ใครมองหาโน้ตบุ๊กดีไซน์สวย พกพาสะดวก สเปกดี ลำโพงปัง ASUS VivoBook Series D533UA มาพร้อมชิปประมวล AMD 5000 series รุ่นใหม่ล่าสุดในตลาดตอนนี้ อย่าพลาดรุ่นนี้

ดีไซน์

เริ่มกันที่วัสดุตัวเครื่องของ ASUS VivoBook Series มีจำหน่ายสองรุ่นคือรุ่น 14 นิ้ว (D413UA) และ 15.6 นิ้ว (D533UA) ซึ่งรุ่นที่จะมารีวิวในวันนี้คือรุ่น D533UA เป็นโลหะพื้นผิวเรียบ ให้สัมผัสตัวเครื่องที่ดี และทำความสะอาดง่ายเน้นเรื่องดีไซน์เครื่อง สีสันสดใส ตัวที่รีวิวเรียกว่าสี Resolute Red แล้วมีให้เลือกอีก 5 สี คือ INDIE BLACK , DREAMY WHITE , GAIA GREEN , TRANSPARENT SILVER และ HEARTY GOLD

น้ำหนักถามว่าเบาไหม ก็เป็นโน้ตบุ๊กที่มีน้ำหนักกำลังดี เพราะเป็นรุ่นที่มีจอ 15.6 นิ้วด้วย ถ้าอยากได้เบากว่านี้ รุ่น D413 ที่มีจอ 14 นิ้ว ซึ่งทาง ASUS เคลมว่ามีน้ำหนักแค่ 1.4 KG

ส่วนความบาง จะอยู่ที่ 16.1 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าพกพาสะดวก และสามารถใส่กระเป๋าสะพายไปนู่นนี่ได้สบาย ๆ ส่วนต่อมาคือพอร์ตเชื่อมต่อเครื่อง ด้านซ้ายของตัวเครื่อง จะมีช่องชาร์จไฟแบบ DC-IN ถัดมาเป็นช่องเชื่อมต่อ HDMI 1 ช่อง USB 3.2 Type A 1 ช่อง USB 3.2 Type C 1 ช่อง และรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 mm. 1 ช่อง

ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีช่อง USB 2.0 2 ช่อง และช่องเสียบ Micro SD Card ถือว่าช่องเชื่อมต่อเยอะมาก โดยเฉพาะ USB ที่มีให้เชื่อมต่อถึง 3 ช่อง ถ้าเชื่อมเมาส์ไร้สาย แล้วต่อ External HDD สำหรับเก็บไฟล์งานหรือทำงาน ก็สามารถทำได้ ไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์เพิ่ม แต่เวลาใช้งานก็ต้องเลือกช่องเสียบให้เหมาะสม เช่นเสียบเมาส์ ก็ใช้ช่อง USB 2.0 ที่อยู่ทางด้านขวาจะเหมาะกว่า แล้วเก็บช่อง USB 3.0 สำหรับการต่ออุปกรณ์ที่ต้องการความเร็วสูง ๆ อย่างการเสียบฮาร์ดดิสก์ดีกว่า

หน้าจอ

สำหรับจอของ ASUS VivoBook Series เครื่องที่เรารีวิวตัวนี้ได้จอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด แบบ FHD 1920×1080 พิกเซล และเป็น NanoEdge Display ขอบจอบาง ทำให้มีพื้นที่หน้าจอมากถึง 86% ของตัวเครื่องทั้งหมด ช่วยให้ดูหนังเต็มตาขึ้น

ส่วนกล้อง Webcam มีความละเอียด 720p 30 เฟรมต่อวินาที รองรับทั้งการถ่ายภาพนิ่ง หรือ VDO Call ได้ อีกทั้งยังติดตั้งไมโครโฟนคู่ Dual Array ช่วยในเรื่องการตัดเสียงรบกวน เพื่อให้การสนทนาผ่าน VDO Call ได้ยินเสียงที่ชัดเจน มีระบบ AI Noice canceling mic ช่วยตัดเสียงรบกวน ทำให้ทำงานแบบ work from home หรือแม้แต่ เรียนออนไลน์ ได้ดีและชัดขึ้น

ส่วนแป้นพิมพ์ของรุ่นนี้ เป็นแบบ Full Size สัมผัสการพิมพ์เด้งนิ้วดี พร้อมแป้นพิมพ์ Yellow Enter key นอกจากนี้มีแป้นตัวเลขอยู่ทางด้านขวา ใครที่คุ้นเคยกับการใช้คีย์บอร์ดอย่างคนที่ใช้กรอกตัวเลขบ่อย ๆ แป้นพิมพ์ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์เลยค่ะ ส่วน Touchpad ที่มีขนาดใหญ่เลยค่ะ จะได้ใช้สะดวก ๆ

เสียง

ขณะที่ลำโพงเป็นแบบสเตอรีโอ ได้รับการรับรองเสียงโดย harman kardon แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำระดับโลก ด้านเสียงฟังแล้วรู้สึกมีมิติ สมจริง ในย่านเสียงใสทำได้เคลียร์ชัดมาก ๆ แต่ถ้าเป็นย่านเสียงทุ้ม ยังทำได้ไม่หนักแน่น เพราะพื้นที่ใส่ลำโพงของโน้ตบุ๊กนั้นมีไม่เยอะ

และส่วนสุดท้ายการเชื่อมต่อไร้สาย ที่โน้ตบุ๊กตัวนี้รองรับ Wifi 6 มาตรฐานล่าสุดของวงการ ทำให้ใช้งานความเร็วอินเทอร์เน็ตไร้สายระดับ 1 Gbps ได้ง่ายขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับเราเตอร์มาตรฐาน Wi-Fi 6

สเปก

สำหรับ ASUS VivoBook Series D533UA นั้น เรียกได้ว่า เป็นโน้ตบุ๊ก mainsteam เครื่องแรกของไทยที่มาพร้อม AMD 5000 U series โดยรุ่นนี้ใช้ CPU AMD Ryzen 5 Mobile 5500U มาพร้อม AMD Radeon™ Graphics โดยในเครื่องติดตั้งแรม 8GB DDR4 มาให้

ในด้านประสิทธิภาพได้ทดสอบความสามารถของ CPU ด้วย Geekbench 5 แบบ Single Core ทำได้ 1,032 คะแนน และแบบ Multi-Core ทำได้ 4,903 คะแนน เมื่อเทียบกับ AMD Ryzen 5-4500U รุ่นที่แล้ว ที่ทำคะแนนได้ 3,124 คะแนน ในแบบ Multi-Core ก็ถือว่าเร็วกว่าพอสมควรเลย

ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพของการ์ดจอ ใช้ 3D Marks ชุดทดสอบ Time Spy ทำผลงานได้ 1,092 คะแนน ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานทั่ว ๆ ไป

ที่คะแนนสูงขนาดนี้เพราะมีเทคโนโลยี AIPT หรือ ASUS Intelligent Performance Technology ซึ่งมีอยู่ 3 โหมด คือ

  • Performance Mode จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานกว่า 40% พร้อมโชว์ให้เห็นการเปิดโหมดใช้งานว่าช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น
  • Balanced Mode ช่วยยืดระยะการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น
  • Whisper Mode ระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ เพิ่มประสิทธิภาพระบายความร้อนและทำงานไร้เสียงรบกวน

ส่วนความจุเครื่องเป็นแบบ SSD ขนาด 512 GB ขณะที่ประสิทธิภาพทดสอบผ่าน Crystal Disk Marks การอ่านอยู่ที่ 2,324 เมกะไบต์ต่อวินาที และการเขียนอยู่ที่ 1,384 เมกะไบต์ต่อวินาที ซึ่งถือว่าไม่สูงมาก แต่ถ้าใช้งานทั่วไปการโอนไฟล์ทำได้ดี

แบตเตอรี

ขณะที่แบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion ขนาด 4,210 mAh หากอยู่ในโหมด Stand by เครื่องจะอยู่ได้ 13 ชั่วโมง หากใช้ทำงานต่อเนื่องและเปิดโหมด Performance ใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 5 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้โหมดประหยัดพลังงาน จะใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง ถือว่าไม่อึดมาก อาจจะต้องชาร์จระหว่างวัน แต่อะแดปเตอร์มีขนาดกะทัดรัดทำให้พกพาสะดวก

ส่วนระบบปฎิบัติการที่ติดตั้งมาให้เป็น Windows 10 Home พร้อมกับ Microsoft Office Home and Student 2019 ที่พร้อมใช้ตั้งแต่เปิดเครื่อง ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่โดยปกติแล้วคุณต้องจ่าย 3,000 บาทถึงจะใช้ชุดโปรแกรมสำนักงานได้ ซึ่ง ASUS มีมาให้เลย

นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์อย่าง My ASUS ที่คอยตรวจเช็กความผิดปกติของโน้ตบุ๊กและแจ้งเตือนให้อัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้ทราบ อีกทั้งสามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์ได้ เสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวอีกด้วย

จุดสังเกต

สำหรับ ASUS VivoBook Series D533UA ได้ลองใช้มาพักใหญ่พบข้อสังเกตคือ ช่อง USB Type-C ทำได้เพียงการโอนถ่ายข้อมูลอย่างเดียว ไม่สามารถต่อจอแยกหรือชาร์จไฟได้ และอีกข้อสังเกตหนึ่งคือรุ่นนี้ไม่มีที่สแกนลายนิ้วมือและกล้องสแกนใบหน้า ทำให้การปลดล็อกเครื่องต้องพิมพ์ด้วยรหัสอย่างเดียว

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

สำหรับ ASUS VivoBook Series สเปก AMD Ryzen 5 5500U และการ์ดจอ AMD Radeon Graphic ขนาดจอ 14 นิ้ว เริ่มต้นที่ 20,990 บาท ส่วนรุ่นจอ 15 นิ้ว ที่รีวิวอยู่เครื่องนี้ มีราคาอยู่ที่ 21,990 บาท มีให้เลือก 6 สีคือ INDIE BLACK , DREAMY WHITE , GAIA GREEN , TRANSPARENT SILVER , HEARTY GOLD และ Resolute Red

ส่วนถ้าใครอยากได้สเปกแรง ASUS VivoBook Series ก็มี มาพร้อม AMD Ryzen 7 มีเพียงสีดำ INDIE BLACK เท่านั้น รุ่นจอ 14 นิ้ว ราคา 25,990 บาท และ รุ่นจอ 15 นิ้ว ราคา ราคา 26,990 บาท มาพร้อม Global warranty 2 ปี และ Perfect warranty 1 ปี สำหรับใครที่สนใจโน้ตบุ๊กดีไซน์โดนใจวัยรุ่น เสียงดี สามารถสอบถามได้ที่ผู้แทนจำหน่าย ASUS ทั่วประเทศ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส