มึงออกไป มึงจะเป็นศิลปินเดี่ยวจะได้หรอวะ ?”

นี่คือความกังขาของ ‘จิรายุทธ ผโลประการ’ หรือ แรปเปอร์หนุ่มนาม ‘URBOYTJ’ (ยัวร์บอยทีเจ) ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขากำลังหมดสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่และกำลังตัดสินใจออกไปผจญภัยบนเส้นทางของตนเอง

จากอดีตสมาชิกวง ‘ทรี.ทู.วัน’ วงพอป-ฮิปฮอปจากค่าย Kamikaze ในเครืออาร์เอส โปรโมชัน มีผลงานที่เป็นที่รู้จักอย่าง “รักต้องเปิด (แน่นอก)” หลังหมดสัญญากับ อาร์เอส เขาได้มาผันตัวเป็นศิลปินเดี่ยวในฐานะแรปเปอร์หนุ่มนาม URBOYTJ มีผลงานซิงเกิลเป็นที่ฮิตติดหูอย่าง “เค้าก่อน”, “คิดดัง”, “Beautiful”, “เอาดีดีดิ”, “รังเกียจกันไหม” และ “วายร้าย” ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ URBOYTJ มากที่สุด

ผลพวงจากการเดินทางบนเส้นทางสายดนตรีของ URBOYTJ ผ่านโอกาส การฝึกฝน และความสิ้นหวัง ผ่านบททดสอบในชีวิตที่หล่อหลอมให้เขาเป็นตัวตนในวันนี้ ผ่านทุกเรื่องราวในชีวิตตลอด 13 ปีในฐานะคนดนตรี ทั้งหมดทั้งมวลได้ถูกหลอมรวมออกมาถ่ายทอดผ่านงานเพลงชุดแรกในชีวิตที่ชื่อว่า ‘SELFMADE’

‘SELFMADE’ คืออัลบั้มที่บรรจุเอาไว้ด้วยตัวตน เรื่องราว ความคิด ประสบการณ์ และ ความรู้สึกในแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิต URBOYTJ ผ่าน 11 บทเพลง (และ 1 Bonus Track) ที่เป็นเสมือนบทบันทึกหรือไอดารีชั้นดีที่มีเสียงดนตรี การร้องและการแรปของ URBOYTJ คอยขับกล่อมเรา งานเพลงชุดนี้ URBOYTJ แต่งเนื้อร้อง ทำนอง และโปรดิวซ์ด้วยตัวเอง โดยมีเพื่อนพ้องน้องพี่ศิลปินทั้งไทยและเทศคอยให้การสนับสนุน เสริมทัพด้วยมือมิกซ์และมาสเตอร์ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินระดับโลก เช่น Justin Bieber, Lady Gaga, Maroon 5, Liam Gallagher, Kanye West หรือว่า BTS อีกทั้งยังมีศิลปินมากมายมาร่วมสร้างสีสันนำโดยพี่ชายสุดเลิฟ  โอ๊ต ปราโมทย์, สาวเสียงสวย วี วิโอเลต, แรปเปอร์รุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง Maiyarap และ กานต์ The Parkinson ที่มอบเสียงร้องสไตล์โซล อาร์ แอนด์ บี (ที่ไม่มี Oh Baby !) ได้อย่างน่าประทับใจ

ก่อนไปฟังอัลบั้มนี้กันแบบเต็ม ๆ อาจลองเข้าไปชมสารคดีเรื่องนี้ที่จะพาคุณไปสัมผัสหลากแง่มุมชีวิตและตัวตนของ URBOYTJ กันก่อนครับ เชื่อว่จะทำให้เราฟังเพลงของเขาได้อย่างมีอรรถรสมากเลยทีเดียว

ชูมือขึ้น

So all the haters can’t stop me now

จะไม่มีใครที่ไหน Hold me down”

เปิดมาด้วยบทเพลงที่มีชื่อว่า ‘ชูมือขึ้น’ กับเนื้อร้องท่อนแรก ‘ชูมือขึ้นแล้วหมุน ๆ ชูมือขึ้นโบกไปมา’ ที่ชวนให้คิดถึงบทเพลงกายบริหารยามเช้าในวัยอนุบาล หากได้เอามาใช้ในวัยที่เข้มข้นไปด้วยมรสุมชีวิตแล้วล่ะก็ คงเป็นเสมือนบทเพลงสดใสในยามเช้าที่ปลุกหัวใจตัวเองให้สดชื่น เข้มแข็ง และพร้อมเผชิญหน้ากับเรื่องต่าง ๆ ที่ดาหน้าเข้ามาในชีวิตแต่ละวัน

ถามคำ

“ถ้าเธอไม่ได้รักกับเขา เราจะได้รักกันไหม”

บทเพลงช้า ๆ เหงา ๆ ในสไตล์เพลงพอปยุค 2000s ที่ให้อารมณ์สว่างใสและเมโลดี้ที่ไพเราะ ซึ่งหากใครฟังงานเพลงในอัลบั้มนี้แล้วรู้สึกว่ามันมีกลิ่นอายของงานเพลงพอปยุค Kamikaze ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะนอกจาก URBOYTJ จะเคยเป็นสมาชิกวง ‘ทรี.ทู.วัน’จากค่ายนี้แล้ว เขาก็ยังเคยแต่งเพลงให้กับเพื่อนร่วมค่าย K-OTIC ด้วย อย่างเพลง ‘ถามคำ’ นี่เมโลดี้ขึ้นมามัน Kamikaze มาก เพราะมันเกิดจากการที่ URBOYTJ ไปปรึกษาพี่เอฟู โปรดิวเซอร์ฝีมือเยี่ยมจาก Kamikzke ที่เคยสอนเขาแต่งเพลงมาตั้งแต่อายุ 15 จึงได้รับคำแนะนำว่าให้ URBOYTJ แต่งเพลงแบบทรี.ทู.วัน เขาจึงขึ้นเพลงด้วยแนวคิดนี้ต่อหน้าพี่เอฟูและพี่แอ้ม ผู้อยู่เบื้องหลังของวงทรี.ทู.วัน เลย

งานดนตรีที่คุ้นหูนั้นส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลง ‘Yesterday One More’ ของวง Carpenter เติมอารมณ์เก่า ๆ ย้อนอดีตวันวานด้วยท่วงทำนองและคอร์ดกับกลองที่เพิ่มความ hiphop ด้วยการทำให้เป็น Lo Fi drum beat

ส่วนเนื้อหาของเพลง URBOYTJ  ก็กลั่นออกมาจากประสบการณ์ส่วนตัวซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ‘เจอมาบ่อย’ เป็นความรู้สึกของการที่เรารักคนที่เค้าไม่ได้รักเรา ต่อให้เค้าไม่ได้มีใครอยู่ข้างๆ เค้าก็ไม่เลือกเราอยู่ดี มันเป็นคำถามที่อยากจะถามคำ แค่นั้นแหละ ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่

อยู่ก่อน (feat. Oat Pramote)

“จะกลับไปเหงาทำไมคนเดียว ฉันว่าเราควรอยู่ด้วยกัน”

บทเพลงอารมณ์ดีขี้เล่นที่ได้พี่ชายคนสนิทอย่าง โอ๊ต ปราโมทย์มาร่วมแจมด้วย หลังจากเคยแจมกันมาแล้วในเพลง ‘เค้าก่อน’ เพลงนี้ URBOYTJ ย้อนยุคไปสมัยที่ชอบฟังงานฮิปฮอป Hip Hop ในสไตล์แบบ Snoop Dogg, Dr.Dre. แล้วขึ้นบีทจนเป็นรูปเป็นร่าง จัดวางดนตรีให้มีลีลาชวนโยกแบบฟังก์กรู๊ฟผสมซาวด์ซินธ์สดใส และวางคอนเซปต์เพลงเป็นอารมณ์ของคนขี้เหงา อยากมีใครมาอยู่ด้วยกัน ไม่อยากให้รีบกลับ

เติมเสน่ห์ในบทเพลงด้วยเนื้อร้องที่มีลีลา เฮฮา กวน ๆ อย่าง “ไม่ชอบเที่ยวกลางคืนอยู่แต่ในคอนโด นั่งอยู่บนโซฟาเล่นแต่ Nintendo ไว้ถ้าคุณมาอยู่ด้วย อยากชวนคุณดู Nemo เปิดแอร์เย็น ๆ แล้วชวนมาดูดปีโป้” ที่ก็แอบแฝงแววทะลึ่งตึงตัง กรุ้มกริ่ม ๆ เอาไว้ด้วย “แบบว่าเธอหน่ะ Sexy ทำผมแทบเลือดออก นี้พูดจริง ๆ นะไม่ได้แค่เพื่อหยอก ถอดไม่ออกเดี๋ยวผมถอดให้ปะ” ซึ่งก็ไม่แปลกเลยที่ได้โอ๊ต ปราโมทย์มาร้อง มันช่างเข้ากันได้ดีเลยจริงจริ้งงง

ช่วยไม่ได้

“เธอใส่ใจคนอยู่เป็นร้อย

คนถูกใจเธออยู่นับพัน

ช่วยไม่ได้ ช่วยไม่ได้ ช่วยไม่ได้

ที่จะรวมฉัน”

เปิดมาด้วยเสียงซินธ์สดใสและไลน์กีตาร์แบบเพนทาโทนิก และเมโลดี้ที่ชวนให้คิดถึงกลิ่นอายของงานดนตรีแบบ Kamikaze อีกแล้ว ยิ่งในท่อนฮุคมีการใช้ไลน์เมโลดี้แบบเพนทาโทนิก ยิ่งทำให้ฟังแล้วคิดถึงเพลง ‘เหงาปาก’ ของ K-OTIC เลย ส่วนเนื้อเพลงก็น่ารักดีเป็นอารมณ์แบบที่เราชอบใครสักคนที่เป็นคนป็อปมีคนมาชอบมากมาย ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นแฟนกับเธอ แต่แค่ขอให้เธออยู่เหงา ๆ ไม่มีใครมาใกล้ มาจีบ หรือมีแฟนเป็นตัวเป็นตน เราก็สบายใจที่จะได้เฝ้ามองเธอแบบนี้ไปนาน ๆ “แค่เธอนะบอกว่าเธอยังเหงา ฉันก็สบายใจ” เพราะเธอจะได้ “อยู่เป็นความหวังของใครต่อใคร ให้ไปนาน ๆ”

กอดได้ไหม

“รู้บ้างไหมว่าฉันโคตรอบอุ่น

ตอนเวลาที่เธอนั้นโอบกอด”

ขึ้นมาด้วยไลน์กีตาร์อะคูสติกเพราะ ๆ กับเพลงเหงา ๆ ที่เล่าความรู้สึกของคนขี้เหงา ขาดความอบอุ่น ที่ต้องการอ้อมกอดจากคนที่เรารัก โดยได้พี่ปู๋ มือกีต้าร์วง 25 Hours มาช่วยเขียนเนื้อร้องด้วยกัน เพลงนี้ URBOYTJ ขึ้นเพลงด้วยการกดกีตาร์ปลอมขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ และเอาเมโลดี้ท่อนฮุคในหัว มาให้พี่โฟร์ 25 Hours ช่วยหาคอร์ดให้ พอได้คอร์ดมาก็เริ่มมาเรียบเรียงทำนองด้วยการร้องเป็นภาษามั่ว ๆ ขึ้นมา และนี่ก็เป็นอีกเพลงที่ URBOYTJ ใช้แรงบันดาลใจจากเพลงพอปยุค 2000s ด้วยความตั้งใจที่จะทำเพลงแบบ “รักไม่ได้หรือไม่ได้รัก” ของ K-OTIC แต่เป็นในเวอร์ชันที่ โตขึ้นมาเป็นในรูปแบบ 2020

ฟังมาถึงเพลงนี้แล้วอาจจะรู้สึกได้ว่าทำไมเพลงของ URBOYTJ นี่ Kamikaze , K-OTIC จัง นั่นก็เพราะเขาเคยทั้งแต่งและร้องไกด์ให้ KOTIC อยู่หลายเพลง และในนั้นก็มีเพลงที่เขาอยากจะเอามาร้องเองซะด้วยซ้ำ มันเลยกลายเป็นคาแรกเตอร์ เป็นความชอบที่ฝังอยู่ข้างใน พอเวลาเริ่มต้นทำเพลงเมื่อใด ฮัมเมโลดี้ออกมาเมื่อใด มันก็จะมีกลิ่นอายบอยแบนด์ กลิ่นอายเพลงพอปยุค 2000s ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

Selfmade (feat. Violette Wautier)

I’m the way I am

Nothing’s gonna bring me down.”

ไตเติลแทร็กอันทรงพลังฟังแล้วขนลุกกับ ‘Selfmade’ ที่เปิดมาด้วยเสียงร้องเพราะ ๆ ของ วี วิโอเลต ผสานกันไปในท่วงทำนองของเปียโนบัลลาดก่อนจะคลี่คลายไปในท่วงทำนองของเพลงแรปผสมอารมณ์ร็อก เป็นเสียงสะท้อนร่ำร้องจากภายในประกาศตนให้เข็มแข็งและก้าวเดินต่อไป ไม่ว่าเราจะเคยเป็นใคร ขอเพียงเชื่อมั่น แก้ไขในสิ่งที่พลาด เสริมส่งในสิ่งที่ดี และก้าวเดินต่อไปด้วยความรักในตนเอง ให้เริ่มต้นด้วยการรักตัวเอง ก่อนที่ใครสักคนจะมารักเรา เสียงของ วี มาเติมเต็มอารมณ์อันเข้มข้นของ URBOYTJ ได้ดีและสมบูรณ์มาก เสียงดนตรีก็เรียบเรียงเสริมส่งอารมณ์ได้กำลังดี ให้อารมณ์เหมือนฟัง Eminem ร้องกับ Rihanna ใน ‘Love The Way You Lie’ เลย

ซุปเปอร์ไซย่า (feat. Maiyarap)

“กูหนะโหดสัสยิ่งกว่าซุปเปอร์ไซย่า

ใครหน้าไหน กูก็จะไม่ไว้หน้า”

เดือดดดด!!! ฟังเพลงซอฟต์ ๆ ใส ๆ มามากแล้วคราวนี้ได้อารมณ์เดือดกันบ้างกับ ‘ซุปเปอร์ไซย่า’ บทเพลงในสไตล์ Trap หนึบหน่วง เบสหนักหนึบ และท่วงทำนองแรปอันเร่าร้อน ผสานความเดือดคู่ระหว่าง URBOYTJ กับ แชมป์ นครินทร์ จรูญวิทยา หรือ Maiyarap เพลงนี้แต่เดิมจะชื่อ ‘เตะหน้ามึง’ แต่ถ้าใช้ชื่อนี้คนเห็นคงตกใจเพราะมันโดดไปจากเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้มพอสมควรเลย  

ลูกเล่นของเพลงนี้คือการเป็นเพลง Trap ในสไตล์ Asian มีกลิ่นอายความเดือดแบบ ยากูซ่าญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ URBOYTJ นึกถึงการ์ตูนเรื่อง Dragon Ball ก็เลยเขียนเนื้อร้องจากแรงบันดาลใจใน Dragon Ball ก็เลยมาหมดทั้งซุปเปอร์ไซย่า พลังคลื่นเต่า แถมยังมีซ่อนเสียงโกคูไว้ข้างหลังด้วยอีกต่างหาก เดือดเลย !

รับให้ได้

ไม่จำเป็นต้องหลอกกัน

เพื่อทำให้ฉันสบายใจ ไปทำตามใจเธอต้องการ”

เพลงรักสไตล์อกหักของคนที่ทรมานจากการที่คนรักต้องแสร้งรักเพื่อให้เราสบายใจทั้ง ๆ ที่ใจไปกับคนอื่นนานแล้ว เป็นเพลงรักอกหักแบบหล่อ ๆ ที่เราพร้อมจะปล่อยเธอไปตามใจต้องการ กับท่วงทำนองสบาย ๆ กับเสียงร้องในสไตล์ออโต้จูน

ยิ่งเกลียดยิ่งรัก

“เธอก็ไม่ได้หลอก เธอแค่ไม่ได้บอก

ไม่ได้ทำอะไรไม่อันตราย

เธอก็แค่ดอก…

ไม้, สวยๆสร้างโลกให้ใสให้สว่าง”

เพลงเศร้า ๆ เหงา ๆ กับเมโลดี้คุ้นหูที่ไม่ว่าท่อนร้องแรก หรือ ท่อนฮุคก็ทำให้คิดถึงเพลงใดเพลงหนึ่งที่เราเคยผ่านหูมาแล้ว เนื้อหาของเพลงพูดถึงความหลงรักหลงใหลในใครสักคนที่เราก็รู้ว่าเธอกำลังหลอกเราอยู่ แต่ไม่รู้ทำไมถึงตัดใจจากเธอไม่ได้สักที ยิ่งเกลียดก็ยิ่งรักไม่เข้าใจ  ชอบเนื้อร้องท่อน “เธอก็ไม่ได้หลอก เธอแค่ไม่ได้บอก ไม่ได้ทำอะไรไม่อันตราย เธอก็แค่ดอก… และมีเว้นวรรคสักนิดนึง ก่อนที่  ไม้ สวย ๆ สร้างโลกให้ใสให้สว่าง จะตามมาทีหลัง มีอารมณ์แอบหลอกด่านิด ๆ

สักวัน (feat. Karn the Parkinson)

“ซักวันฉันจะไม่ต้องนอนร้องไห้

No more cry , through the night”

หนึ่งในแทร็กอันยอดเยี่ยมจากอัลบั้มนี้ ยอดเยี่ยมแรกคือการได้เสียงร้องในสไตล์ โซล อาร์แอนด์บี (ที่ไม่ได้มี Oh Baby!) จาก กานต์ The Parkinson มาสวมใส่ลงไปในบทเพลงได้อย่างเต็มอารมณ์ อีกทั้งยังมาช่วยเขียนเนื้อร้องและทำนองด้วยกันจนออกมากลมกล่อมอิ่มเอม ชอบมาก ๆ ที่ท่อนร้องขึ้นต้นด้วยคำเดียวกันและหาทางไปในเวย์ของมันเช่น ในฮุคจะขึ้นด้วยคำว่า ‘ซักวัน’ ท่อนร้องแรกขึ้นด้วยคำว่า ‘พยายาม’ ท่อนบริดจ์ขึ้นด้วยคำว่า ‘แค่’ เก๋ ๆ ไปเลย  ยอดเยี่ยมที่สองคือการที่เพลงนี้ฟังเพลิน ๆ แล้วเหมือนจะเป็นเพลงรักอกหัก แต่จริงๆ  แล้วสิ่งที่ URBOYTJ อยากจะสื่อออกมาก็คือการข้ามผ่านภาวะ ‘ซึมเศร้า’ ที่รุมเร้าชีวิตและจิตใจของเขานั่นเอง

อย่างในท่อนเปิดที่ร้องว่า ​”ฉันพยายามทำให้เธอมารักกัน แต่สิ่งที่ทำไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันหวังเธอในที่นี้ก็คือคนทั้งโลกที่ URBOYTJ พยายามทำให้พวกเขามาเข้าใจและมารักในตัวตนของเขา แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาได้รู้ก็คือ มันไม่มีทางเป็นไปได้อย่างที่หวังเลยแม้แต่น้อย หลายท่อนในเพลงนี้สื่อถึงความสิ้นหวังในจิตใจไม่ว่าจะเป็น “สักวันที่ตายลงไป ไม่ต้องเสียใจ” หรือในท่อนบริดจ์ที่สองที่ร้องว่า “มันเหนื่อยจนพูดไม่ออกละบอกไม่ได้เว้ย  / มันท้อจนอยากจะพอ ไม่อยากไปต่อเว้ย / Sometimes I feel like I ไม่อยากจะอยู่เว้ย /Sometimes I feel like I… แล้วส่งต่อไปยังเพลงต่อไปนั่นก็คือ ‘หลับตา’ นั่นเอง แถมถ้าฟังดี ๆ ในเพลงนี้จะมีเสียงขึ้นไกปืน ซึ่งเป็นการที่ URBOYTJ ต้องการจะบ่งบอกว่า กูไม่อยากอยู่ละนะ แต่ยังไม่เหนี่ยวไก ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง…

หลับตา

“ที่ทำเป็นเก่งที่จริงก็เป็นได้เพียงไอคนขี้แพ้

แค่อยากที่จะร้องไห้กับใครสักคน”

ส่งต่ออารมณ์ depress มาจากเพลง ‘สักวัน’ เพลงนี้ก็ยังคงอยู่ในอารมณ์เดียวกัน แต่ท่วงทำนองดูเหงาลงมามาก เหมือนเวลาที่เรานั่งขบคิดอะไรไปคนเดียว ทอดอาลัย ส่งสายตาออกไปที่นอกหน้าต่างและคิดในใจว่าตอนนี้เราแม่งโคตรอ่อนแอเลยว่ะ ไม่ไหวจะไปต่อแล้ว เมโลดี้ท่อน verse ชวนให้คิดถึงเพลง Photograph ของ Nickelback ส่วนท่อนฮุคก็คิดถึงเพลงในสไตล์ Kamikaze เหมือนเคย อีกอย่างที่ชอบคือไลน์กีตาร์ในเพลงที่ฟังลื่นหู ลื่นไหลไปกับการร้องและแรปได้ดีทีเดียว แถมยังมีเสียงกรีด ๆ เสียบเข้ามาในท่อนฮุคเหมือนเป็นอารมณ์กดบีบประมาณนึง เพลงนี้ URBOYTJ แต่งขึ้นในวันที่รู้สึกว่าเจอปัญหามากมาย จนรู้สึกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ตอนเวลาน้ำตามันไหลร้องไห้คนเดียว ก็รู้สึกแย่ ไม่มีใครที่จะมาปลอบ เลยเขียนเพลงนี้ขึ้นมาและตั้งใจให้เป็นเพลงที่ represent ความรู้สึกของคน depress และเป็นโรคซึมเศร้า… และในวันนี้ที่เขาได้ผ่านมันมาแล้ว เพลงนี้จึงเป็นเสมือนไดอารีในช่วงเวลาที่เจ็บช้ำและได้ย้ำเตือนให้เห็นถึงชัยชนะในวันนี้

Sad One (Bonus Track)

You say I’m a bad one

But baby I’m a sad one”

โบนัสแทร็กของอัลบั้มนี้ ที่เราเข้าใจว่าเพราะเพลงนี้เป็นเพลงร้องภาษาอังกฤษเพียงเพลงเดียวก็เลยได้สถานะ โบนัสแทร็กไป แต่บอกเลยว่ามันคือหนึ่งเพลงที่สมบูรณ์ดีอิ่มเข้มเต็มอารมณ์ เป็นเสมือนบทสรุปส่งท้ายที่ URBOYTJ ก็ยังยืนในความเป็นตัวตนของเขา ที่ในบางครั้งการใช้ชีวิตแบบร็อกสตาร์ แรปสตาร์ หรือว่าชีวิตในแบบที่เขาเลือกเดิน มันอาจนำมาซึ่งปัญหาวุ่นวายและความไม่เข้าใจจากคนใกล้ ซึ่งเขาเองก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเสียใจ แต่ถ้าหากให้ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองมันก็ไม่ใช่ ดูเผิน ๆ แล้วเราอาจจะเป็นแค่คน bad ๆ แต่จริงๆ  แล้วข้างในมัน sad ๆ ใช่เล่นเลยนะ

 ‘SELFMADE’ เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มน่าฟังประจำปีนี้ เป็นงานเพลงคุณภาพที่กลั่นออกมาจากตัวตนของศิลปินอย่างแท้จริง ก่อนนี้เราอาจจะได้สัมผัสตัวตนและผลงานของ URBOYTJ ต่างกรรมต่างวาระกันไปตามแต่ละซิงเกิลที่ปล่อยออกมา แต่การที่ได้ฟังบทเพลงในอัลบั้ม ‘SELFMADE’ ทั้งอัลบั้มแบบอิ่มเต็มนั้นมันทำให้เราเข้าใจในตัวตนของเขาขึ้นมากเลยทีเดียว และการที่เราได้เข้าถึงอารมณ์ ความคิด ทัศนคติ และความรู้สึกของศิลปินนั่นก็ช่วยให้การเสพงานดนตรีนั้นมีความรื่นรมย์ขึ้นมากเลย และ ณ วินาทีนี้ที่เราได้ฟังอัลบั้มนี้แล้ว เราก็คงเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยตอบความกังขาของ URBOYTJ เมื่อข้างต้นได้เลยว่า ‘คุณเป็นศิลปินเดี่ยวคุณภาพได้อย่างเต็มภาคภูมิเลยล่ะ’

หากได้ฟังอัลบั้มนี้แบบเต็ม ๆ กันแล้วก็สามารถไปรับชม SELFMADE Live Performance กันต่อได้เลยนะครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส