[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์
Our score
6.3

ฮักมะย๋อมมะแย๋ม

จุดเด่น

  1. หนังปล่อยมุกตลกแบบคอมโบ ถ้าจะหวังฮาก็พอมีอยู่บ้าง
  2. สถานที่ถ่ายทำมีความสมจริงในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะใน สปป.ลาว
  3. นางเอกลาว (นุ้ย สุภาพร สมวิจิตร) น่าฮักหลายๆ

จุดสังเกต

  1. บทสร้างเพื่อความบันเทิงล้วนๆ ไม่ได้มีอะไรใหม่หรือซับซ้อนมากเท่าไร
  2. ยิงมุกเยอะๆ บางทีก็ต้องยอมรับว่าอาจจะไม่ได้ฮาทุกมุก
  3. การขับเคลื่อนบททุกอย่างดูง่ายไปซะทุกอย่าง
  4. ลุงหม่ำและเจเน็ต เขียว แกมาเป็น “แขกรับเชิญ” จริงๆ นะ
  • ความสมบูรณ์ของบท

    5.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    8.0

  • คุณภาพนักแสดง

    7.5

  • ความสนุกน่าติดตาม

    6.0

  • คุ้มเวลาในการรับชม

    5.0

 

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ เรื่องราวความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคของ บักโจ้ (รับบทโดย วัชรพงษ์ ปัทมะ) ชายหนุ่มสุดซื่อที่ถูกสถานการณ์บีบคั้นให้ต้องร่วมมือกับ จู๋ (แสดงโดย เจี้ย แปซิฟิก) หลอกลวงครอบครัวของ แมว (รับบทโดย สุภาพร สมวิจิตร) เพราะหวังล้วงสูตรลับ “แจ่วบอง” ประจำตระกูล มาขายเพื่อเอาเงินไปสู่ขอแฟนสาว ตั๊ก (แสดงโดย พราวภิชณ์ษา สุทธนากาญจน์) แต่เรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อตัวเขานั้นกลับไปตกหลุมรักแมวซะงั้น ขณะเดียวกันแมวที่เริ่มมีใจให้กับบักโจ้ก็ต้องผิดหวังเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มที่เธอรักและไว้ใจเข้ามาเพียงเพื่อหาผลประโยชน์เท่านั้น บักโจ้จะทำอย่างไรเพื่อเรียกความเชื่อใจและหัวใจของแมวให้กลับมาได้อีกครั้ง

Play video

สิ่งที่อยากเล่าให้ฟังเป็นอันดับแรกคือ เมื่อชาวแบไต๋ (หมายถึงพี่ๆ น้องๆ ประจำออฟฟิศแบไต๋+What The Fact) ได้ยินว่าผมกำลังจะไปดูหนังที่มีชื่อเรื่องว่า “ฮักมะย๋อมมะแย๋ม” ก็เกิดปฏิกิริยาแปลกๆ แตกต่างกันออกไป บางคนสงสัยว่ามันเป็นหนังเกี่ยวกับอะไร (วะ) เพราะว่าชื่อแปลกเหลือเกิน หลายคนก็ไม่เคยได้ยินชื่อ (น่าจะเพราะการโปรโมตที่ไม่ทั่วถึง) และหลายคนก็พูดชื่อหนังผิด  แต่ก็นั่นแหละครับ มันไม่ใช่ความผิดของตัวหนัง แม้ว่ามันอาจจะยากและทำให้เขินจนพูดผิดพูดถูกตอนยืนซื้อตั๋วหน้า Box Office อยู่บ้าง แต่หนังเรื่องนี้ก็มีชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ไปแล้วเรียบร้อย

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

ว่ากันที่ตัวหนัง หนังฟอร์มเล็กเรื่องนี้คือการร่วมกันจับมือระหว่างการจัดจำหน่ายและโปรโมตของ M Pictures ในฝั่งไทย กับทีมโปรดักชันอย่าง “แข้วแห้ง โปรดักชัน” จาก สปป.ลาว และได้ผู้กำกับ “เจี้ย แปซิฟิค” ที่เคยมีผลงานกำกับ “ฮูปเงา” (คำว่าภาพยนตร์ในภาษาลาว) มาหลายเรื่อง และเรื่องนี้คือการข้ามพรมแดนมากำกับหนังไทยลาวเรื่องแรก ที่สำคัญคือยังลงทุนเล่นฮูปเงาเรื่องนี้เองด้วยอีกต่างหาก พร้อมด้วยนักแสดงไทย-ลาวที่มาร่วมสนุกกันอย่างคับคั่ง และแถมยังมีแขกรับเชิญที่เรารู้จักกันดีอย่าง หม่ำ ม๊กจ๊ก (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา สายสิน วงษ์คำเหลา และเจเน็ต เขียวมาร่วมด้วยอีกต่างหาก

