ธนาคารกรุงไทย เตรียมนำเทคโนโลยีสแกนใบหน้ามาใช้เพื่อยืนยันตัวตน เมื่อลูกค้าทำธุรกรรมโอนเงิน หรือปรับเพิ่มวงเงินผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT และเป๋าตัง พร้อมแนะลูกค้านำบัตรประชาชนขอเพิ่มการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าที่ตู้ ATM สีเทา และสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ (25 เม.ย. 66) เป็นต้นไป

ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าจะทำให้การทำธุรกรรมโอนเงินมีความปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการยืนยันว่าทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันได้เพียงคนเดียวเท่านั้น และเมื่อลูกค้าต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์มือถือ, ลืมรหัสผ่าน หรือเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ในการรับ OTP  สำหรับการทำธุรกรรม ก็สามารถยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าได้ ทำให้สามารถใช้งานแอปได้อย่างต่อเนื่อง และสะดวกมากขึ้น

โดยการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT และเป๋าตัง ที่ต้องใช้การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า มีทั้งหมด 3 ธุรกรรม คือ การโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไปต่อครั้ง, มียอดโอนเงินสะสมทุก 200,000 บาทต่อวันต่อบัญชี และการปรับเพิ่มวงเงินโอนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป

ทั้งนี้ การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าก่อนโอนเงินจะเริ่มในเดือนมิถุนายน 2566 สำหรับลูกค้าของธนาคารกรุงไทยที่ยังไม่เคยมีข้อมูลการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า หรือข้อมูลไม่อัปเดต สามารถเพิ่มข้อมูลได้ด้วยการนำบัตรประชาชนไปขอดำเนินการผ่านธนาคารกรุงไทยทุกสาขา และ ตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ Confirm ID (ตู้สีเทา) โดยการอัปเดตข้อมูลครั้งเดียว สามารถใช้ได้ทั้งแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT และเป๋าตัง

Krungthai NEXT ATM
ตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ Confirm ID (ตู้สีเทา)

นอกจากการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเพื่อเพิ่มความปลอดภัยแล้ว ธนาคารกรุงไทยยังได้มีการพัฒนาระบบแจ้งเตือนผู้ใช้งาน เมื่อตรวจพบการบันทึกภาพ หรือวิดีโอหน้าจอ หรือใช้โปรแกรมควบคุมหน้าจอมือถือของผู้ใช้งาน (Screen Sharing หรือ Screen Recording) เพื่อป้องกันการเข้าถึงแอปจากทางไกล รวมถึงการยกเลิกส่ง SMS และอีเมลแนบลิงก์ อีกด้วย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส