รีวิวเกม River City Girls 2 ตำนานเกมคุนิโอะ ที่กลับมาแบบครบทีม
Our score
7.5

River City Girls 2

จุดเด่น

  1. มีตัวละครให้เลือกหลายตัว
  2. เกมเพลย์สนุกเรียบง่ายแบบคลาสสิก

จุดสังเกต

  1. ไม่มีอะไรแปลกใหม่นักเมื่อเทียบกับภาคแรก

ซีรีส์ คุนิโอะ เป็นเกมเก่าแก่อายุเกิน 30 ปีที่ถูกนำมาสร้างเกมใหม่หรือรีเมกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ามันอาจจะไม่มีกระแสอะไรมากมายนักก็ตาม โดยเฉพาะภาค River City Girls ที่เป็นการนำตัวละครสาวที่เป็นแฟนของ คุนิโอะ และ ริกิ มาเป็นตัวละครหลักที่ต้องออกไปช่วยหนุ่ม ๆ แทน

หากคุณไม่เคยเล่นเกม คุนิโอะ มันคือเกมดังในยุค 80S ที่วางขายครั้งแรกบน Famicom และมาแนวต่อยตีกับศัตรูให้หมดฉากหรือที่เรียกว่าแอ็กชันแบบ Beat ’em up และบางภาคมีการผสมผสานระบบ RPG เข้าไปด้วย ทำให้มันดูสดใหม่กว่าเกมในยุคนั้นมาก ส่วนภาคแยกย่อยก็ยังมีความแปลกใหม่เช่นกัน เพราะมีทั้งการลงสนามแข่งกีฬา หรือเป็นภาคย้อนยุคไปสมัยซามูไรก็มี

ส่วนภาคล่าสุด River City Girls 2 วางขายบน Nintendo Switch, PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X และออกบน PC ด้วยและยังคงได้ทีมงาน WayForward มาสร้างให้เหมือนเดิม และเรื่องราวในภาคนี้จะสานต่อจากภาคแรก แต่คราวนี้เราจะได้เล่นเป็น คุนิโอะ และ ริกิด้วย ส่วนตัวหลักจากภาคที่แล้วอย่าง มิซาโกะ และ เคียวโกะ ก็ยังมีมาให้เลือกเล่น รวมทั้งยังมาพร้อมตัวละครอื่นมาให้ปลดล็อกด้วยแถมยังเล่นพร้อมกันได้ 4 คน ถือว่าช่วยเพิ่มความสนุกและวุ่นวายอย่างมาก (แต่ในโหมดออนไลน์จะเล่นได้ 2 คนพร้อมกัน)

กราฟิก 2 มิติตามแนวทางเกมอินดี้

กราฟิกมาแบบ 2 มิติมุมมองด้านบน แบบเกมแนวต่อยตีทั่วไปเป็นการจำลองภาพแบบพิกเซลในอดีต แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เหมือนต้นฉบับ เพราะมีการเคลื่อนไหวที่ละเอียดและลื่นไหลมากกว่าของเก่าในอดีต ทำให้มันดูไม่เชย รวมทั้งคัตซีนก็ใส่มาแบบจัดเต็มมีทั้งแบบการ์ตูนภาพเคลื่อนไหว รวมทั้งแบบภาพนิ่ง อย่างไรก็ตามงานออกแบบทั้งหมดไม่ค่อยมีความเป็นต้นฉบับที่เป็นผลงานของผู้สร้างชาวญี่ปุ่น เพราะซีรีส์ River City Girls ดูเหมือนเกมที่สร้างจากตะวันตกมากกว่า

ส่วนเพลงประกอบไม่ได้มาแนวย้อนยุค เป็นการใส่ดนตรีของเกมยุคใหม่ที่เป็นเพลงที่มีเนื้อร้องเข้ามาผสมผสาน ที่ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบนักเพราะมันไม่ได้มีอะไรเข้ากับแนวของเกม และไม่มีธีมโดดเด่นติดหูเหมือนในอดีต เหมือนมันเป็นคนละเกมมากกว่า ยังดีที่มีการใส่เสียงพากย์มาเพื่อเล่าเรื่อง แต่โดยรวมแล้วเพลงประกอบกลับกลายเป็นจุดด้อยไป

เกมเพลย์เพิ่มความหลากหลายขึ้น

รูปแบบหลัก ๆ ยังคงเหมือนเป็นที่มาแนวแอ็กชัน Beat ’em up ต่อยตีศัตรูให้หมดฉาก แต่จะปรับเปลี่ยนในหลายส่วน เพราะมีตัวละครให้เลือกเล่นตั้งแต่ต้นเกมมากกว่าเดิม เราจะได้เล่นเป็นตัวหลักตามชื่อภาคอย่างสาวแกร่ง มิซาโกะ และ เคียวโกะ ที่มีความเร็วและท่าไม้ตายสุดแสบ และในภาคนี้ยังได้เล่นเป็นตำนานอย่าง คุนิโอะ และ ริกิ ที่มีท่าไม้ตายรุนแรงและดุดันกว่าเดิมด้วย รวมทั้งตัวละครเสริมที่ต้องปลดล็อกออกมาภายหลังอีก ถือว่ามีความหลากหลายในส่วนของตัวละครพอสมควร

ส่วนการเล่นก็ง่าย ๆ แค่ต่อยตีกับศัตรูให้หมดก็ผ่าน แถมท่าไม้ตายเรียกมาใช้งานได้ง่ายดายเพียงแค่กดไม่กี่ปุ่ม และยังสานต่อเป็นคอมโบได้หลากหลายมาก นอกจากนี้ยังมีท่าพิเศษที่กดออกมาโจมตีเวลาเราเสียเปรียบหรือโดนรุมจะช่วยได้มาก แต่จะเสียค่าพลังท่าพิเศษไปทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง ส่วนระบบเก่าคลาสสิกอย่างการหยิบเอาอาวุธที่ตกอยู่ในฉากมาใช้ก็ยังคงอยู่แถมยังเพิ่มชนิดใหม่เข้าไปเพียงและมีบางอย่างดูหลุดโลกอย่างพัดกระดาษที่ไม่น่าจะมีอะไรน่ากลัวแต่กลับทำให้ศัตรูกระเด็นไปไกลได้

เสริมระบบ RPG อัปเกรดตัวละครให้เกมหลากหลาย

อีกส่วนที่ทำให้มันแตกต่างและทำให้เราเล่นได้ยาว ๆ คือระบบ RPG ที่แม้จะไม่ใช่ของใหม่ของซีรีส์ คุนิโอะ แต่ก็เสริมความโดดเด่น อย่างแรกคือระบบเลเวลที่จะได้จากการต่อสู้กับศัตรูที่นอกจากจะเพิ่มค่าพลังแล้วยังอัปเกรดท่าไม้ตายใหม่มาให้ใช้งานด้วย และยังมาพร้อมการใส่เครื่องประดับเพื่อเพิ่มค่าพลังหรืออัปเกรดท่าไม้ตายใหม่ได้ด้วย
แน่นอนว่ายังมีร้านค้าให้เราซื้อของมาให้ใช้งานที่มีทั้งของกินเพิ่มค่าพลังและไอเทมพิเศษ ส่วนเงินจะได้มาจากการต่อสู้กับศัตรูเหมือนเดิม อีกจุดที่ทำให้โลกในเกมดูกว้างขึ้นคือระบบแผนที่ในฉากที่จะแบ่งออกเป็นบล็อก และต้องไปทำภารกิจตามที่เกมกำหนด ซึ่งเราจะรู้ได้ว่าต้องไปทำอะไรที่จุดไหนผ่านระบบ GPS บน สมาร์ตโฟนของตัวละครในเกมที่เข้าใจง่าย

เกมมีความยาวพอสมควร แม้จะยังมีการแบ่งเป็นด่านแต่ก็กลับไปปลดล็อกฉากใหม่ที่ซ่อนอยู่ได้ และระบบเลเวลที่ช่วยเสริมให้ผู้ที่อยากได้ท่าไม้ตายได้กลับไปเก็บให้ครบ แถมด้วยความยากที่ใส่เข้ามาแบบจัดเต็มหากคุณไม่ได้เลือกแบบง่ายแล้วศัตรูธรรมดาก็อัดเราให้หมอบได้ ทำให้ต้องเรียนรู้ท่าไม้ตายและเก็บเลเวลให้มากพอ ถือว่าเป็นจุดที่ทำให้เกมแอ็กชันที่ดูเหมือนไม่มีอะไรมีความหลากหลายและคุ้มค่ามากขึ้น

การกลับมาอีกครั้งของ River City Girls 2 ถือว่าไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักเมื่อเทียบกับภาคแรก แต่ก็เสริมของใหม่เข้ามาหลายจุด ตัวละครในตำนานอย่าง คุนิโอะ และ ริกิ ก็กลับมาให้เลือกเล่นตั้งแต่ต้นเกมเลย แม้ว่าเทียบกับต้นฉบับบน แฟมิคอม แล้วมันเหมือนเป็นคนละเกมแต่ก็เป็นการปรับให้เข้ากับยุคสมัยและดูไม่เชย ใครชอบแนวต่อยตีแบบคลาสสิกผสมกับกราฟิกย้อนยุคที่ปรับให้ดูดีขึ้นแนะนำว่าไปหามาเล่นได้เลย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส