หากจะพูดถึงเกม Super Mario แล้วถือว่าเป็นลูกรักของ Nintendo ที่มีการออกภาคต่อออกมาจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นภาคต่อหรือภาคเสริม ที่รวมแล้วมากมายแทบจะนับไม่หมด และถือว่าเป็นเกมระดับเรือธงของวงการที่ออกมากี่ภาคก็ขายดีตลอด แต่ใครจะเชื่อว่ามีซีรีส์ลุงหนวดที่ออกมาแค่ 3 ภาคแล้วก็ถูกเก็บเข้ากรุไม่ได้มีการออกภาคใหม่จนถึงทุกวันนี้

และซีรีส์นั้นคือ Super Mario Land ที่วางขายเพียง 3 ภาค และทุกเกมออกบนคอนโซลพกพา Gameboy รุ่นแรกที่จอยังเป็นขาวดำอยู่ แม้ว่ามันจะประสบความสำเร็จมากและยังเป็นจุดกำเนิดสิ่งใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครใหม่หรือการใส่ไอเดียแปลก ๆ เข้าไปจนแม้แต่ภาคใหม่ยังไม่กล้าใส่เข้ามา แต่กลับถูกปู่นินลืมไปจนเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่บางคนไม่เคยเล่นด้วยซ้ำ วันนี้ทาง Beartai ได้รวบรวมเอาตำนานอีกบทของวงการเกมทีมีอะไรดีเกินกว่าที่จะถูกลืมไปได้ ไปดูกันว่ามีเกมภาคไหนบ้าง

Super Mario Land

ภาคแรกที่ถือเป็นเกมเปิดตัวพร้อมกับคอนโซลพกพา Gameboy วางขายในปี 1989 โดยในตอนแรกปู่นินวางแผนจะแถมไปพร้อมกับเครื่องเกมเลย แต่ก็ได้เปลี่ยนใจไปแถม Tetris แทน (ซึ่งคิดถูกมาก) ความแปลกอย่างแรกคือมันเป็นซีรีส์ Mario ภาคแรกที่ไม่ได้สร้างโดย ชิเงรุ มิยาโมโตะ (Shigeru Miyamoto) เพราะว่าในตอนนั้นทีมงานหลักของ Nintendo ไปสร้าง Mario ภาคหลักพร้อมกันถึง 2 เกมคือภาค 3 และภาค World ทำให้ต้องส่ง Super Mario Land ไปให้ทีมงานอื่นสร้าง

ความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

แม้ว่ารูปแบบการเล่นของ Mario Land ภาคแรกจะมีรูปแบบการเล่นเหมือนกับภาคหลักที่เป็นแอ็กชัน 2 มิติที่ต้องกระโดดไปตามพื้นผิว แต่หากลงลึกในรายละเอียดไปมันมีความแตกต่างจากภาคหลักมาก ไล่ตั้งแต่เจ้าหญิงที่โดนลักพาตัวไปคือ “เดซี่” ไม่ใช่เจ้าหญิงพีชเหมือนต้นฉบับ และตัวร้ายเป็นเอเลี่ยนจากนอกโลกไม่ใช่คุปป้า รวมทั้งลุงหนวดของเรายังได้ไปสู่โลกใบใหม่ที่มีฉากหลังแตกต่างจากเดิมด้วย

เพราะว่าฉากใน Mario Land จะมีการใช้สถานที่จริงมาเป็นฉากหลังทั้ง พีระมิดในประเทศอียิปต์ หรือมีด่านที่เหมือนอยู่ในประเทศจีน รวมทั้งยังมีรูปปั้นโมอายจากเกาะอีสเตอร์ อยู่ในเกมด้วย ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีฉากจากโลกมนุษย์จริง ๆ อยู่แต่หลังจากนั้นปู่นินก็เอาไอเดียนี้กลับไปใช้ใน Mario อีกหลายภาค และอีกส่วนที่มีความโดดเด่นคือ ยานพาหนะ ที่จะมีมาให้ใช้งานทั้งเรือดำน้ำ และเครื่องบินที่มาพร้อมกับรูปแบบการเล่นแบบยานยิง 2 มิติ ซึ่งจากเดิมผู้ให้กำหนิดอย่าง มิยาโมโตะเคยอยากให้อยู่ในภาคหลักด้วย

ประสบความสำเร็จแบบถล่มทลาย

แน่นอนว่ามันต้องขายดีอยู่แล้ว เพราะเปิดตัววางขายพร้อมกับคอนโซลพกพาที่ประสบความสำเร็จมหาศาลอย่าง Gameboy ทำให้แฟน ๆ ที่ซื้อเครื่องเกมไปก็ต้องหยิบติดมือไปด้วย ทำให้ Super Mario Land ทำยอดขายไปได้ทั้งหมด 18 ล้านชุด มากกว่า Mario ภาค 3 ด้วยซ้ำแม้ว่าจะมีเสียงบ่นว่าหลายส่วนไม่สมดุล และตัวเกมก็สั้นเกินไปเพราะมีเพียงแค่ 4 World เท่านั้น แต่ก็ถือเป็นจุดกำเนิดภาคสปินออฟของซีรีส์ลุงหนวดครั้งแรก

Super Mario Land 2: 6 Golden Coins

แน่นอนว่าภาคแรกขายดีแบบนี้ทำให้ปู่นินต้องสร้างภาคต่อโดยมาในชื่อยาว ๆ ว่า Super Mario Land 2: 6 Golden Coins วางขายในปี 1992 บน Gameboy และนอกจาก Mario จะกลับมาในโลกใบใหม่ที่แตกต่างแล้ว ยังมาแปลกแตกต่างอีกรอบเพราะลุงหนวดของเราจะไม่ต้องออกไปช่วยเจ้าหญิงอีกแล้ว แต่จะเป็นการทวงปราสาทคืนและท่องไปในดินแดนชื่อ Mario Land ที่มีการใส่ฉากเดินบนแผนที่แบบเดียวกับภาค World มาด้วย และรูปแบบการเล่นเหมือนกับภาคบน Super Famicom อยู่หลายส่วนแต่ยังคงเป็นแอ็กชัน 2 มิติเหมือนเดิม

เปิดตัวร้ายใหม่ในซีรีส์ Mario

หนึ่งในสิ่งแปลกใหม่และจะกลายเป็นการเปิดตัวละครใหม่ในซีรีส์ Mario คือตัวร้ายคนใหม่นาม Wario ที่เป็นครั้งแรกที่มีการใส่เข้ามาโดยทีมงานสร้างอยากให้เป็นด้านไม่ดีของ Mario ซึ่งตัวละครจะถอดแบบมาจากลุงหนวดรวมทั้งสัญลักษณ์บนหมวกที่กลับหัวตัว M เปลี่ยนมาเป็น W แทนซึ่งแทนคำว่า “Warui” ในภาษาญี่ปุ่นแปลกว่า “เลว” โดยมันจะมาเป็นบอสใหญ่ที่เฝ้าปราสาท และจะสามารถใช้พลังเหมือน Mario ได้ด้วย และจากความโด่งดังทำให้ Wario ถูกนำไปใส่ในหลายเกมจนถึงปัจจุบัน

ฉากแปลกใหม่กว่าเดิมมาก

มาครั้งนี้ทีมงานอาจจะไม่ได้ใช้งานออกแบบที่อ้างอิงจากฉากที่มีอยู่จริงแล้ว แต่ก็ยังคงมีความแปลกและมากกว่าเดิมด้วย เพราะโลกในภาคนี้จะใช้ชือว่า Mario Land และยังมีฉากที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นโลกที่ Mario ถูกย่อตัวลงให้เล็กจิ๋ว หรือฉากที่ได้ออกไปนอกโลกพร้อมกับลูกเล่นการไร้แรงโน้มถ่วง รวมทั้งมีด่านที่เราต้องอยู่ในตัวหุ่นยนต์ Mario ที่เต็มไปด้วยกลไกแปลกประหลาด หรือโลกที่เต็มไปด้วยตัวเลโก้ก็มี ถือว่ามีความแปลกและบางลูกเล่นมีเพียงแค่ภาคนี้เท่านั้นด้วย ส่วนยอดขายภาค 2 ของซีรีส์ Land ขายไปได้มากกว่า 11 ล้านชุด

Wario Land: Super Mario Land 3

หลังจากประสบความสำเร็จแทนที่จะเดินตามรอยเดิม ปู่นินเลือกที่จะคิดต่างด้วยการเปลี่ยนตัวร้าย Wario ให้กลายเป็นตัวเอก แต่ยังคงอยู่ในชื่อของซีรีส์เดิมและใช้ชื่อว่า Wario Land: Super Mario Land 3 และวางขายบน Gameboy ในปี 1994 ถือว่าเป็นการแจ้งเกิดในฐานะตัวเอกครั้งแรกของ Wario ที่ไม่เพียงเปลี่ยนตัวละครหลัก ผู้สร้างยังเพิ่มรายละเอียดและเปลี่ยนรูปแบบการเล่นไปมากจนเหมือนเป็นคนละเกมเมื่อเทียบกับภาคก่อนหน้านี้

ออกล่าสมบัติกับ Wario

โดยรูปแบบการเล่นใน Wario Land เปลี่ยนจากแอ็กชันตะลุยด่านเป็นการเน้นสำรวจฉากที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเพื่อรวบรวมสมบัติ ที่แตกต่างโดย Wario ต้องการสร้างปราสาทเป็นของตัวเองและการเก็บสมบัติในเกมจะส่งผลกับฉากจบด้วย เรียกว่าแทบจะเป็นคนละรูปแบบกับซีรีส์ Mario เลย ฉากในเกมก็กว้างและมีอะไรให้ทำมากกว่าเดิมรวมทั้งการโจมตีของ Wario ที่แตกต่างกับ Mario เพราะจะใช้พลังของหมวกที่จะมีทั้งทำให้บินได้ หรือพ่นไฟ รวมทั้งไอเทมอย่างเห็ดตัวโตก็เปลี่ยนเป็นกระเทียมแทนด้วย

และแม้ว่า Wario Land: Super Mario Land 3 จะไม่เหมือนกับซีรีส์ลุงหนวดที่แฟน ๆ คุ้นเคยแต่ก็ถือว่าเป็นอีกภาคที่มีความสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ และได้ถูกสานต่อสร้างตามมาอีกหลายภาค รวมทั้งแจ้งเกิดตัวละครแอนตี้ฮีโรในจักรวาล Mario อย่างเป็นทางการ และทำยอดขายรวมได้มากกว่า 5 ล้านชุด

ตำนานที่ไม่ได้ถูกสานต่อ

แม้ว่าจะขายดีทั้ง 3 ภาค แต่ใครจะเชื่อว่าซีรีส์ Mario Land จะไม่ได้ไปต่อ แม้ว่าจะมีการหยิบยกชื่อ Land มาสร้างเป็นเกม Super Mario 3D Land ออกวางขายบน 3DS แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับเวอร์ชันบน Gameboy เพราะมันก็เหมือนกับภาคหลักที่ต้องออกไปช่วยเจ้าหญิงพิชที่โดนจับตัวไป และเกมเพลย์ก็เหมือนภาคอื่น แต่อย่างน้อยจิตวิญญาณของมันยังคงอยู่ เช่นในภาค Super Mario Odyssey มีการใส่ฉากที่เหมือนเมืองที่มีอยู่จริงเข้าไป รวมทั้งภาคต่อของ Wario Land ที่ยังคงเหมือนต้นฉบับ แต่หากปู่นินจะรีเมกหรือสานต่อ Super Mario Land จริง ๆ ก็เชื่อว่ามีแฟนเกมทั่วโลกพร้อมที่เสียเงินแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส