ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ขึ้นเป็นซีอีโอคนใหม่ของทวิตเตอร์ (Twitter) เราได้เห็นข่าวคราวการเปลี่ยนแปลงของบริษัทฯ อย่างฉับพลันทันทีในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้น โดยเฉพาะพนักงานของทวิตเตอร์เองที่กำลังจะถูกปลดกว่า 3,700 คน หรือแม้แต่ผู้ลงโฆษณาที่เกิดความลังเลเกี่ยวกับนโยบายของตัวแพลตฟอร์มเอง

โดยสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ลงโฆษณารายใหญ่ที่หยุดการซื้อโฆษณาบนทวิตเตอร์ไว้ชั่วคราวแล้ว คือ General Motors (GM), Audi และ Pfizer 

แม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของทวิตเตอร์ แต่ซีอีโอคนใหม่ก็ออกมาทวีตว่า “รายได้ของทวิตเตอร์ลดลงอย่างมาก เนื่องจากผู้ลงโฆษณาถูกนักเคลื่อนไหวกดดัน เราแทบไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลยในการควบคุมเนื้อหา และพยายามเอาใจนักเคลื่อนไหวในทุกทางแล้ว เรื่องนี้มันชักจะยุ่งไปกันใหญ่! พวกเขากำลังบ่อนทำลายเสรีภาพในการพูดในอเมริกา”

สำหรับประเด็นการปลดพนักงานของทวิตเตอร์จำนวน 3,700 คนนั้น มัสก์บอกว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากทุกวันนี้ทวิตเตอร์กำลังขาดทุนมากถึงวันละ 4,000,000 เหรียญ (ราว 148 ล้านบาท) ดังนั้น การลดค่าใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยพนักงานที่ถูกให้ออกจากงานจะได้รับเงินชดเชย 3 เดือน ซึ่งมากกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 50%

สำหรับการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์นั้น หลายคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับการปลดแบนบัญชีทวิตเตอร์ของผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดในด้านความรุนแรง รวมถึงอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งการทวีตยั่วยุของเขานำไปสู่การปลุกระดมให้กลุ่มผู้ประท้วงบุกเข้ารัฐสภาสหรัฐฯ

ที่มา : BBC

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส