รีวิวเกม ElecHead หุ่นพลังไฟฟ้าถล่มจักรวาล
Our score
7.0

Elechead

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์แอ็กชันผสมแก้ปริศนาได้ลงตัว
  2. ราคาเกมถูกมาก

จุดสังเกต

  1. เกมสั้นมาก เล่นไม่ถึงชั่วโมงก็จบแล้ว

การสร้างเกมฟอร์มเล็กจากค่ายอินดี้นั้น จะเน้นที่ไอเดียในการออกแบบด่านมากเป็นพิเศษ เพราะเนื่องจากไม่มีทุนสร้างและทีมงานก็มีไม่มาก ทำให้แนวทางกราฟิกย้อนยุคถือว่าเป็นรูปแบบที่นิยมสร้าง และล่าสุดมีการเปิดตัว ElecHead เกมฟอร์มเล็กที่เคยเปิดตัวในงาน Nintendo Direct แม้กราฟิกจะธรรมดาแต่ด้วยไอเดียที่แปลกแหวกแนวทำให้มันน่าสนใจเป็นพิเศษ

ความโดดเด่นอีกส่วนคือทีมงานสร้างเพราะเกม Elechead สร้างโดยทีมงานหลักเพียงคนเดียวคือ นามะ ทากาฮาชิ (NamaTakahashi) ที่เคยฝากผลงานกับเกม Battlloon ที่วางขายบน eShop ในปี 2019 แม้ว่าอาจจะไม่ใช่จุดเด่นอะไรแต่เชื่อว่าไม่บ่อยที่จะมีเกมที่สร้างโดยคนเดียวในยุคนี้ ส่วนเกม Elechead วางขายบน Nintendo Switch และ PC ขายผ่านสตรีม

เรื่องราวใน Elechead จะไม่ได้มีการเล่าเรื่องแบบละเอียดนัก เราจะได้รับบทเป็นหุ่น Elec ที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำภารกิจซ่อมแซมโรงงานไฟฟ้าเพื่อให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง โดยหุ่นจะมีพลังไฟฟ้าอยู่กับตัวและสามารถเชื่อมต่อพลังไฟได้ ส่วนการเล่าเรื่องจะไม่มีคัทซีนอะไรให้ชมนัก และไม่ได้เล่าแบบละเอียดแต่ก็มีอะไรหักมุมให้ตกใจรวมทั้งยังมีฉากจบหลายแบบด้วย

กราฟิกแบบ 8 Bit แท้ ๆ

อย่างที่รู้กันว่ามันมาแนวย้อนยุคและผู้สร้าง Elechead ได้นำกราฟิกยุค 8Bit แท้ ๆ แบบไม่ได้ปรับให้เข้ากับยุคสมัย และยังมีงานออกแบบคล้ายกับเกมในอดีตอย่าง Rockman อย่างไรก็ตามมันก็ขาดรายละเอียดและมีการใช้สีที่น้อยมาก ฉากหลังก็แทบไม่มีการใส่เข้ามามีเพียงการใช้สีดำถมไปเท่านั้น ทำให้มันคล้ายกับเกมบน Famicom ในยุคแรก ๆ ซึ่งใครเกิดทันคงจะคุ้นเคยกันดี

ส่วนเพลงประกอบก็มีน้อยแทบจะมีอยู่เพลงเดียวและมาแนวทางเดียวกับกราฟิกที่เป็นซาวด์แบบ 8 bit แต่ก็มีอะไรที่ทำให้แฟนเกมคลาสสิกคุ้น ๆ หูเหมือนเกมสมัยก่อน และมีการใส่เสียงประกอบที่ดูเรียบ ๆ ไปหน่อย ก็เข้าใจได้ว่ามันสร้างโดยทีมงานเพียงคนเดียวทำให้พอจะมองข้ามไปได้บ้าง

รูปแบบการเล่นแอ็กชันผสมแก้ปริศนา

เกมเพลย์เน้นเข้าใจง่ายนามสไตล์ค่ายอินดี้ทุนต่ำ ที่ใช้แนวทางแอ็กชัน 2 มิติมุมมองด้านข้างที่เรียบง่าย ผู้เล่นต้องบังคับหุ่น Elec เดินสำรวจฉากที่ไม่เน้นการต่อสู้ เพราะภารกิจหลักเน้นสำรวจเพื่อคืนพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น โดยหุ่นของเราจะมีหัวที่โตเป็นพิเศษจะมีความสามารถพิเศษคือเป็นแหล่งพลังงานที่มันสามารถส่งให้กลไกในฉากเคลื่อนไหวได้เพียงแค่ไปสัมผัสพื้นผิว

แน่นอนว่ามันมาแนวพัซเซิลแก้ปริศนาที่เราต้องเดินสำรวจ และใช้พลังไฟฟ้าของตัวละครหลักเพื่อเปิดทางไปต่อ ที่ต้องชมเพราะผู้สร้างทำออกมาได้ซับซ้อนพอสมควรที่กว่าจะผ่านไปได้ก็ต้องใช้หัวคิดกันพอสมควร และแม้ว่าจะไม่ได้มีศัตรูไล่จัดการเราตรง ๆ แต่ก็มีกับดักมากมายที่ทำให้เราตายได้เช่นกัน เช่นการเปิดพลังไฟฟ้าผ่านหลอดไฟที่หากไม่ระวังเราจะโดนไฟชอร์ตจนระเบิดตายได้ ทำให้การเล่นต้องระมัดระวังกันตลอด

ถอดหัวเพื่อแก้ปริศนา

อีกความสามารถที่โดดเด่นของหุ่น Elec จะสามารถถอดหัวและโยนออกไปได้ และมันทำเพื่อส่งพลังไฟฟ้าระยะไกลเพื่อให้กลไกทำงาน ที่ผู้เล่นสามารถบังคับร่างกายของหุ่นได้เพื่อวิ่งกลับไปเอาหัวมาใส่คืน และต้องรีบด้วยเพราะมีเวลาเพียงแค่ 10 วินาทีก่อนที่ร่างของหุ่น Elec จะระเบิด เพราะขาดพลังงาน

และมันนำมาเป็นรูปแบบการเล่นที่ต้องใช้หัวคิดและต้องแข่งกับเวลาที่มีจำกัดมาก ๆ และต้องชมทีมงานสร้างเพราะมันซับซ้อนกว่าที่คาดมาก ๆ บางปริศนาแทบจะคาดไม่ถึงว่าต้องทำแบบนี้ และภายในเกมจะมีจุด Save เป็นระยะตลอดทำให้แม้จะพลาดตายง่าย ๆ ก็ไม่ต้องกลับไปเริ่มใหม่ไกลนัก นอกจากนี้ยังมาพร้อมจุดวาร์ปที่มีอยู่ตลอด แม้ว่าตัวเกมจะไม่ได้ยาวมากก็ตาม ซึ่งจุดนี้กลายเป็นข้อเสียเพราะคุณสามารถเล่น Elechead ให้จบหมดภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

Elechead อาจจะไม่ได้มีความคุ้มค่าหากมองที่ความยาวของเกม แต่หากเทียบกับราคาขายที่ไม่ได้แพงอะไร ถือว่าจะมีไว้ติดเครื่องก็ไม่เสียดายเงิน เพราะด้วยปริศนาที่ซับซ้อนแต่รูปแบบการเล่นที่เข้าใจง่าย ถือว่าเป็นอีกเกมจากค่ายอินดี้ที่สร้างออกมาได้ดีพอตัว ยิ่งรู้ว่ามันสร้างโดยทีมงานหลักเพียงคนเดียวถือว่าน่าประทับใจ และเป็นแนวทางให้ผู้ที่อยากเป็นนักสร้างเกมได้เรียนรู้การสร้างที่ไม่ต้องใช้ทุนแต่ใช้ไอเดียล้วน ๆ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส