คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) นักแสดงซูเปอร์สตาร์ชื่อก้อง มีเรื่องให้พูดถึงมากมายเกี่ยวกับความใจดีแบบไม่ธรรมดาของเขา คือเรียกได้ว่าเป็นพ่อพระกันเลยทีเดียว เช่นการบริจาคเงินอย่างลับ ๆ จำนวนมหาศาลให้โรงพยาบาลเด็กต่าง ๆ หรือช่วยเหลือคนโดยไม่สนว่าจะเป็นใคร เรียกได้ว่าถ้าบังเอิญคุณเจอรีฟส์ตอนคุณกำลังตกที่นั่งลำบาก นั่นคือบุญกุศลได้นำพาผลบุญกลับมาหาตัวคุณแล้ว 

อย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้พ่อสุดหล่อใจดีของเราก็ไปปรากฎตัวในงานแต่งงานที่ประเทศอังกฤษงานหนึ่ง เซอร์ไพรส์บ่าวสาวให้ใจเต้นใจฟูกันซะอย่างนั้น เพียงเพราะว่าเจ้าบ่าวบังเอิญไปเจอรีฟส์ที่กำลังนั่งชิลล์รอเวลาขึ้นเครื่องกลับบ้านที่บาร์แห่งหนึ่งในโรงแรมที่เขาและเจ้าสาวกำลังจัดงานแต่งงานกันอยู่ เลยเอ่ยปากชวนให้เขาไปร่วมงานด้วย และสุดหล่อของเราก็ไปตามคำเชิญจริง ๆ หล่อละมุนใจขาดจริง ๆ เลยพ่อคุณ

เราจะพาไปดู 13 วีรกรรมพ่อพระที่ผ่านมาของนักแสดงสุดหล่อทั้งตัวทั้งหัวใจคนนี้กัน ว่าจะเยี่ยมยอดขนาดไหนทำไมพ่อยกแม่ยกถึงมีมากมายมหาศาลทั่วโลก

โมเมนต์แบบเขิน ๆ น่ารัก ๆ จนกลายเป็นมีม ตอนไปปรากฎตัวในงาน E3 ของไมโครซอฟท์ เมื่อปี 2019

กลายเป็นไวรัลทันทีเมื่อมีคนโพสต์คลิปวิดีโองาน E3 ปี 2019 ช่วงถึงคิวเซอร์ไพรส์คนดูเมื่อเขาออกมาปรากฏตัวตอนแนะนำเกม ‘Cyberpunk’ ที่เขาได้ไปปรากฎตัวอยู่ในเกมด้วย แฟน ๆ ต่างตะโกนโห่ร้องต้อนรับเขาอย่างกึกก้องล้นหลาม และในระหว่างที่เขากำลังพูดอยู่บนเวที มีแฟนคนนึงตะโกนใส่เขาว่า ‘You’re breathtaking !’ ซึ่งถ้าแปลเป็นไทยก็ประมาณว่า ‘คุณมันโคตรเจ๋งเลย’ เรียกเสียงเฮฮาจากผู้ชมอื่น ๆ จนตัวรีฟส์เองออกอาการเขินเล็กน้อย และตะโกนกลับไปว่า ‘พวกคุณต่างหากโคตรเจ๋ง !!!’ ความเป็นกันเอง และแสดงความชื่นชมต่อแฟน ๆ อย่างจริงใจเป็นเอกลักษณ์ของรีฟส์อยู่แล้ว จึงไม่แปลกเลยที่แฟน ๆ ต่างยกย่องเขา และคลิปนี้ก็กลายเป็นมีมที่ใช้กันแพร่หลายเลยทีเดียว เราไปดูคลิปที่ว่ากัน

กระโดดลงจากรถไปเซ็นป้ายให้แฟน ๆ ระหว่างนั่งรถไปถ่ายหนัง

เอ็ด โซโลมอน (Ed Solomon) เคยทวีตเอาไว้เรื่องที่ครั้งหนึ่งระหว่างที่กำลังนั่งรถเพื่อไปถ่ายหนัง พ่อพระของเราเหลือบไปเห็นป้าย “You’re Breathtaking!” ประโยคเด็ดของเขา ที่แฟน ๆ ทำเอาไว้อยู่ข้างทางทันใดนั้นพ่อหนุ่มใจงามก็ให้จอดรถแล้วตัวเองก็รีบกระโดดออกไปแจกลายเซ็นบนป้ายให้ซะเลย แฟน ๆ ใจละลายไม่ไหวแล้วจ้ะ

ถ้าไม่จำเป็นจะไม่สัมผัส หรือแตะต้องตัว

สุภาพบุรุษที่สุดในโลก ถ้าใครเคยเห็นรูปที่รีฟส์ถ่ายกับแฟน ๆ หรือใครก็ตามที่เป็นผู้หญิง จะสังเกตได้ว่าเขาแทบจะไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวเธอพวกนั้นเลย ถ้าจำเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวจริง ๆ เขาจะระวังอย่างมาก ที่จะไม่ให้ตำแหน่งมืออยู่ในจุดที่ล่อแหลม ซึ่งถือว่าเป็นการให้เกียรติสุภาพสตรีที่ร่วมเฟรมด้วยอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าสาว ๆ เหล่านั้นจะถึงเนื้อถึงตัวเขาขนาดไหน เขาก็ไม่เคยเสียมารยาทเลย ละมุนมากพ่อ

เสียสละที่นั่งให้ผู้หญิงบนรถไฟใต้ดิน

ถ้าใครเป็นแฟนตัวจริงของเขาจะรู้ว่าเขาชอบใช้บริการขนส่งสาธารณะมากกว่าใช้รถส่วนตัว และชอบปั่นจักรยานไปไหนมาไหนอยู่ตลอด มีครั้งหนึ่งบนรถไฟใต้ดินในเวลาเร่งด่วน พ่อหนุ่มของเราเห็นผู้หญิงคนหนึ่งสะพายกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นรถไฟมายืนข้าง ๆ เลยไม่ลังเลที่จะลุกขึ้นแล้วเชื้อเชิญให้ผู้หญิงคนนั้นมานั่งแทนที่ และก็มีคนถ่ายคลิปเอาไว้ได้อีกแล้ว คลิปวิดีโอนี้ถือว่าเป็นช่วงแรก ๆ ที่มีคนเริ่มเผยแพร่คลิปละมุน ๆ ของเขาบนโซเชียลเน็ตเวิร์กจนกลายเป็นไวรัล และเราก็ไม่พลาดที่จะนำมาให้ชมกัน

ซื้อไอศกรีมเพียงเพื่อต้องการใบเสร็จรับเงินมาเซ็นชื่อให้เด็กขายตั๋วในโรงหนัง !

เจมส์ ดาเตอร์ (James Dator) โปรดิวเซอร์ และนักเขียนบทของ SBNation.com เคยออกมาทวีตเรื่องราวสมัยเขายังทำงานขายตั๋วในโรงหนัง ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยพยายามขอลายเซ็นรีฟส์แต่ก็ไม่สำเร็จ จนเขาถอดใจกลับไปนั่งเซ็งต่อในห้องขายตั๋วหนัง เวลาผ่านไปครู่เดียวเขาก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูห้องขายตั๋ว ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้สนใจอะไร นึกว่าผู้จัดการโรงหนังของเขาเสียด้วยซ้ำ แต่ไม่ใช่!!! รีฟส์เป็นคนเคาะ ในขณะที่เขายืนตะลึงอยู่ พระเอกของเราก็ยื่นใบเสร็จรับเงินร้านขายไอศกรีมใบเล็ก ๆ พร้อมลายเซ็นมาให้เขากับมือ พร้อมบอกว่า “เมื่อกี๊ผมเห็นคุณอยากได้ เอ้านี่! ผมเอามาให้ละ” พูดจบก็หันหลังกลับไปพร้อมกับทิ้งไอศกรีมโคนอันหนึ่งลงถังขยะ! คุณพระ! นี่คือซื้อไอติมเพื่อเอาใบเสร็จรับเงินมาเซ็นชื่อให้เด็กขายตั๋ว แล้วโยนไอติมทิ้งเนี่ยนะ จะเท่ไปไหนครับ 

ร่วมเดินทางต่อไปกับผู้โดยสารอื่น ๆ จากเที่ยวบินที่ต้องลงจอดฉุกเฉิน

เดือนมีนาคมปี 2019 ในขณะที่เที่ยวบินหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปลอสแอนเจลิสถูกบังคับให้ลงจอดฉุกเฉินเพราะอะไรบางอย่าง ทำให้ผู้โดนสารทั้งหมดต้องเดินทางต่อโดยรถบัส ซึ่งพ่อหนุ่มของเราก็ไม่พลาดที่จะร่วมหัวจมท้ายนั่งรถบัสร่วมชะตากรรมเดียวกันกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ และยิ่งไปกว่านั้นเขาช่วยเหลือในการจัดระบบการขนส่งผู้โดยสารอีกด้วย ระหว่างการเดินทางเขาทำให้ผู้คนที่รู้สึกแย่มากในวันนั้นต่างก็คิดว่าในความโชคร้ายก็ยังมีเรื่องดี ๆ ให้ชื่นใจอยู่บ้าง การร่วมถ่ายรูปกับแฟน ๆ อย่างเป็นกันเอง, ช่วยแนะนำข้อมูลการท่องเที่ยว หรือแม้แต่การเปิดเพลงจากโทรศัพท์ของเขาให้คนอื่น ๆ ฟัง! สิ่งที่เขาทำทั้งหมดจะช่วยเยียวยาจิตใจของผู้คนในวันนั้นที่หม่นมัวดูสดใส และสดชื่นขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ และคิดว่าตัวเขาเองก็ต้องการแบบนั้นแหละ ถึงร่วมทริปไปกับคนอื่น ๆ หล่อไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ

และแฟน ๆ ที่เจอเหตุการณ์ประทับใจในวันนั้นต่างก็เผยแพร่ความประทับใจต่าง ๆ ลงโซเชียลเน็ตเวิร์กกันมากมาย ความจริงรีฟส์สามารถหาเช่าเครื่องส่วนตัวบินไปต่อ หรืออาจจะใช้ลีมูซีนเพื่อความเป็นส่วนตัวก็ได้ แต่เขาไม่ทำ นี่คือส่วนหนึ่งที่ทำให้แฟน ๆ สิ้นสงสัยในความใจดีโอบอ้อมอารีย์ และชอบคิดถึงแต่ความรู้สึกของคนอื่นอยู่เสมอของเขาไปจนหมดสิ้น

ปีนขึ้นบนโต๊ะเพื่อให้สมบทบาทในขณะกำลังคุยถึงบทตัวละครของเขา

ในปี 2019 ในขณะที่กำลังคุยกับโปรดิวเซอร์ของ Pixar เพื่อหารือทำความเข้าใจกันกับเรื่องบทของตัวละครตัวหนึ่งคือ ดุ๊ค คาบูม ฉายา “ของเล่นผู้หาญกล้าท้าอันตราย” ในภาพยนตร์อนิเมชัน “Toy Story 4“ ซึ่งตัวเขาจะต้องทำความเข้าใจอย่างมากเพราะมันเป็นการให้เสียงเพียงอย่างเดียว เขาลงทุนปีนขึ้นบนโต๊ะ แสดงท่าทางเพื่อให้เหล่าโปรดิวเซอร์ทั้งหลายมั่นใจ ว่าเขาเข้าถึง และเข้าใจตัวละครแค่ไหน “เขาปีนขึ้นไปบนโต๊ะนั่น และโพสอะไรเจ๋ง ๆ ให้พวกเราดู” ผู้อำนวยการสร้าง มาร์ค นีลเซน (Mark Nielsen) กล่าว “นั่นแหละ!! ดุ๊ค คาบูม” และชื่อของรีฟส์ก็ปรากฎอยู่ในทีมนักแสดงในที่สุด

คิดเอาว่า รีฟส์ จะแสดงท่าทางแบบไหนในวันนั้น

การสัมภาษณ์ที่โคตรจะอบอุ่นหัวใจ ละมุนละมัยในทุกถ้อยคำ

ต้นเหตุแห่งความหวานมันเริ่มมาจากเมื่อปี 2018 แซนดรา บุลล็อก (Sandra Bullock) ออกมาเปิดเผยว่าจริง ๆ แล้วในตอนที่กำลังถ่ายทำหนังเรื่องนั้น เธอเองก็แอบปิ๊งพ่อหนุ่มหัวเกรียนพระเอกของเรื่องอยู่เหมือนกัน และนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พ่อหนุ่มรีฟส์ พระเอกจากเรื่อง ‘Speed’ ที่ทั้งคู่แสดงเป็นพระ-นางคู่กันนั่นเอง และก็เหมือนเทน้ำตาลทรายลงไปในโถน้ำผึ้งเมื่อรีฟส์ออกมาบอกในรายการหนึ่งเมื่อปี 2019 ว่าเขาเองก็ปิ๊งเธออยู่เช่นเดียวกัน ณ ขณะนั้น “ตอนนั้นเธอไม่มีทางรู้แน่นอนครับ ว่าผมแอบปิ๊งเธออยู่” เขาให้สัมภาษณ์ “เราต่างคนต่างทำงาน ต่างทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปให้ดีที่สุดในตอนนั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่แน่นอน ที่สำคัญคือเราไม่เคยเดตกันครับ” ก่อนจะปล่อยประโยคละลายหัวใจแฟนคลับออกมา “ไม่รู้ยังไงนะครับ ผมรู้สึกว่าตอนนั้นเธอเป็นคนที่ทำให้ผมอยากไปกองถ่ายทุกวัน ไม่รู้สิ” ละลายหมดแล้วใจแฟน ๆ

บริจาคเงินมหาศาลเพื่อสาธารณกุศล

15-17 April 2010 Long Beach, CA USA Keanu Reeves and a patient at Miller Children’s Hospital. ©Scott Noot 2010 USA

พ่อพระของเราตั้งมูลนิธิส่วนตัวขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลเด็ก และสถาบันวิจัยโรคมะเร็ง มาหลายปีแล้ว โดยไม่แม้แต่จะใส่ชื่อเขาลงไป เพราะเขาไม่อยากให้ใครรู้ และปล่อยให้มูลนิธิของเขาจัดการทุกอย่างเองทั้งหมด

อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนไม่เหลิงในชื่อเสียง

แม้ว่ารีฟส์จะอยู่ในลิสท์นักแสดงที่มีความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ก็ไม่ทำให้เขาลืมตัวตนของตัวเอง ความอ่อนโยนใส่ใจและให้เกียรติผู้อื่นอยู่เสมอของเขา เป็นสิ่งที่แฟน ๆ ต่างซูฮกและยอมรับในความเป็นตัวตนจริง ๆ ของเขาแบบหมดข้อกังขาใด ๆ มีครั้งหนึ่งเขาได้ไปเป็นดารารับเชิญในหนังเล็ก ๆ ของ NetFlix เรื่อง ‘Always Be My Maybe’ ในปี 2019 ออกมาแค่ซีนเดียวก็ได้ใจผู้ชมไปหมดแล้ว ใครจะนึกว่าซุปเปอร์สตาร์ระดับนี้จะมาโผล่ในหนังเล็ก ๆ ด้วยบทเพี้ยน ๆ แบบนี้ อีกทั้งยังให้เวลาพูดคุยอย่างเป็นกันเอง และกล่าวชื่นชมนักแสดงหลักของเรื่องที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักในวงกว้างอย่าง อาลี หว่อง (Ali Wong) และ แรนดัลล์ ปาร์ค (Randall Park) อีกด้วย

และในประเด็นที่เคยมีเกรียนคีย์บอร์ดในอินเทอร์เน็ตตั้งฉายาให้เขาว่า ‘Internet BoyFriend’ ตัวเขาก็ไม่เคยใส่ใจจะโกรธเสียด้วยซ้ำ “มันโคตรเพี้ยนเลย” เขาตอบกลั้วหัวเราะ “แต่มันก็ดูดีนะครับไม่ได้เลวร้ายอะไร เจ๋งดีออกผมว่า” เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้แบบนี้ จนแฟน ๆ คิดกันไปว่าถ้าใครทำให้เขาโกรธได้ คนนั้นต้องชั่วร้าย และแย่สุด ๆ จริง ๆ

รับรู้และเข้าใจกับธรรมชาติของสรรพสิ่ง และชีวิตหลังความตาย

เขาเคยไปออกรายการ ‘The Late Show With Stephen Colbert’ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 และได้ตอบคำถามเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย มีอยู่คำถามหนึ่ง โคลเบิร์ต ถามว่า “จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เมื่อเราตายจากไป” รีฟส์ตอบสั้น ๆ แค่ว่า “ผมรู้อย่างเดียวว่าคนที่รักเราจะคิดถึงเราเสมอ” เอาใจพี่ไปเลย

สงสารสตันท์แมนอุตส่าห์ซ้อมหนักกันมา ไม่อยากให้ตาย(ในหนัง)

เขาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่ารู้สึกสงสารเห็นใจสตันท์แมนฝีมือดี เซเซ็ป อารีฟ ราห์มาน (Cecep Arif Rahman) และ ยายาน รูเฮียน (Yaya Ruhian) 2 สตันท์แมนยอดฝีมือจากอินโดนีเซีย ที่ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักอยู่เป็นระยะเวลายาวนานเพื่อให้หนังออกมาดีที่สุด แต่กลับต้องมาตายเร็วเกินไปในหนัง

ยอมลดค่าตัวเพื่อให้หนังเดินหน้าต่อไปได้ แถมยังใจป๋า ซื้อ ‘ฮาร์เลย์ เดวิดสัน’ นับสิบคันแจกทีมงานในกองถ่าย

เรื่องของ “ใจ” พ่อหนุ่มของเราก็ไม่เป็นรองใครในโลกนี้ ยอมลดค่าตัวในการแสดงเพื่อให้โปรเจกต์เดินหน้าต่อไปได้ อย่างการเซ็นสัญญาของไตรภาค ‘The Matrix’ เขายอมลดค่าเหนื่อยลงใน 2 ภาคหลังอย่างมาก เพื่อให้ทีมงานเอางบตรงนี้ไปใช้ประโยชน์กับ CGI และเทคนิคพิเศษต่าง ๆ ในหนังที่มีเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ในแต่ละภาค และในภาพยนตร์ ‘The Devil’s Advocate ‘ ปี 1997 เขาขอลดค่าจ้างของตัวเองลงไปอีก เพื่อให้ทีมงานสามารถมีเงินจ้าง อัล ปาชิโน (Al Pacino) มาร่วมงานด้วยได้ และที่ฮือฮาที่สุดคือช่วงที่กำลังถ่ายทำไตรภาค ‘The Matrix’ เสี่ยรีฟส์ใจป๋าจัด ฮาร์เลย์ เดวิดสัน หลายสิบคันมาแจกทีมงานสตันท์แมนเพื่อเป็นการขอบคุณที่พวกเขาช่วยกันทำงานหนักจนหนังประสบความสำเร็จ “ผมก็แค่อยากจะขอบคุณพวกเขาเท่านั้น แค่ขอบคุณจริง ๆ ” เสี่ยรีฟส์กล่าว

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส