เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ณ อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี  ผู้เขียนเป็นเกียรติได้รับเชิญให้เข้าร่วมรับชมคอนเสิร์ต “SINGING BIRD # 2 / 2022 ตอน LIFETIME SOUNDTRACK CONCERT #โตมากับเพลงพี่เบิร์ด” ซึ่งคอนเสิร์ตจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 11 -12 และ 13 พฤศจิกายน 2565 ผู้เขียนร่วมชมในรอบแรก คอนเสิร์ตที่แฟนคลับเฝ้ารอ สิ้นสุดการรอคอยเสียที กับบทเพลงที่คน #โตมากับเพลงพี่เบิร์ด บันทึกเรื่องราวผ่านบทเพลง เส้นเรื่องชีวิตที่ล้อไปกับเพลงของพี่เบิร์ด เต็มอิ่มจุใจตลอด 3 ชั่วโมง กับวง “SINGING BIRD SUPER BAND” ซึ่งรวมนักดนตรีกว่า 20 ชีวิต โดยมี “โหน่ง วิชญ วัฒนศัพท์” มาเป็น MUSIC DIRECTOR เติมเต็มบรรยากาศให้คอนเสิร์ตอิ่มอุ่นยิ่งขึ้นด้วยทีมคอรัส นำโดยอาจารย์ จูเลี่ยน แครีย์ (อาจารย์สอนขับร้องเพลงแจ๊ส คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร) มารับหน้าที่ เรียบเรียงเสียงประสาน, ควบคุมร้อง ที่กลมกล่อมลงตัวเฉิดฉายเป๊ะปังตลอดโชว์ ซึ่งประกอบไปด้วยน้อง ๆ จาก The voice kid / The voice / The x factor / The winner is โดยน้อง ๆ ทุกคนต่างมีพี่เบิร์ดเป็นแรงบันดาลใจในการร้องเพลง

“พี่เบิร์ด” เริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วยเพลง เสียดาย แวะทักทายแฟน ๆ เล็กน้อย ก่อนเข้าบันทึกเรื่องราวตลอด 36 ปี นับหนึ่งกันที่อัลบั้มชุดแรก ปี 2529 “หาดทรายสายลมสองเรา” จวบจนปัจจุบัน ปี 2565 เริ่มด้วยเพลง ฝากฟ้าทะเลฝัน + สบายสบาย + บูมเมอแรง + พริกขี้หนู + ซ่อมได้ + แฟนจ๋า  + TOO MUCH SO MUCH VERY MUCH อ่านจากรายชื่อเพลงก็น่าจะพอเดาได้ว่าจะค่อย ๆ ทวีความสนุกกันขึ้นเพียงใด เมื่อเพลง ฟ้อนทั้งน้ำตา ดังขึ้น “พี่เบิร์ด” ก็ออกเดินพร้อม ๆ กับพี่ ๆ แดนเซอร์ทักทายแฟนเพลงไปทั่วทั้งฮอลล์ ใช่ครับลุกจากที่นั่งกรูเข้าหาพี่เบิร์ดกันโดยพร้อมเพียงกัน

เดินทักทายแฟนเพลงรอบฮอลล์จบ ก็เปิดตัวแขกรับเชิญแรกด้วยเพลง ขออุ้มหน่อย ในอรรถรสใหม่สไตล์ “Polycat” ตามด้วยเพลง กำแพง ปิดช่วง “Polycat” ด้วยเพลงพบกันใหม่  ต่อเนื่องด้วยการนำชื่อเพลงของ “พี่เบิร์ด” มาร้อยเรียงท่วงทำนองเกิดเป็นเพลงโตมากับเพลงพี่เบิร์ด โดย “Season Five” ก่อนที่ “พี่เบิร์ด”  จะออกมาร้องเพลงร่วมกับ “Season Five” ในเพลง อยู่คนเดียว  จากนั้น “พี่เบิร์ด” ต่อด้วยบทเพลงเศร้า ๆ อย่างเพลง  เพลงที่ไม่มีใครฟัง , ไม่แข่งยิ่งแพ้ , ถ่านไฟเก่า ตบท้ายด้วยเพลงใจบันดาลแรงแรงบันดาลใจ  ที่ “พี่เบิร์ด” ตั้งใจส่งกำลังใจ ส่งความรู้สึกดี ๆ ให้กับทุกคน

แขกรับเชิญถัดมา “หนุ่มกะลา” เปิดตัวด้วยเพลงทุกวันได้ไหม ต่อด้วยเพลงคนไม่มีแฟน และเธอเป็นแฟนฉันแล้ว ที่ “พี่เบิร์ด”  และ “หนุ่มกะลา” แลกกันร้องอย่างน่ารัก แซวกันไปมาด้วยบทเพลง พร้อมส่งมอบเวทีให้ “หนุ่มกะลา” ได้โชว์ร้องเดี่ยวในเพลง เหนื่อยไหม ต่อด้วยแขกคนต่อไป “สิงโต นำโชค” เปิดตัวด้วยเพลงต้องโทษดาว ก่อนที่จะ ชวนแฟน ๆ ลุกขึ้นเต้น ด้วยเมดเล่ย์แตรวงเพลงคู่กัด + อย่าต่อรองหัวใจ + เงียบ ๆ คนเดียว + หมอกหรือควัน ใช่ครับ เพลงช้าที่เอามาทำเป็นเพลงเร็วก็จะแปลก ๆ หูหน่อย แต่ถามว่าเต้นกันได้ไหม ก็ต้องได้สิครับ ส่งท้ายด้วยเพลงอยู่ต่อเลยได้ไหม มาถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ต เพลง ทดลองใช้ , อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใคร….เข้าใจไหม , กลับไม่ได้ไปไม่ถึง , ก็เลิกกันแล้ว ลุยกันแบบต่อเนื่องจนกระทั่ง “สิงโต นำโชค” ขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งกับเพลงฮิต I just wanna pen fan you dai bor ? ปิดด้วยเพลงมากองรวมกันตรงนี้  ที่แขกรับเชิญทั้งหมดออกมาพร้อมหน้าร่วมร้อง และเพลงส่งท้ายคอนเสิร์ตด้วย  เพลงความสุขความทรงจำไม่มีที่สิ้นสุด  ทิ้งท้ายคอนเสิร์ตที่สร้างความทรงจำอันแสนพิเศษให้กับแฟน ๆ ในค่ำคืนนี้ และตลอดไป

ตลอดระยะเวลาการแสดง 3 ชั่วโมง บรรยากาศภายในฮอลล์อบอวลไปด้วยความรัก ความอบอุ่นที่ทั้งแฟนเพลงและ “พี่เบิร์ด” ส่งหากันอย่างไม่ขาดสาย ความทรงจำที่เกิดขึ้นร่วมกันในวันนี้จะเป็นสิ่งเตือนใจแฟน ๆ ถึงความรักที่พี่เบิร์ดมอบให้ตลอดหลายสิบปี ไม่ได้มีเพียง “พี่เบิร์ด” ที่รักแฟนเพลง แต่แฟนเพลงก็รัก “พี่เบิร์ด” ไม่น้อยไปกว่ากันเพราะทุกคนล้วน “โตมากับเพลงพี่เบิร์ด” มี “พี่เบิร์ด” อยู่ในทุกช่วงของชีวิต ก้าวและเติบโตไปพร้อม ๆ กับชายคนนี้ “เบิร์ดธงไชยแมคอินไตย์”

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส