อมูลปริศนา มีการจัดแยกให้เรียบร้อย ให้ผู้เล่นเก็บเฉพาะของที่จะใช้ระหว่างเล่นจริง ๆ พยายามแบ่งเบาภาระให้ผู้เล่นได้เล่นให้สนุกยิ่งขึ้นดีมากค่ะ

Fobia - St. Dinfna Hotel
ปริศนาเสี่ยงทาย

จุดเซฟไกล

การเซฟของตัวเกมได้ออกแบบมาให้เซฟได้ทั้งแบบเช็คพอยท์อัตโนมัติก่อนเข้าฉากสำคัญ และให้ผู้เล่นเซฟเช็กพอยต์ตามฉากเอาเอง แน่นอนว่าจุดเช็กพอยต์อัตโนมัติเกมนี้ไกลมาก จึงเกิดปัญหาคือ ต้องมานั่งเล่นใหม่ หรือถ้าตายระหว่างทางก็จำทางเดินที่เคยผ่านไม่ได้ ผู้เล่นต้องขยันเซฟเองบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ

Fobia - St. Dinfna Hotel
จุดเซฟตามฉาก

สำหรับของดีตรงจุดเซฟตามฉากระหว่างทางเดินแล้ว ทางผู้พัฒนายังใส่ห้องสำหรับเซฟไว้ให้เราอีกด้วย ภายในห้องจะมีกล่องสำหรับเก็บของให้เรา 1 หีบใหญ่ ไว้สำหรับเก็บของที่เราไม่ใช้แล้ว ทั้งภายในห้องยังมีกระสุน ผ้าพันแผล ตามฉากให้เราเก็บได้ด้วยค่ะ


กราฟิก


กราฟิกเกมนี้ทำออกมาเกินความเป็นเกมขนาดเล็กจริง ๆ ค่ะ ราคาแค่ 379 บาท ทำออกมาได้ดีอลังการกว่าเกมหลักพันเสียอีกค่ะ สิ่งที่ผู้เขียนชอบคือการซ้อนฉากไปมาระหว่างการส่องกล้องของตัวละคร พอมีกราฟิกส่วนนี้เข้ามาจึงทำส่งเสริมทั้งเนื้อเรื่องและตัวเกมเพลย์มีความน่าสนใจดีมาก

ทางผู้พัฒนา Pulsatrix Studios ต้องยกนิ้วให้ในเรื่องความคิดสร้างสรรค์จริง ๆ ค่ะทีมนี้ ทำออกมาได้ขนาดนี้ ตัวเกมเล่นได้ทั้งใน PC และ PlayStation ตัวผู้เขียนเล่นใน PS 5 ตัวเกมใช้ Unreal 4 ในการสร้างผู้เขียนเล่นแล้วยังไม่มีการกระตุกใด ๆ

Fobia - St. Dinfna Hotel
ปลดล็อกห้องออกมาเจอบรรยากาศชวนวิ่งหนี

ฉากภายในเกมสำหรับตัวผู้เขียนเล่นแล้วรู้สึก กดดันได้ในระดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ยิ่งหากคนที่ไม่ชอบความแคบยิ่งกดดันหนัก เพราะฉากที่เราเล่นนั้นต้องอยู่ในห้องแคบ ๆ ต้องเดินตามทางเดินของโรงแรมที่มีทั้งซากตึกผุพัง ไฟไหม้ ความมืด ห้องที่เต็มไปด้วยเศษเนื้อจากการวิวัฒนาการของสัตว์ประหลาด

เรียกว่าผู้พัฒนาพยายามใส่ความหลอน ชวนสะเอียนเข้ามาเต็มที่ โดยยังให้คนที่มีสเปกเครื่องไม่สูงมากเล่นได้อยู่


ความคุ้มค่า


สำหรับผู้เขียนขอยกให้เกมนี้เป็นเกมที่ถูกและคุ้มของจริง เนื้อเรื่องโดนรวมทำออกมาได้น่าติดตามน่าสนใจ ใช้การข้ามเวลาได้น่าสนใจ การดำเนินเรื่องไม่ช้า มีหักมุมตอนจบและให้คนเล่นได้คิดเยอะหลังจบเกมก็ว่าได้ เกมเพลย์การไขปริศนาไม่ยากมากเกินไป

Fobia - St. Dinfna Hotel
NPC ค่อย ๆ เดิน

แม้ปริศนาบางอย่างไม่ค่อยสมเหตุสมผล ช่วงท้ายเกมที่ปริศนาค่อนข้างวนไปวนมา หนีสัตว์ประหลาด วิ่งสู้ฟัดเจอทางตัน เวียนหัว แต่ก็มีความน่าสนใจของการส่องกล้องแก้ไขปริศนาข้ามมิติไปมา ทำให้เกมไม่น่าเบื่อ

สำหรับกราฟิกบรรยากาศแสงภายในเกมนี้ ทำออกมาไม่มีข้อติใด ๆ การออกแบบตัวละคร ที่น่าสนใจที่สุดคือ เด็กใส่หน้ากาก ชวนให้ผู้เล่นอยากรู้เรื่องราวมากขึ้น สัตว์ประหลาด NPC การออกแบบตัวละครไม่กี่คาแรกเตอร์ ฉากแคบ ๆ ชวนหลอน ก็ทำให้ผู้เขียนเล่นสนุก ใจเต้น เวียนหัว เจอทางตันติดอยู่ที่เดิมเป็นชั่วโมงได้ ลุ้นระทึกตลอดเวลาการเล่น

Fobia - St. Dinfna Hotel
เป็นฉากที่ใส่เสียงหลอนไม่จบไม่สิ้น

379 บาทสำหรับผู้เขียนถือว่าเกมนี้ควรซื้อเกมไว้เล่นค่ะ เล่นไม่ไหวก็พัก จำทางไม่ได้ก็พักหายใจ ความรู้สึกเหมือนได้เล่นเกมราคาหลักพันจริง ๆ ค่ะ ต้องลองซื้อมาเล่นค่ะ คุ้ม

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส