[รีวิวเกม] ‘Persona 5 Tactica’ ภาคสปินออฟฉบับวางแผนการรบของซีรีส์ ‘Persona’
Our score
8.0

Persona 5 Tactica

จุดเด่น

  1. ตัวละครจากเกม 'Persona'
  2. เกมเพลย์รวดเร็ว ระบบวางแผนที่สนุก

จุดสังเกต

  1. กราฟิกธรรมดาเกินไปหน่อย
  2. ระบบการเล่นไม่สดใหม่เพราะมีหลายเกมใช้ไปนานแล้ว

แม้ว่าซีรีส์ ‘Persona’ ภาคใหม่จะยังไม่มีการเปิดตัวในช่วงนี้ แต่ต้นสังกัดอย่างค่าย Altus ก็ขยันออกภาครีเมกและสปินออฟมาเรียกเงินจากกระเป๋าของแฟนเกมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘Persona 5 Strikers’ ที่มาแนว ‘Dynasty Warriors’ ส่วนในปีหน้าก็จะมีการวางขาย ‘Persona 3 Reload’ ภาครีเมกด้วย

และล่าสุดมีการวางขาย ‘Persona 5 Tactica’ ภาคเสริมที่เปลี่ยนรูปแบบการเล่นจากเทิร์นเบส RPG เปลี่ยนมาเป็นแนววางแผนการรบแบบใส่คำสั่งแล้วผลัดกันเดินคนละเทิร์น แบบฉากแผนที่โดยรวมแล้วมันอาจจะดูธรรมดาไม่ได้น่าสนใจเพราะเป็นแนวเกมที่อาจดูเชยในยุคนี้ แต่ด้วยรูปแบบที่มีการปรับให้ทันสมัยรวมทั้งตัวละครดังจากซีรีส์ ‘Persona’ ทำให้มันยังคงน่าสนใจ โดยเกมวางขายบน PS4, PS5, Nintendo Switch, Xbox Series X/S, XBoxone และ PC

เรื่องราวใน ‘Persona 5 Tactica’ จะเกิดขึ้นในระหว่างที่ เรน อามามิยะ (Ren Amamiya) ตัวละครหลักมารวมตัวกันในร้าน Café Leblanc ก่อนพิธีจบการศึกษา แต่แล้วเขาก็พบว่าโลกที่เขาอยู่เปลี่ยนไปกลายเป็นโลกในยุคกลางที่ดูลึกลับ และถูกโจมตีจากพวก “Phantom Thieves” แต่ได้รับการช่วยเหลือจากสาวลึกลับนาม “Erina” และหลังจากนั้นเราต้องร่วมมือกับ Rebel Corps เพื่อปลดปล่อยโลกนี้จากเผด็จการ

กราฟิกธรรมดาเน้นงานออกแบบ

สิ่งแรกที่อาจจะทำให้ไม่ค่อยประทับใจนักคือ กราฟิกในเกมที่อาจจะทำให้แฟนที่อยากให้ภาพมาแบบเดียวกับภาคหลักต้องผิดหวัง เพราะมันดูมาแนวการ์ตูนหัวโตตาโตมากกว่าจะใช้สัดส่วนที่สมจริง โดยมันมีความคล้ายกับภาค ‘Persona Q’ จริงอยู่ที่งานออกแบบแนวการ์ตูนเป็นเรื่องปรกติของซีรีส์นี้อยู่แล้ว แต่ส่วนตัวแล้วมันกลายเป็นข้อด้อยหลักเพราะดูเหมือนว่ามันย้อนยุคไปหน่อย

เพราะภาพใน ‘Persona 5 Tactica’ ขาดรายละเอียดอย่างมาก ความจริงหากจะใช้แนวทางแบบการ์ตูนก็สามารถใส่รายละเอียดเข้าไปได้ ทำให้น่าผิดหวังพอสมควรแต่ยังดีที่งานออกแบบที่เป็เอกลักษณ์ของซีรีส์ยังคงอยู่เช่นระบบเมนูและสีสันที่ฉูดฉาดแสบตา แต่สิ่งที่ยังคงดีอยู่คือเพลงประกอบที่มาแนวทางเดิมที่เน้นความสนุกสนานกับซาวด์ดนตรีที่โดดเด่น รวมทั้งยังมีเสียงพากย์ใส่เข้ามาด้วยถือว่าพอจะทำให้ลืมกราฟิกที่ดูด้อยไปได้

เกมเพลย์สนุกเข้าใจง่าย

รูปแบบการเล่นจะเปลี่ยนจากภาคหลักที่เป็นเทิร์นเบส RPG มาสู่การเป็นเกมแนววางแผนการรบแบบผลัดกันเดินคนละตากับศัตรู ฟังดูเชยแต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเพราะว่ามันนำรูปแบบของเกมวางแผนยุคใหม่เข้าไปเพราะผู้เล่นจะไม่ได้เดินตามตารางแบบหมากรุกเหมือนเกมยุคเก่า ผู้เล่นสามารถบังคับตัวละครให้เดินได้แต่จะถูกจำกัดว่าเดินได้ระยะไกลแค่ไหน และยังมาพร้อมกับระบบเข้าที่กำบังเพื่อหลบหลีก

รูปแบบนี้คล้ายกับเกม ‘X-Com’ และ ‘Mario + Rabbids’ ที่ทำให้มันไม่เชยแต่ในทางกลับกันมันก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่เช่นกัน เพราะว่ามันคล้ายกันมากแต่มองในแง่ดีมันก็ทำให้ผู้เล่นที่คุ้นเคยกับระบบนี้เล่นได้ทันทีไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก แถมยังเป็นระบบที่มีการปรับให้เข้ากับยุคสมัยที่ไม่เชยและไม่มีอะไรอืดอาดเชื่องช้าแบบเกมยุคเก่าด้วย

นอกจากนี้ยังมีการใช้การได้เปรียบของภูมิประเทศของฉาก เช่นขึ้นไปอยู่พื้นที่สูงกว่าจะสามารถโจมตีศัตรูได้ระยะไกลกว่า หรือการเข้าหลบในที่กำบังเพื่อลดการโจมตีของศัตรูได้ และเนื่องจากอาวุธหลักเป็นปืนหรืออาวุธที่ใช้ยิงระยะไกล ส่งผลให้ฉากจะเต็มไปด้วยที่หลบซึ่งผู้เล่นต้องวางแผนให้ดี เพราะหากเราไม่ได้เลือกโหมดง่ายเกมจะมีความยากพอสมควร หากบังคับตัวละครโดยไม่วางแผนให้ดีก็สามารถตายได้ง่าย ๆ

มีความเป็นซีรีส์ ‘Persona’ อยู่ครบ

อีกจุดเด่นที่ทำให้มันแตกต่างก็คือตัวละครและโลกจากซีรีส์ ‘Persona’ ที่ใส่เข้ามาครบ ๆ แต่ปรับให้ดูน่ารักมีความเป็นการ์ตูน และนอกจากฉากต่อสู้แล้วยังมีโหมดทำเนื้อเรื่องที่เป็นการพูดคุยกับตัวละครอื่น แน่นอนว่ามีระบบเลือกคำตอบที่จะส่งผลกับเนื้อเรื่องด้วย และยังมาพร้อมกับระบบอัปเกรดตัวละครผ่านเลเวลและการอัปเกรดสกิลที่เข้าใจง่าย เพราะแค่เก็บค่าพลังมาแล้วปลดล็อกซึ่งในส่วนนี้ก็คล้ายกับเกมอื่นไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่

แต่ส่วนที่ไม่เหมือนเกมอื่นและเป็นเอกลักษณ์คือการใช้งานตัว ‘Persona’ เพื่อโจมตีศัตรูเหมือนเป็นท่าไม้ตายพิเศษของเกมทั่วไป แน่นอนว่ามีระบบอัปเกรดและผสมตัว ‘Persona’ เป็นตัวใหม่เอาไปใช้งานได้ และยังมาพร้อมกับท่าไม้ตายใหม่ด้วย จุดนี้ถือเป็นความโดดเด่นที่เชื่อว่าแฟนซีรีส์นี้ต้องคุ้นเคยกันดี แม้ว่าการนำไปใช้จะไม่ได้เต็มที่เหมือนกับภาคหลักก็ตาม แต่ก็มีการเพิ่มระบบการใช้ท่าไม้ตายพิเศษที่ผสานระหว่างตัวละครได้ โดยรวมถือว่าเป็นระบบที่โดดเด่นและทำให้แตกต่างจากเกมอื่น

สำหรับการมาของภาคเสริมอย่าง ‘Persona 5 Tactica’ แม้ว่าอาจจะไม่ได้แปลกใหม่ในรูปแบบการเล่น และกราฟิกก็ดูเชยไปหน่อย ทำให้คุณไม่ได้เป็นแฟนตัวจริงของซีรีส์นี้ และไม่ได้ชอบแนววางแผนการรบก็อาจจะไม่คุ้มค่านัก แต่โดยรวมก็ไม่ได้ดูแย่อะไรมีความเอกลักษณ์ของ ‘Persona’ อยู่ครบทั้งตัวละครและท่าไม้ตายที่คุ้นเคย และยังมีเกมเพลย์ที่รวดเร็วสนุกพอตัวหากไม่ติดเรื่องภาพและการนำเสนอก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส