สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในภูมิภาคในรอบเกือบ 50 ปี ล่าสุด (9 ก.พ. 66) ยอดผู้เสียชีวิตในตุรกีและซีเรียรวมกันแล้วมากกว่า 15,000 คน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางความโกรธแค้นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและหน่วยกู้ภัยที่ดำเนินการล่าช้า

นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน (Recep Tayyip Erdoğan) ประธานาธิบดีของตุรกี กล่าวขณะลงพื้นที่ประสบภัยว่า ตัวเขาและรัฐบาลรับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และขอให้ประชาชนไว้วางใจว่าขณะนี้การดำเนินงานกู้ภัยเป็นไปอย่างปกติและควบคุมได้ นอกจากนี้ เขายังสัญญาด้วยกว่าจะดูแลให้ผู้ประสบภัยทุกคนไม่เป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย

Turkish President Tayyip Erdogan in the aftermath of a deadly earthquake
นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีของตุรกี
Presidential Press Office/Handout via REUTERS

พื้นที่ประสบภัยซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของตุรกีกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัด ผู้คนจำนวนมากต้องดิ้นรนหาที่หลบภัยความหนาว และเฝ้ารอความช่วยเหลืออย่างอดทน ท่ามกลางซากปรักหักพังที่ยังคงทับร่างผู้เสียชีวิตบางส่วนไว้ใต้นั้น

“รัฐบาลอยู่ที่ไหน? พวกเขาหายไปไหนมา 2 วันแล้ว” คือเสียงสะท้อนของ Sabiha Alinak ผู้ประสบภัยที่กำลังโกรธแค้นและโศกเศร้า เนื่องจากญาติของเธอยังคงติดอยู่ในซากของอาคารที่พังลงมา และยังไม่ทราบชะตากรรม

ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยชาวตุรกีจำนวนมากระบุว่า หน่วยกู้ภัยดำเนินการล่าช้าอย่างมาก ทั้งยังขาดอุปกรณ์ที่จำเป็น และดูไม่มีประสบการณ์ในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่

ด้านพื้นที่ประสบภัยทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวดังกล่าวเช่นกัน ก็มีสภาพไม่ต่างจากตุรกีมากนัก รวมถึงสถานการณ์ของการให้ความช่วยเหลือที่ยากลำบากกว่ามาก เนื่องจากความขัดแย่งระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน ซึ่งเรื่องนี้ เอกอัครราชทูตซีเรียประจำสหประชาชาติออมายอมรับว่า รัฐบาลซีเรียขาดความสามารถและขาดแคลนอุปกรณ์ในการกู้ภัย เนื่องจากตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง และการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก

“เวลา” คือสิ่งที่หน่วยกู้ภัยต้องแข่งขันเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตที่ยังติดอยู่ในซากอาคารให้ได้มากที่สุด แต่ขณะเดียวกัน ผู้ที่รอดชีวิตออกมาแล้ว กลับต้องเผชิญกับภัยความหนาวและอาหารที่ขาดแคลน โดยหนึ่งในเสียงสะท้อนของผู้ประสบภัยชาวตุรกี กล่าวว่า “เรารอดชีวิตจากแผ่นดินไหว แต่เราจะตายที่นี่เพราะความหิวหรือความหนาว”

รายงานข่าวระบุว่า ผู้ประสบภัยชาวตุรกีจำนวนมากต้องนอนในซากรถและข้างถนนท่ามกลางความหนาวเย็น โดยพวกเขาหวาดกลัวที่จะกลับเข้าไปในอาคารอีกครั้ง นอกจากนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนที่ทุกคนกำลังนอนหลับ ผู้ประสบภัยส่วนมากจึงอยู่ในชุดนอนบาง ๆ และไม่มีเครื่องนุ่งห่มกันหนาวติดตัวมาเลย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของตุรกีเปิดเผยว่า  เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้คาดว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนประมาณ 13.5 ล้านคน ในพื้นที่ ประมาณ 450 กม. โดยพบประชาชนเสียชีวิตมากที่สุดบริเวณ 250 กม. นับจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว

ที่มา : Reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส