[รีวิว] Ratchet & Clank: Rift Apart (PC) ต่างจากเวอร์ชัน PS5 มากน้อยแค่ไหน?

Ratchet & Clank: Rift Apart (PC)

จุดเด่น

  1. เกมเพลย์ที่สนุก Minigame กับ Puzzle ท้าทายสติปัญญาระดับหนึ่ง
  2. เนื้อเรื่องเรียบง่าย ไม่จำเป็นต้องเล่นเกมภาคเก่ามาก่อน
  3. ความหลากหลายของอาวุธที่ทำให้เกมเพลย์สนุกมากยิ่งขึ้น

จุดสังเกต

  1. เล่นผ่าน PS5 เพื่ออรรถรสในการเล่นที่ดีกว่า
  2. ตัวเกม Day One มีปัญหา แต่ถูกแก้ด้วยแพตช์ใหม่แล้ว

Ratchet & Clank: Rift Apart อีกหนึ่งเกม PlayStation Exclusive ยอดเยี่ยมที่ตอนนี้ถูกพอร์ตให้ชาว PC ได้เล่นกันเป็นครั้งแรก

ด้วยความที่เป็นเกมวางจำหน่ายพร้อมกับช่วงเปิดตัวของ PS5 และ ถูกพัฒนาให้ใช้ประสิทธิภาพจาก SSD ของคอนโซลอย่างเต็มที่ หลังจากมีประกาศว่าตัวเกมจะพอร์ตให้กับ PC ก็ทำเอาแฟนเกมหลายคนสงสัยกันว่า มันจะทำงานได้ราบรื่นเหมือนกับเวอร์ชัน PS5 ไหม?

ซึ่งในบทความนี้เอง ผมจะพามาให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ Ratchet & Clank: Rift Apart เวอร์ชัน PC ว่าจะออกมาแตกต่างจากเวอร์ชัน PS5 มากน้อยแค่ไหน

**ก่อนที่จะเริ่มกัน ทางเราก็ต้องขอขอบคุณทีม Insomniac Games และ PlayStation สำหรับตัวเกม Ratchet & Clank: Rift Apart เวอร์ชัน PC ด้วยครับ**

Rift ทะลุมิติ กับ ความจำเป็นของ SSD

ตอนเริ่มต้นของ Ratchet & Clank: Rift Apart จะมีช่วงที่แนะนำให้ผู้เล่นได้รู้จักกับประตูข้ามมิติ Rift และ โลกทั้งหมดในเกม โดยช่วงนี้จะมีฉากที่เกมพาเรากระโดดข้าม Rift ไปชมสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ของโลกทั้งหมดในเกมแบบไม่ใช้ Cutscene คั่นระหว่างเกมเพลย์ แต่เป็นการใช้ฉากเกมเพลย์ขนาดใหญ่ของทุกโลกใส่เข้าไปแทน

ในช่วง Rift ครั้งแรก สำหรับเวอร์ชัน PS5 ทำงานได้อย่าง Smooth มาก ๆ ถึงขั้นไม่เห็นช่วงหยุดชะงักโหลดโลกแม้แต่เสี้ยววิเดียว(ง่าย ๆ คือ ‘ดั่ง Real-Time’) แต่สำหรับเวอร์ชัน PC ถึงจะเล่นผ่าน SSD ก็ตาม ผู้เล่นจะเห็นช่วงหยุดชะงักโหลดโลกได้อย่างชัดเจน โดยรวมก็ไม่ถือว่าเลวร้ายอะไรมากหากเทียบกับการเล่นผ่าน HDD ที่ทางทีมงานจัดไว้เป็นสเปคขั้นต่ำของเกม

หากคุณเล่นผ่าน HDD ล่ะก็ เมื่อถึงช่วงอย่างว่า ระหว่างที่อยู่ใน Rift จากที่เราควรจะได้กระโดดข้ามโลกภายในพริบตา ตัวละครของเราจะหมุนตัวค้างอยู่กับที่ใน Rift เป็นเวลามากกว่า 5 – 10 วินาที หรือ จนกว่าโลกจะโหลดเสร็จแทน ซึ่งก็แน่นอนว่ามันทำให้เราเห็นถึงการโหลดของเกมได้อย่างชัดเจนกว่าเดิม และ ด้วยเวลาโหลดที่ค่อนข้างนานมันก็ทำลายอรรถรสระหว่างเล่นช่วงนี้ไปด้วยไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ตาม ช่วงที่เกมบังคับให้ผู้เล่นต้องใช้ Rift กระโดดข้ามไปโลกอื่น ๆ ก็ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยมากนัก หากคุณจำเป็นต้องเล่นผ่าน HDD จริง ๆ ก็โชคดีที่ตรงนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเกมเพลย์โดยรวมมากนัก ยังสามารถวิ่งยิงสัตว์ประหลาดจนจบเกมได้ปกติอยู่ครับ

แพตช์เวอร์ชัน PC

ในช่วง Day One ที่ผมดาวน์โหลดเกมนี้มาเล่น มีหลายครั้งมากที่เล่นแล้วเกมมัน Crash ดับไปเอง ซึ่งตอนนั้นผมก็สงสัยว่าเป็นที่คอมพิวเตอร์ตัวเองหรือเปล่า? แต่เมื่อผมได้อ่านรีวิวบนเว็บไซต์ Metacritic หลังจากเห็นข่าวที่ตัวเกมเวอร์ชัน PC ถูก Review Bomb ก็เชื่อแล้วว่าไม่ได้เป็นที่คอมพิวเตอร์ เพราะคนอื่นก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน

ปัญหานี้ทางทีมงานก็ได้แก้ผ่านแพตช์ใหม่ของเกม ซึ่งผมเองก็ได้ลองเล่นอีกครั้งหลังอัปเดตแพตช์ใหม่ ปรากฏว่าไม่เจอปัญหาเกมดับอีกเลยหลังจากนั้น

Verdict

หากคุณอยากได้รับอรรถรสจากการเล่นอย่างเต็มที่ ผมขอแนะนำให้เล่นผ่านเวอร์ชัน PS5 จะดีกว่า สำหรับเวอร์ชัน PC หลังจากได้รับแพตช์แก้ไขปัญหาต่าง ๆ และ ถ้าหากคุณสามารถเล่นผ่าน SSD ไปด้วย โดยรวมก็ดูดีอยู่เหมือนกันครับ

แต่สำหรับใครที่เล่นผ่าน HDD ถ้าคุณไม่ขัดใจกับช่วง Rift ที่โหลดโลกแบบหยุดชะงักนานกว่า 5 – 10 วินาทีขึ้นไป เกมเพลย์ส่วนอื่นก็ยังสามารถเล่นได้อย่างราบรื่นอยู่ครับ ยังคงเล่นได้เรื่อย ๆ จนจบเกม

สำหรับรีวิวตัวเกม โดยรวมแล้วผมคิดว่า Ratchet & Clank: Rift Apart เป็นเกมแนว Platformer ที่มีเนื้อเรื่องเรียบง่ายเข้าใจไม่ยาก(ไม่จำเป็นต้องเล่นภาคเก่ามาก่อน) แถมสนุกดั่งกับเราได้ดูการ์ตูนแอนิเมชันดี ๆ เรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้

เกมเพลย์สนุก Minigame กับ Puzzle ก็ท้าทายสติปัญญาผู้เล่นระดับหนึ่ง ตามด้วยความหลากหลายของอาวุธที่ไม่ได้มีไว้แค่ยิงใส่ศัตรูตรง ๆ แต่มีเป็นปืนที่มีลูกเล่นแปลก ๆ อย่าง ปืนแปลงร่างศัตรูให้กลายเป็นพิกเซล หรือ พุ่มไม้ และ ปืนยิงเห็ดให้ออกมาช่วยเราทืบศัตรูอีกด้วย

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวฉบับเต็มของ Ratchet & Clank: Rift Apart ก็สามารถอ่านได้ตามลิงก์นี้เลยครับผม

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส