หนึ่งปีครึ่งหลังจากการปะฉะดะกันเรื่องลิขสิทธิ์เพลงระหว่างเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงสาวระดับแพลตตินั่มและผู้จัดการศิลปินตัวแสบ สกูเตอร์ บรอน (Scooter Braun) ที่ได้สิทธิ์ในเพลงทั้ง 6 อัลบั้มแรกของเธอ ไปครอบครอง ล่าสุดได้มีข่าวร้อนอีกครั้งเมื่อ Ithaca Holdings ของบรอนได้ขายลิขสิทธิ์เพลงของสวิฟต์ทั้งหมดให้กับผู้ถือครองรายใหม่ !

เจ้าของลิขสิทธ์เพลงของเทย์เลอร์ สวิฟต์คนใหม่ก็คือ Shamrock Capital ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการลงทุนใน Westwood ที่มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจความบันเทิงโดยเฉพาะ โดยคาดว่า Shamrock น่าจะะทุ่มเงินไปกว่า 450 ล้านดอลลาร์ (ซึ่งมากกว่ายอดเงินที่สกูเตอร์ บรอน ทุ่มซื้อเพลงของสวิฟต์มาจาก Big Machine Records นั่นก็คือ 300 ล้านดอลลาร์) ทำให้ Shamrock ได้สิทธิ์ในมาสเตอร์เพลงของสวิฟต์ ซึ่งไล่ย้อนกลับไปตั้งแต่อัลบั้มแรกในปี 2006 ครอบคลุมทั้งหมด 6 อัลบั้มนั่นก็คือ “Taylor Swift” “ Fearless”“ Speak Now”“ Red”“ 1989” และ “Reputation” นั่นเอง

ก่อนนี้สวิฟต์และทีมของเธอได้พยายามติดต่อกับทางบรอนตลอดเพื่อซื้อเพลงของเธอคืน แต่ทั้งนี้บรอนก็ได้ยื่นข้อเสนอกับเธอว่าหากเธออยากจะได้ลิขสิทธิ์มาสเตอร์ของตัวเองกลับคืนมา เธอจะต้องเซ็นสัญญา NDA หรือ ข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล (Non-Disclosure Agreement) อีกทั้งยังห้ามไม่ให้สวิฟต์พาดพิงอันใดถึงบรอนอีกต่อไป ซึ่งสวิฟต์เองก็ไม่แฮปปี้กับข้อเสนอนี้อีกทั้งยังไม่รู้ว่าบรอนจะขายลิขสิทธ์ให้เธอในราคาเท่าไหร่ เธอจึงต้องขอเซย์บายไปก่อน

เมื่อปีที่แล้วสวิฟต์ได้บรรยายสรรพคุณของบรอนไว้อย่างเจ็บแสบว่า เขาเป็น ‘นิยามของอภิสิทธิ์ความเป็นชายอันเน่าหนอนของวงการเพลง’ และเมื่อเธอรู้ว่าสิทธิ์ในเพลงของเธอตกไปอยู่ในมือของชายคนนี้ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่เรื่องขาวสะอาดหากแต่เป็นการพยายามกลั่นแกล้งเธออย่างไม่หยุดหย่อน และมันได้สะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่ศิลปินผู้เป็นคนสร้างสรรค์บทเพลงด้วยตัวเองก็ยังประสบความลำบากยากเข็นในการถือครองผลงานของตัวเอง

ในตอนแรกนั้นทาง Shamrock ได้เขียนจดหมายมาหาสวิฟต์หลังจากที่ได้ซื้อสิทธิ์ของเพลงไปแล้ว (โดยกล่าวว่าที่ไม่ส่งมาหาเธอก่อนซื้อเพราะโดนบรอนขู่เอาไว้) เพื่อหาความร่วมมือกันระหว่าง Shamrock กับเธอ ซึ่งสวิฟต์ก็ได้ตอบจดหมายกลับไปยังหุ้นส่วนทั้ง 3 ของ Shamrock ได้แก่ Patrick Russo, Jason Sklar และ Laura Held โดยระบุว่าตอนแรกที่เธอรู้ว่าสิทธิ์ในเพลงของเธอมาอยู่ที่เจ้าของรายใหม่นั้นเธอรู้สึก ‘ตื่นเต้น’ ดีใจที่ผลงานของเธอไปอยู่ในมือของคนที่เข้าใจในศิลปะและคุณค่าในผลงานของเธอ แต่เมื่อเธอได้รู้ว่าบรอนกับ Ithaca Holdings จะยังคงได้รับผลประโยชน์จากเพลงของเธออยู่หลังจากขายไปแล้ว เธอจึงรู้สึกผิดหวัง เสียใจ และทำให้ความหวังที่เธอจะได้ร่วมทางกับ Shamrock ต้องดับวูบลงไป

ด้วยเหตุนี้จึงนำมาสู่การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของสวิฟต์ที่จะดำเนินการตามแผนของเธอนั่นคือการบันทึกเพลงทั้งหมดของเธอใหม่อีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านสิทธิ์ โดยที่สวิฟต์เองก็รู้สึกว่าหากเธอทำมาสเตอร์ชุดใหม่แล้วมันจะทำให้เพลงของเธอกลายเป็นสองเวอร์ชันโดยทันที และการที่มีมาสเตอร์สองชุดนั้น ชุดหนึ่งศิลปินผู้แต่งเพลงไม่ได้เป็นเจ้าของมันเลย กับอีกชุดหนึ่งที่ใหม่กว่าและศิลปินได้ทุ่มเททำด้วยใจเพื่อจะเรียกความภาคภูมิใจกลับมา มันอาจส่งผลกระทบต่อคุณค่าของมาสเตอร์ชุดเก่าก็เป็นได้

“ฉันรู้ว่าสิ่งนี้จะลดทอนคุณค่าในมาสเตอร์เก่าของฉัน แต่ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจว่านี่เป็นวิธีเดียวในการฟื้นฟูความรู้สึกภาคภูมิใจที่ฉันเคยมีจากการได้ฟังเพลงทั้งหกอัลบั้มแรกของฉัน … ”

“ฉันต้องการให้ดนตรีของฉันมีชีวิตต่อไป ฉันอยากให้มันอยู่ในภาพยนตร์ ฉันอยากให้มันอยู่ในโฆษณา แต่ฉันจะต้องการสิ่งเหล่านี้เมื่อฉันเป็นเจ้าของมันเท่านั้น”

เรามาให้กำลังใจกับสาวเทย์เลอร์ สวิฟต์กันต่อไป และรอลุ้นกันว่าผลงานที่อัดใหม่ของเธอนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง และตอนนี้ก็มีอีกเรื่องลุ้นนั่นคืออัลบั้มล่าสุดของสวิฟต์ “Folklore” ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยการขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard 200 เป็นเวลา 8 สัปดาห์และกลายเป็นอัลบั้มแรกที่ขายได้ถึงล้านชุดในสหรัฐอเมริกาในปี 2020 ซึ่งได้รับคำชื่นชมอันล้นหลามและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่หลายสาขา เรามารอลุ้นกันว่าอัลบั้มนี้และสาวเทย์จะคว้ารางวัลอะไรไปบ้าง ติดตามผลการประกาศรางวัลได้ในวันที่ 24 พ.ย. นี้ครับ

Source

latimes

variety

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส