มีนักแสดงไม่กี่คนหรอกในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด ที่อายุอานามขึ้นเลข 8 แล้ว แต่ก็ยังคงสถานะดาราแม่เหล็ก ใช้ชื่อเป็นจุดขายทางการตลาดเรียกผู้ชมได้ และหนึ่งในนั้นก็คือ แฮร์ริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) ผู้นี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เขาจะมีอายุครบ 81 ปีบริบูรณ์แล้ว แฮร์ริสัน ฟอร์ด ก้าวเข้าสู่วงการแสดงตั้งแต่ช่วงปลายยุค 60’s และขึ้นแท่นนักแสดงแถวหน้าในปี 1977 เมื่อเขาได้รับบท ฮาน โซโล ใน ‘Star Wars: Episode IV – A New Hope’

นับถึงวันนี้ฟอร์ดก็อยู่ในวงการแสดงมากว่า 5 ทศวรรษแล้ว นับเฉพาะผลงานที่เขารับบทนำ 37 เรื่องก็ทำรายได้รวม ๆ ไปแล้วเกิน 6,xxx ล้านเหรียญ และตัวเขาเองก็เพิ่งออกมาประกาศว่าจะยังคงรับงานแสดงต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าร่างกายจะไม่ไหว ล่าสุดเขาก็เพิ่งเข้าร่วมในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ซึ่งในปี 2024 นี้ เราจะได้เห็นฟอร์ดในหนังมาร์เวลถึง 2 เรื่องกันเลยทีเดียว และในโอกาสก่อนที่จะถึงวันเกิดปีที่ 81 ของเขา แบไต๋ ขอหยิบ 10 เรื่องราวที่น่าสนใจของพระเอกตลอดกาลผู้นี้มาเล่าสู่กันฟัง เชื่อว่าบางเรื่องผู้อ่านน่าจะยังไม่เคยรู้มาก่อนก็เป็นได้


1.เกือบได้รับบทเป็น ดร.อลัน แกรนต์ ใน ‘Jurassic Park’

ในชีวิตนักแสดงคนหนึ่งการได้รับบทระดับไอคอน หรือบทที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกสักบทหนึ่ง ก็นับว่าเป็นความสำเร็จในอาชีพนักแสดงแล้ว และจะเป็นที่ภาคภูมิใจไปตลอดชีวิต แต่กับ แฮร์ริสัน ฟอร์ด เขาคนเดียวนี้ได้รับบทบาทระดับไอคอนไปมากมายหลายบท ทั้ง “ฮาน โซโล”, “อินเดียนา โจนส์”, “ริก เด็คการ์ด” (Blade Runner), “แจ็ก ไรอัน” และล่าสุดได้รับบท นายพลแธดเดียส “ธันเดอร์โบลต์” รอสส์ ใน ‘Captain America: New World Order’ เพิ่มมาอีก แต่นั่นก็ยังไม่หมดนะ เพราะเขาเกือบเป็นเจ้าของบท ดร.อลัน แกรนต์ ใน ‘Jurassic Park’ ที่สุดท้ายตกเป็นของ แซม นีล

ในวันที่ ‘Raiders of the Lost Ark’กลับมาลงโรงฉายเมื่อปี 2011 ในวาระครบรอบ 30 ปีนั้น แฮร์ริสัน ฟอร์ด ในฐานะนักแสดงนำ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมกับ สตีเวน สปิลเบิร์ก (Steven Spielberg) ผู้กำกับ ฟอร์ดได้พูดแซวสปิลเบิร์กว่า
“มันเป็นความปีติอย่างที่สุดที่ได้กลับมาดูหนังอินดี้อีกครั้ง ที่ผมได้เคยร่วมงานกับสตีเวน ผู้ที่จ้างผมเล่นแค่หนัง Indiana Jones”
พอได้ยินดังนี้ สปิลเบิร์กก็เลยขอแก้ต่างทันควัน “ผมต้องขอแย้งคำพูดเมื่อกี้นะครับ คุณรู้ไหมว่าใครเสนอบทหนังใน ‘Jurassic Park’ ให้นายคนนี้ บท อลัน แกรนต์ ผมเสนอให้เขาก่อนเลย”
แต่ก็ไม่ได้มีคำอธิบายต่อไป ว่าทำไมฟอร์ดถึงปฏิเสธบทนี้ แต่ถึงอย่างนั้น แซม นีล ก็คงต้องขอบคุณฟอร์ด ที่เปิดโอกาสให้เขาได้เป็นที่รู้จักในฐานะ ดร.อลัน แกรนต์ ที่อยู่คู่แฟรนไชส์มา 30 ปี


2.มีมดและแมงมุมที่ตั้งชื่อสายพันธุ์ตามชื่อเขา

Calponia harrisonfordi

นักธรรมชาติวิทยาฮาร์วาร์ด อี.โอ. วิลสัน (E.O. Wilson) ตั้งชื่อมดสายพันธุ์หนึ่งว่า “Pheidole harrisonfordi” เป็นสายพันธุ์ย่อยที่พบได้ในอเมริกากลาง พบได้มากในฮอนดูรัส เหตุที่วิลสันเลือกตั้งชื่อมดตามชื่อของ แฮร์ริสัน ฟอร์ด เพราะว่าเขาเคยได้นั่งเคียงคู่กับพระเอกชื่อดังคนนี้ตอนที่เป็นคณะกรรมการร่วมกันใน “Conservation International” องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหากำไรของอเมริกา

Calponia harrisonfordi

นอกจากนั้น ชื่อของฟอร์ดยังถูกนำไปตั้งชื่อแมงมุมสายพันธุ์ “Calponia harrisonfordi” โดยนักโบราณคดี นอร์แมน ไอ.แพลตนิก ตั้งขึ้นเพื่อขอบคุณที่เขาบรรยายสารคดีให้กับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในลอนดอน


3.วีรบุรุษตัวจริง

แฮร์ริสัน ฟอร์ด มีเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์หลายลำเป็นของตัวเอง และเขาก็อาสาขับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์เพื่อร่วมในภารกิจช่วยเหลือผู้คนในยามเดือดร้อนอยู่หลายครั้ง อย่างเช่นในปี 2017 เขาพบรถยนต์พลิกคว่ำอยู่บนทางหลวง ใน ซาตา เพาลา แคลิฟอร์เนีย เขาและพลเมืองดีหลายคนได้ช่วยกันนำตัวคนขับออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัย และอยู่รอจนหน่วยกู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุ

โคดี้ คลอว์สัน

ในปี 2001 โคดี้ คลอว์สัน เด็กชายวัย 13 ปี หลงหายจากกลุ่มลูกเสือที่ไปทัศนศึกษาที่อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน เด็กชายต้องนอนค้างในถ้ำ เขาเล่าว่า “มีฝนและลูกเห็บตกตลอดคืน มันน่ากลัวมากเลยครับ”
พอรุ่งเช้า คลอว์สันก็เลยใช้หัวเข็มขัดที่เป็นโลหะมันวาวสะท้อนแสงแดดเพื่อส่งสัญญาณไปยังเครื่องบินที่ออกค้นหา
“ผมเริ่มมองหาพื้นที่โล่งที่ผมพอจะส่งสัญญาณได้ ผมเลยใช้หัวเข็มขัดสะท้อนแสงแดด เผื่อว่าพวกเขาเห็นมันแล้วจะได้ร่อนลงมารับผม”
และแผนการของเขาก็สำเร็จจริง นักบินที่เห็นสัญญาณแล้วลงมารับเขาก็คือ แฮร์ริสัน ฟอร์ด
“เขาลงจากเครื่องบินมา แล้วก็ทักทายผมว่า ‘อรุณสวัสดิ์’ ผมจำเสียงเขาได้เลยว่า เพราะเสียงเขาเหมือนในหนัง Star Wars เขาถามผมว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้วก็บอกว่า ‘นายจะต้องได้เหรียญรางวัลเพราะเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน’ “

อีกสักเหตุการณ์หนึ่ง ในปี 2000 ซาราห์ เฮิสต์ ป่วยเป็นโรคความสูง (altitude sickness มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ขณะอยู่บนพื้นที่สูง) เธอติดอยู่บนยอดเขา Table Mountain ในไวโอมิง เมแกนเพื่อนที่อยู่กับเธอจึงแจ้งเหตุฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ ไม่นานนักเฮลิคอปเตอร์ก็มาถึง เพื่อรับทั้งคู่ลงไปพื้นที่ด้านล่าง และนักบินก็คือ แฮร์ริสัน ฟอร์ด
เฮิสต์เล่าว่า ตอนแรกเธอจำเขาไม่ได้ “ฉันจำเขาไม่ได้จริง ๆ เพราะเขาใส่หมวกเบสบอลทีมดัลลัสคาวบอย หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ ก็ฉันไม่รูจักนักกีฬาสักคนเลยนี่นา”
“แต่พอขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์แล้ว เฮิสต์ก็อาเจียนออกมา
“ฉันคลื่นไส้มาก แล้วฉันก็อาเจียนบนเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นของฟอร์ดนั่นแหละ แต่โชคดีหน่อยนะที่ฉันอาเจียนใส่หมวก ไม่ต้องกังวลไป ไม่ใช่หมวกดัลลัสคาวบอยของฟอร์ดหรอก หมวกของฉันเอง แต่เขานี่ก็ฮีโรนอกจอตัวจริงเลยนะ”


4.เพิ่งมาเจาะหูตอนอายุ 55 ปี

Claire’s Accessories เป็นร้านขายอัญมณีและเครื่องประดับสัญชาติอเมริกันที่มีถึง 3,469 สาขาทั่วโลก และเป็นร้านที่ให้บริการเจาะหู ที่วัยรุ่นนิยมกัน และคนที่ไม่ใช่วัยรุ่นอย่าง แฮร์ริสัน ฟอร์ด ก็ไปใช้บริการเจาะหูที่ Claire’s Accessories สาขาลอสแองเจลิส

ฟอร์ดย้อนเล่าว่าในปี 1997 นั้น เขาอายุได้ 55 ปี ในวันนั้นเขาทานมื้อกลางวันกับ จิมมี่ บุฟเฟต์ และ เอ็ด แบรดลีย์ และเป็นตอนนั้นล่ะที่เขาเพิ่งตัดสินใจเจาะหู เหตุเพราะว่า
“เรามีโทรศัพท์เหมือนกัน มีนาฬิกาเหมือนกัน แต่ผมไม่มีต่างหูเหมือนพวกเขา”

หลังมื้อกลางวัน ฟอร์ดและ เมลิสซา แมธีสัน ภรรยาของเขาก็เดินกันเข้าร้าน Claire’s Accessories พนักงานชื่อ ทาโวรา เอสคอสเซรี รับหน้าที่เจาะหูให้ฟอร์ด เธอเล่าว่า
“ฟอร์ดไม่สะดุ้งเลย พอทำเสร็จเขาก็บอกว่า ไม่เจ็บเลย”
ฟอร์ดยังให้ลายเซ็นและเขียนถึงเธอว่า “ถึงทาโวราคุณทำให้ตัวผมมีรู แฮร์ริสัน ฟอร์ด”


5.เคยรับแสดงโฆษณา Playstation ด้วยนะ

ในปี 2011 แฮร์ริสัน ฟอร์ด เคยรับแสดงในภาพยนตร์โฆษณาให้กับ Playstation ของโซนี่ในญี่ปุ่น เป็นภาพยนตร์โฆษณาที่สั้นเพียงแค่ 30 วินาที แต่ก็นับว่าเป็นความแปลกใหม่ที่ได้เห็นฟอร์ดมารับเล่นโฆษณาอะไรแบบนี้
ในโฆษณานี้เราจะเห็นภาพฟอร์ดกำลังตั้งใจอยู่กับการบังคับจอยสติ๊ก แล้วต่อมาจึงเห็นว่าฟอร์ดกำลังบังคับตัวละคร นาธาน เดรก ในเกม “Uncharted 3: Drake’s Deception” อยู่
ฟอร์ดได้เผยความรู้สึกจากการที่ได้เล่นวิดีโอเกมว่า “สมจริง” “ยอดเยี่ยม” และ “เหมือนภาพยนตร์มาก”
“ผมคิดว่ามันน่าตื่นเต้นมาก น่าตื่นเต้นมาก และผมไม่เคยเห็นเกมแบบนี้มาก่อน และอีกอย่าง การที่ได้ลองเล่นเป็นครั้งแรก มันท้าทายมากในการพยายามคิดหาทางออกจากสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ ซึ่งดีมาก ผมหมายถึงว่ามันเหมือนการผจญภัย”


6.เคยแอบคบหากับ แครี ฟิชเชอร์

สำหรับแฟน ๆ ของหนัง ‘Star Wars’ ไตรภาค อาจจะรู้สึกว่าเคมีระหว่าง ฮาน โซโล และ เจ้าหญิงเลอานั้นดูช่างเข้ากันได้ดี นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า เบื้องหลังจริง ๆ นั้น ฟอร์ดกับฟิชเชอร์นั้นมีสัมพันธ์กันนอกจอจริง ๆ แต่ก็ต้องแอบคบหากันแบบลับ ๆ เพราะว่าตอนนั้นฟอร์ดแต่งงานอยู่กับ แมรี่ มาร์ควอร์ต ภรรยาคนแรกของเขา

แครี ฟิชเชอร์ เป็นผู้เปิดเผยเรื่องราวนี้เองในหนังสือ “The Princess Diarist” ที่วางแผงเมื่อปี 2016 ซึ่งตัวฟิชเชอร์เองก็เสียชีวิตในปีเดียวกันนั้น เธอย้อนเล่าความสัมพันธ์ของเธอกับฟอร์ดให้กับนิตยสาร People ว่า
“มันเป็นความรู้สึกรุนแรงมาก ในช่วงระหว่างสัปดาห์เราเป็น ฮานกับเลอา กัน แต่พอช่วงสุดสัปดาห์เราก็จะเป็น แครีกับแฮร์ริสัน”
ส่วนในหนังสือนั้น พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า
“ฉันมองไปที่แฮร์รัสัน ใบหน้าของฮีโร มีผมสองสามเส้นตกลงมาบนคิ้วที่ดูสง่างาม และขมวดเล็กน้อย ฉันจะเรียกร้องให้ผู้ชายที่ช่างเป็นแบบอย่างเพียงนี้ให้มาพึงพอใจในตัวฉันได้อย่างไร ?”
“แม้ฉันจะไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้มากนัก แต่ฉันก็มั่นใจอย่างหนึ่งในตัวเขา ว่าเขาเป็นคนจิตใจดี”

ด้วยความที่เป็นชายเจ้าเสน่ห์ ขนาดว่านักแสดงหญิงร่วมจอยังตกหลุมรักเอาง่าย ๆ เช่นนี้ จึงไม่แปลกที่ว่าในชีวิตจริงของฟอร์ดนั้น เขาจะผ่านการแต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง
ฟอร์ดแต่งงานครั้งแรกกับ แมรี มาร์ควอร์ต ที่รักกันมาตั้งแต่ตอนเรียน ชีวิตคู่กับมาร์ควอร์ตนั้นเริ่มในปี 1964 และจบลงในปี 1979
ฟอร์ดแต่งงานครั้งที่ 2 กับ เมลิซา แมธีสัน นักเขียนบทภาพยนตร์ ใช้ชีวิตคู่กันในช่วงปี 1983 ถึง 2004
ฟอร์ดแต่งงานครั้งที่ 3 กับ คาลิสตา ฟลอกฮาร์ต เพื่อนนักแสดงของเขา แต่งงานกันในปี 2010 และยังคงครองชีวิตคู่กันอยู่ทุกวันนี้


7.ได้งานแสดงเพราะปวดฉี่

แฮร์ริสัน ฟอร์ด ใน ‘Gunsmoke’

ฟอร์ดเข้าสู่วงการแสดงครั้งแรกในปี 1966 เขาเป็นนักแสดงในสังกัดโคลัมเบีย พิคเจอร์ส แต่เป็นนักแสดงที่สแตนด์บาย คอยให้กองถ่ายเรียกตัว ถ้ามีบทให้เขาแสดง ตอนนั้นเขาเป็นแค่นักแสดงประกอบในทีวีซีรีส์หลายเรื่อง อย่างเช่น ‘Gunsmoke’ และ ‘Kung-Fu’ แต่มันก็ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาได้เข้าสู่วงการแสดงนี้ก็เพราะว่าเขาปวดฉี่
ฟอร์ดเผยเรื่องนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ The Irish Times เมื่อปี 2011 ว่า “ผมโชคดีเป็นพิเศษนะ ในวันนั้นผมถูกสัมภาษณ์แค่ 5 นาที เขาก็ถามอย่างเช่น ‘สูงเท่าไหร่? พูดสเปนได้ไหม? ขี่ม้าได้ไหม? โอเคนะแล้วเราจะติดต่อกลับไป’ ผมก็เดินออกไปจะลงลิฟต์ แต่ก็รู้สึกปวดฉี่ พอออกมาจากห้องน้ำก็เจอผู้ช่วยของชายที่สัมภาษณ์ผม เขาก็กวักมือเรียกผมเข้าไปหา เขาถามผมว่า ‘คุณอยากเซ็นสัญญาไหม ? ‘ ผมก็ถามกลับไปว่า ‘คุณหมายความว่าอย่างไร บอกมาตรง ๆ ดีกว่า ?’ เขาก็ตอบกลับมา ‘งั้นคุณต้องให้ผมสัปดาห์ละ 150 เหรียญ’ ผมก็ใคร่ครวญอยู่พักใหญ่เลยล่ะกว่าจะเซ็นสัญญา แต่ตอนนี้ผมไม่ต้องจ่ายเขาสัปดาห์ละ 150 เหรียญแล้วนะ ผมได้เป็นนักแสดงแล้ว”


8.เคยออกทัวร์กับวงดนตรี The Doors

มองเห็น แฮร์ริสัน ฟอร์ด เดินผ่านกล้องแว้บนึง

ในช่วงที่เข้าวงการแสดงใหม่ ๆ นั้น ฟอร์ดก็มีแค่บทสมทบเรื่องนั้นนิด เรื่องนี้หน่อยไปเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นเขาก็ทำงานเสริมต่าง ๆ ไปด้วย อย่างเช่นงานช่างไม้ หรืองานอะไรก็ได้ที่เขาพอทำได้ก็รับหมด ในปี 1968 ฟอร์ดรับงานเป็นผู้ช่วยช่างถ่ายภาพยนตร์ในกองถ่ายที่ 2 ของสารคดีเกี่ยวกับวงดนตรี The Doors ในชื่อเรื่องว่า ‘Feast of Friends’ เมื่อฟอร์ดรับงานนี้มา นั่นแปลว่าเขาต้องติดตามวง The Doors ระหว่างออกทัวร์คอนเสิร์ตไปด้วยตลอด 1 สัปดาห์ เพื่อเก็บภาพบนเวทีไปใช้ประกอบในสารคดี

ฟอร์ดเผยว่าการได้ติดตามวงดนตรี The Doors นั้นทำให้เขาเห็นด้านที่เคร่งศาสนาในธุรกิจบันเทิงด้วย
“ตอนที่ผมถ่ายทำหนังสารคดีทัวร์คอนเสิร์ตของ The Doors นั้น ผมต้องตามวงไปออกทัวร์คอนเสิร์ตด้วยประมาณ 1 สัปดาห์ครึ่ง พอจบงาน ผมรู้สึกว่าผมเกือบจะเข้าร่วมนิกายอารามเยซูอิตไปแล้ว ผมก็คิดว่ามันเท่อยู่หรอกนะ ผมมองว่ามันฮิปมาก แต่ผมตามพวกเขาไม่ทันหรอก มันหนักหนาเกินไป”


9.ที่มาของแผลเป็นบนคาง

ไม่ต้องเป็นแฟนตัวยงของ แฮร์ริสัน ฟอร์ด คุณก็น่าจะสังเกตเห็นแผลเป็นบนคาง อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา และยิ่งสูงวัยขึ้นเราก็ยิ่งเห็นแผลเป็นนี้ชัดขึ้น ฟอร์ดเผยว่าเขาได้แผลเป็นนี้มาตั้งแต่ปี 1968 เป็นผลมาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะที่เขากำลังขับรถไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้า Bullock ในแคลิฟอร์เนีย ในวันนั้นเขากำลังจะคาดเข็มขัดนิรภัย แต่ก็พลาดท่าทำให้เสียการควบคุมแล้วพุ่งไปชนกับเสาโทรศัพท์หน้ากระแทกเข้ากับพวงมาลัย และด้วยการผ่าตัดที่ฉุกเฉิน ทำให้ทิ้งรอยแผลเป็นที่เด่นชัดไว้บนคางของเขา

แต่แทนที่แผลเป็นนี้จะเป็นข้อด้อยในอาชีพนักแสดงของเขา แต่ตรงกันข้าม มันกลับเป็นจุดเด่นที่ผู้สร้างเลือกหยิบมาใช้กับตัวละครของเขา 2 เรื่อง ใน ‘Indiana Jones and the Last Crusade’ นั้นย้อนเล่าไปว่า อินเดียนา โจนส์ ในวัยเด็กนั้น ฝึกหัดใช้แส้แล้วผิดพลาดปลายแส้ฟาดเข้าใส่คางตัวเองจนแผลเป็นตลอดมา อีกเรื่องใน ‘ Working Girl’ ฟอร์ดรับบทป็น แจ็ก เทรนเนอร์ เล่าว่าเขาไปเจาะหู แล้วเกิดเป็นลมจนล้มลงแล้วคางไปกระแทกเข้ากับโถส้วม


10.ด้นสดจนกลายเป็นฉากจดจำในตำนาน

แน่นอนว่าผลงานการแสดงกว่า 80 เรื่่องของเขาจะต้องมีฉากน่าจดจำมากมาย แต่ในฉากที่ชวนจดจำมากมายนั้น กลับมีอยู่ 2 ฉาก ที่เกิดจากไอเดียของตัวฟอร์ดเอง ฉากแรกจากหนัง ‘Raiders of the Lost Ark’ ขณะที่ อินเดียนา โจนส์ กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูน่าเกรงขามที่มาพร้อมกับดาบเล่มโต แล้วโชว์ลีลาควงดาบไปมาเพื่อเป็นการข่มขวัญ แต่แล้วโจนส์ก็หยิบปืนขึ้นมายิงโป้งเดียว……….คว่ำ

ที่มาของฉากนี้เป็นเพราะว่าในวันถ่ายทำนั้น ฟอร์ดเป็นโรคบิดทำให้เขาท้องเสีย ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำทุก ๆ 10 นาที ซึ่งตามบทภาพยนตร์แล้วนั้น อินเดียนา โจนส์ จะต้องดวลดาบกับคู่ต่อสู้ แต่ถ้าฟอร์ดยังต้องวิ่งเข้าห้องน้ำอยู่แบบนี้ก็ไม่สามารถถ่ายฉากดวลดาบที่ต้องใช้ระยะเวลายาว ๆ ได้ สปิลเบิร์กและฟอร์ดจึงร่วมกันปรับเปลี่ยนให้ อินเดียนา โจนส์ ควักปืนขึ้นมายิงใส่คนร้ายแทน แต่กลับกลายเป็นว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในระหว่างถ่ายทำนั้นทำให้ฉากนี้กลายเป็นหนึ่งในฉากที่ผู้ชมชอบที่สุดและเป็นที่จดจำมายาวนาน

อีกฉาก มาจากหนัง ‘The Empire Strikes Back’ เมื่อเจ้าหญิงเลอาเอ่ยกับ ฮาน โซโล ว่า “ฉันรักคุณ” แล้วเขาก็ตอบว่า “ผมรู้” เบื้องหลังฉากนี้ถูกเล่าต่อกันมายาวนานผ่านหลาย ๆ สื่อจนข้อเท็จจริงบิดเบือนไปว่า แฮร์ริสัน ฟอร์ด ด้นสดประโยคนี้ขึ้นมาระหว่างถ่ายทำ แต่แท้จริงแล้วนั้น ฟอร์ดเป็นต้นคิดประโยคนี้จริง แต่เขาคิดขึ้นมาได้ในระหว่างซ้อมและแนะนำให้ใช้ประโยคนี้แทน ซึ่งในที่สุด ก็เป็นอีกหนึ่งฉากที่ได้รับการจดจำจากมหากาพย์ Star Wars ซึ่งฟอร์ดก็สมควรได้รับเครดิตในเรื่องนี้

ที่มา : mentalfloss IMDB nickiswift cultureslate insider