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

แม้ว่าตัวหนังจะตั้งตัวเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ แต่เอาจริง ๆ ตัวหนังน่าจะหนักไปทางฝั่งคอมเมดี้เสียเป็นส่วนมาก คือมันก็คงไม่ถึงกับลามจนทำให้ส่วนโรแมนติกหายไปเลยนะครับ แต่ตัวหนังให้ความเน้นหนักกับคอมเมดี้จริงๆ เพราะไม่ว่าตัวละครจะทำอะไร ไม่ว่าตัวละครจะอยู่ในมู้ดไหน โทนอะไร ก็จะต้องมีมุกแลบออกมาเสมอในเกือบทุกซีน (คือมันมีมุกเกือบทุกซีนจริง ๆ นะ) แม้ว่าตัวละครจะเศร้าสร้อยอาลัย หรือเสียอกเสียใจเจ็บเจียนตายขนาดไหนก็ตาม ก็จะต้องมีมุกแพลมออกมาด้วยเสมอตามหลักปรัชญาที่ว่า “ยิงร้อยฮาสี่ก็ดีใจแล้ว”

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

อย่างที่ผมบอกว่า แทบทุกซีนในหนังเรื่องนี้ยิงมุกเก่งงงง ที่สำคัญคือเป็นมุกแบบทุกชนิด ทุกขนาดด้วย ไม่ว่าจะมุกเล่นใหญ่ มุกทุ่มทุนเล่นหรือมุกห้าบาทสิบบาทก็ตามที ยกตัวอย่างบางส่วนแบบที่ไม่สปอยล์ก็เช่น มุกที่โจ้กำลังเสียใจหลังจากที่ตั๊กบอกเลิก เพราะว่าคล้อยตามแม่ที่อยากได้ลูกเขยที่ฐานะดีกว่า ซึ่งถ้าร้องไห้เสียใจก็คงธรรมดาไป อ้ายโจ้ก็เลยนอนร้องไห้บนแคร่ฟังวิทยุ หวังจะฟังเพลงอกหักเพื่อปลอบใจ แต่ก็ดันมีโฆษณาสินค้าฮา ๆ มาแทน หรือตอนร้องไห้เอาหลังพิงเสาไม้นอกบ้าน จังหวะที่ทรุดตัวลงไปปรากฏว่าเสี้ยนตำหลัง! หรือแม้แต่แมว ที่รู้ว่าโจ้เข้ามาในบ้านเพียงเพื่อหวังจะขโมยสูตรแจ่วบอง และตัวเองก็เริ่มจะแอบชอบโจ้ ก็เลยนั่งร้องไห้เสียใจกับฟูกบนบ้าน แต่เสียใจเปล่า ๆ ก็จะดูธรรมดาไป ก็เลยเอี้ยวตัวผายลมไปหนึ่งดอก แล้วพ่อของแมวก็ดันเข้ามาตอนที่กลิ่นยังไม่สลายตัวดี ก็เลยได้อรรถรสปลอบใจแบบมีกลิ่นกันไป (ทั้งสองมุกนี้มีอยู่ในตัวอย่างหนัง)

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

เรียกว่าในทุกฉาก ทุกซีน หนังเรื่องนี้สามารถหาช่องทางในการยิงมุกได้เรื่อย ๆ แล้วมันก็เข้าสูตรยิงร้อยฮาซะสี่เสียด้วย เพราะเอาจริง ๆ แม้ว่ามุกในหนังจะเต็มเอี้ยดแบบนับไม่ถ้วน แต่มุกตลกก็เป็นอะไรที่อัตวิสัย คือความตลกไม่ตลกนั้นมันก็ต้องแล้วแต่รสนิยมของแต่ละคนอ่ะนะ ซึ่งเท่าที่ตัวผมเองดูหนังเรื่องนี้จนจบ ผมมีความรู้สึกว่า มุกในหนังบางมุกก็ทำงานจริง ๆ คือบางมุกมันก็เซอร์จัด ๆ จนกลั้นขำไม่ไหว บางมุกดูแล้วก็ร้องว่าอะไรว้า… อย่างเช่นมุกนักธุรกิจผิวสีและลูกสมุนที่มาในมาดของฝ่าบาททีชาล่า (แต่เว้าลาว) แต่บางมุกก็เดาทางง่ายไปจนแป้ก และบางมุกก็ซับซ้อนจนไม่รู้ว่าทำไปทำไม อะไรแบบนี้นี่แหละที่ผมบอกว่ามันคือการยิงร้อยฮาสี่ก็ดีใจแล้ว

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

นุ้ย สุภาพร สมวิจิตร มิสยูนิเวิร์สลาว ปี 2017 รับบท แมว

ส่วนตัวบทเอง อย่างที่ผมจั่วหัวว่ามันเป็นมนต์ฮักลูกทุ่ง คือเป็นมนต์รักลูกทุ่ง อารมณ์ประมาณไอ้หนุ่มคนจนรักกับสาวคนรวยที่ทางบ้านเรียกสินสอดแพง ๆ พระเอกเลยต้องหาวิธีที่จะได้สินสอดให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้ใหม่อะไร แต่ก็ยังโชคดีที่ตัวหนังเองเกี่ยวพันและเชื่อมโยงกับเรื่องราวใน สปป. ลาว ตัวหนังเลยพาออกไปเล่าเรื่องต่อที่ลาว ด้วยการให้พระเอกแฝงตัวเข้ามาที่บ้านของแมว เพื่อที่จะขโมยสูตรแจ่วบองประจำตระกูลของแมวไปขายกับอ้ายจู๋ เพื่อแลกกับเงินที่จะไปสู่ขอกับแม่ของตั๊กที่เมืองไทย ซึ่งถ้าให้เดาเจตนาของอ้ายเจี้ย ขอเดาเอาว่า คงต้องการคุมทิศทางหนังให้เป็นคอมเมดี้ที่ดูเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก ซึ่งพอเป้าหมายเป็นแบบนั้น ก็เลยกลายเป็นว่าทำให้การดำเนินบทดูง่ายไปซะทุกอย่าง ทุกการกระทำของตัวละครนั้นมาแบบง่าย ๆ บทจะได้ก็ได้ง่าย บทจะไม่ได้ก็ไม่ได้ บทจะเจอก็เจอซะง่าย ๆ ซะอย่างนั้นแหละ และอีกจุดที่น่าสังเกต (และส่วนตัวผมเองค่อนข้างชอบ) คือส่วนของการถ่ายทำประเทศลาวนั้น ไม่ได้เป็นการถ่ายภูมิทัศน์และสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองลาวมาแบบสวย ๆ เหมือนหนังเรื่องอื่น แต่เป็นชนบทลาวในแบบเรียล ๆ คือเรียลสุด ๆ บ้านตามต่างจังหวัดและทางลูกรังต้องเป็นแบบนี้แหละ ไม่ใช่บ้านทรงไทยหรือกระต๊อบมุงจากเหมือนบ้านคนจนในละครหลังข่าว

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

ส่วนทางด้านตัวละครนั้น ต้องบอกว่า ถ้าอยากจะไปดูจริง ๆ มันคงไม่สนุกแน่ถ้าจะหวังผลทางดราม่าเข้มข้น หรือทำอะไรจริงจัง ๆ เช่นมีบทโหดร้าย หรือเศร้าสร้อย เพราะตัวละครทุกตัวในหนังถูกออกแบบมาเพื่อหวังผลทางความบันเทิงล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนในร่างฝ่าบาททีชาล่าและลูกน้อง หรือตัวของอ้ายจู๋ ที่แม้หน้าตาท่าทางจะพร้อมกับการเป็นเสี่ยโหด ๆ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนโหมดกลายเป็นเสี่ยติงต๊องได้ในทันทีซะงั้น และรวมไปถึงตัวละครหลัก ไม่ว่าจะเป็นโจ้ พระเอก ตั๊ก นางเอกฝั่งไทย หรือแม้แต่แม่ของโจ้ พ่อของแมว หรือตัวของแมว นางเอกฝั่งลาว (ที่มีดีกรีเป็นถึงมิสยูนิเวิร์สลาว 2017) ก็พร้อมที่จะปล่อยมุกกันแบบไม่ห่วงสวย อีกจุดที่อยากพูดถึงคือ แขกรับเชิญอย่างลุงหม่ำ แม้ว่าหนังจะขยันยิงมุกขนาดไหน แต่การมาของ “ลุงหม่ำ” นายสิน ลูกน้องคู่ใจ และเจเน็ต เขียว ในบทแม่ของตั๊กนั้นเป็นการมาในฐานะ “แขกรับเชิญ” เท่านั้น คือเป็นแขกรับเชิญจริง ๆ นะครับ อย่าหวังว่าจะให้ลุงหม่ำและพี่เจเน็ตเล่นอะไรที่เบอร์ใหญ่ขโมยซีนเกินกว่าเส้นของคำว่า Cameo โดยเด็ดขาด

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

[รีวิว] ฮักมะย๋อมมะแย๋ม : มนต์ฮักลูกทุ่งฉบับไทย-ลาวที่ขยันยิงมุกได้ทุกสถานการณ์

ลุงหม่ำ นายสิน และเจเน็ต เขียว “แขกรับเชิญ” ของหนังเรื่องนี้

สรุป เอาจริง ๆ แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ได้ใหม่และซับซ้อนมาก เดาทางได้แบบง่าย ๆ และอย่าดูเพื่อหวังความจริงจังแบบดราม่าเข้มข้น แต่ถ้าหวังว่าจะเป็นหนังที่ดูเพื่อความบันเทิง ดูเพื่อผ่อนคลาย ต้องการเสพมุกตลกจำนวนมหาศาล (ซึ่งจะขำหรือไม่ขำก็อีกเรื่องนึงนะ) หรืออยากเข้าไปซึมซับ เรียนรู้ภาษาลาวที่มีความน่าฮัก (และนางเอกลาวที่หน้าสดก็น่าฮักหลาย ๆ) ก็เป็นหนังที่ดูแบบเพลิน ๆ ให้ความบันเทิงแบบบันเทิ๊งบันเทิงพอได้อยู่เหมือนกัน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส