วันที่ 10 สิงหาคม 2565 พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด มหาชน หรือ NT ได้รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่คนแรกของ NT พร้อมประกาศปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจหลายด้าน โดยหนึ่งในแผนสำคัญคือการดำเนิน ‘โครงการร่วมใจจากองค์กร’ ตามข้อตกลงที่บริษัทกำหนดปี 2565 หลังจากที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท ซึ่งถือเป็นการ Early Retire ตามขั้นตอน

โดยในภาพรวมตั้งเป้า Early Retire ให้ได้ 6,000 คนภายใน ปี 2568 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีที่แล้วได้จำนวนประมาณ​ 1,000 คน และปีนี้คาดว่าจะมีพนักงานเข้าร่วมโครงการนี้อีก 1,800 คน ทำให้ยังเหลือที่อีกประมาณ​ 3,000 คน ที่ต้องเข้าสู่โครงการ โดยจะดำเนินการต่อไป เพื่อลดค่าใช้จ่ายบริษัท

ส่วนการปรับกระบวนทัพเพื่อดำเนินธุรกิจ จะเน้นไปที่ โครงการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) ให้มากขึ้น โดยมุ่งขยายการบริการในระดับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์  ซึ่งจะเป็นโครงการสำคัญที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันองค์กรภาครัฐให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบาย Digital Thailand  รวมทั้งเอ็นทียังได้ดำเนินโครงการอื่น ๆ ที่จะรองรับความต้องการภาครัฐด้าน Data Analytic ที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต  ทั้งด้านการท่องเที่ยว การเกษตร การศึกษา สาธารณสุข แรงงาน ฯลฯ 

ขณะเดียวกันยังเน้นดำเนินโครงการ 5G เพราะมีคลื่นความถี่ที่ได้รับจากการประมูลใน 2 ย่านความถี่ ได้แก่ คลื่นความถี่ 26 GHz ซึ่งเป็นคลื่นในย่านความสูง จะมีการลงทุนให้บริการสำหรับผู้ประกอบการขนาดใหญ่เฉพาะกลุ่มเพื่อความคุ้มค่าร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ (EEC) และสนับสนุนการพัฒนาสู่ Smart City  ซึ่งได้เริ่มเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์แล้วบางส่วน ขณะที่คลื่นความถี่ 700 MHz ได้ดำเนินการใน 2 รูปแบบ ได้แก่ การดำเนินการเองสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ใช้บริการพื้นฐานทั่วไป ไม่ต้องการแบนด์วิดท์สูง และการให้พันธมิตรร่วมให้บริการ 5G ในรูปแบบ Network Sharing เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนขององค์กร 

นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดศูนย์บริการลูกค้า NT เป็นการรวมศูนย์การทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น การชำระค่าบริการ การติดต่อสอบถามต่าง ๆ ของทั้งลูกค้าฝั่ง Cat และ TOT ไว้ในจุดเดียวกัน เพื่อไม่ให้ลูกค้าสับสน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นภายในปีนี้ โดยปัจจุบัน จะเป็นเพียงการรับชำระค่าบริการระหว่างกันเท่านั้น แต่อนาคตจะต้องเป็นศูนย์รวม

สำหรับผลประกอบการในปี 2565 ถึงปัจจุบัน เอ็นทีมีรายได้รวม 49,557 ล้านบาท คิดเป็น 47.78% เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่วางไว้  โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์ประจำที่และบรอดแบนด์