[รีวิว] Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใสกับนายจิ้งจอก – คู่หูผจญภัยสไตล์โบรแมนซ์ที่น้ำเยอะไปนิด
Our score
6.2

Release Date

17/12/2020

แนว

แอ็กชัน / แฟนตาซี

ความยาว

2.05 ชม. (125 นาที)

เรตผู้ชม

PG-13

ผู้กำกับ

Haolin Song

[รีวิว] Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใสกับนายจิ้งจอก – คู่หูผจญภัยสไตล์โบรแมนซ์ที่น้ำเยอะไปนิด
Our score
6.2

Soul Snatcher | บัณฑิตหน้าใสกับนายจิ้งจอก | 赤狐书生

จุดเด่น

  1. วางพล็อตพลิกล็อกหักมุมได้ซับซ้อนมาก
  2. งานองค์ประกอบภาพและซีจีอลังการและสวยงามมาก ๆ
  3. เคมีของสองหนุ่มนักแสดงเข้ากันได้โอเคมาก เป็นโบรแมนซ์ไม่ถึงขั้นวาย แต่ก็มีให้จิ้นได้นิดนึง

จุดสังเกต

  1. มีน้ำหรือฉากที่ไม่จำเป็นเยอะมาก เยอะซะจนถ้าตัดออกหนังอาจเหลือไม่ถึงชั่วโมงครึ่ง
  2. องก์แรกนอกจากจะปูเรื่องอธิบายให้น้อยมาก เกือบตามไม่ทัน
  3. สององก์แรกเดินเครื่องช้ามาก กว่าจะรู้สึกสนุกก็เข้าช่วงบู๊ปลาย ๆ เรื่องแล้ว
  4. การตัดต่อบางจังหวะไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ ทำให้การเดินเรื่องแอบสะดุดในบางจังหวะ
  • ความสมบูรณ์ของเนื้อหา

    5.6

  • คุณภาพงานสร้าง

    6.9

  • คุณภาพของบท / เนื้อเรื่อง

    5.7

  • การตัดต่อ / การลำดับ และการดำเนินเรื่อง

    6.6

  • ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

    6.3

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เรื่องย่อ ไป๋ฉีซาน (Li Xian) จิ้งจอกหนุ่ม ได้ถูกมอบหมายภารกิจ ปลอมตัวเป็นชายหนุ่มเพื่อตามหาดวงแก้ววิญญาณเพื่อบรรลุความเป็นอมตะ เขาจึงตัดสินใจเดินทางไปยังโลกมนุษย์ เขาได้พบกับหวังซี่จิน (Chen Li-Nong) บัณฑิตหนุ่มผู้แสนซื่อทำให้เขาทั้ง 2 คนกลายเป็นเพื่อนสนิทที่ต้องมาร่วมผจญภัยไปด้วยกัน แต่ภารกิจนี้มันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่พวกเขาคิด

https://www.youtube.com/watch?v=wZk9Lj-ueWg&list=PLBLgK1qw9Y1UeCAfUy940R8ya3BbNUuIm&ab_channel=MajorGroup

หนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งหนังจีนที่ส่งมาลงโรงฉายในตลาดบ้านเรา และที่สำคัญคือ เริ่มมาเน้นในตลาดโบรแมนซ์กันบ้างแล้ว ซึ่งอันที่จริง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหนังใหญ่สำหรับในบ้านเรา แต่การที่สองนักแสดงนำของหนังเรื่องนี้อย่าง Li Xian (หลี่ เซี่ยน) และ Chen Li-Nong (เฉินลี่หนง) ถือว่าเป็นนักแสดงจีนที่มีแฟนคลับในไทยอยู่เยอะพอสมควรเลยนะครับ เห็นได้ชัดจากตอนที่ได้มีโอกาสไปชมรอบสื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้กับทางค่ายไฟว์สตาร์ ต้องบอกว่า มีแฟนคลับของทั้ง 2 หนุ่มมาร่วมชมกันอย่างคับคั่งเลยทีเดียว

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

‘Soul Snatcher’ หรือในชื่อไทย (ที่ชวนจิ้นซะเหลือเกิน) อย่าง “บัณฑิตหน้าใสกับนายจิ้งจอก” เป็นหนังจีนที่สร้างจากนิยายแฟนตาซีชื่อยาว Spring River In The Flower Moon Night ผลงานของนักเขียนที่ชื่อว่า Duo Duo (ตัวตัว) โดยทีมผู้สร้างเดียวกันกับทีมสร้างภาพยนตร์ Monster Hunt (2015) ที่มีเจ้าอสูรน้อยหัวไชเท้าที่ชื่อน้อง “วูปา” นั่นแหละครับ

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของปีศาจจิ้งจอกสุดกระจอกนามว่า ไป๋ฉีซาน หรือเสี่ยวไป๋ ที่ได้รับภารกิจไปยังโลกมนุษย์เพื่อตามหาดวงแก้วขาวที่อยู่ในตัวมนุษย์ที่บริสุทธิ์ เพื่อที่จะได้อัปเกรดเป็นจิ้งจอกเก้าหางและกลายเป็นเซียนที่มีชีวิตอมตะ ซึ่งเขาต้องปลอมเป็นมนุษย์ และได้ไปพบกับ หวังซี่จิน บัณฑิตหนุ่มหน้ามนผู้ยากไร้ที่อยากเดินทางไปสอบจอหงวนเพื่อจะได้เป็นขุนนาง โดยทั้งคู่จับพลัดจับผลูต้องออกเดินทางผจญภัยเพื่อไปสอบจอหงวนด้วยกัน และต้องเผชิญกับปีศาจมากมายที่คอยเป็นอุปสรรคขัดขวาง และตัวของเสี่ยวไป๋เอง ก็ต้องหาจังหวะช่วงชิงเอาดวงแก้วขาวจากตัวของหวังซี่จินอีกด้วย

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

แน่นอนว่า หลายคนที่เห็นโปสเตอร์มีรูปคู่ ชาย-ชาย แบบนี้ ในยุคที่กระแสวายชวนจิ้นกำลังมาแรง เราย่อมจะคิดถึงความโบรแมนซ์ (Bromance) อย่างแน่นอนซึ่งทั้งคู่นั้นชวนให้จิ้นแบบโบรแมนซ์จริง ๆ นั่นแหละครับ ซึ่งอันนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้ทั้งคู่ในฐานะที่เป็นคู่ดูโอที่สามารถเล่นกันได้อย่างเข้าแข้งเข้าขา เคมีเข้ากันดีมาก ๆ เสี่ยวไป๋ก็เป็นปีศาจจิ้งจอกจำแลงที่มีความแบดบอย และไม่น่าไว้วางใจแฝงอยู่ ส่วนหวังซี่จินก็เป็นหนุ่มเปิ่นซื่อ ๆ แต่จริงใจ

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

แต่ก็ต้องบอกว่า ตัวหนังเรื่องนี้ไม่ได้ถึงกับชวนให้คิดมากอะไรเหมือนอย่างที่หน้าหนังปูไว้ให้ขนาดนั้นนะครับ คือถามว่ามันชวนจิ้นไหม ก็ชวนจิ้นแหละครับ นักแสดงทั้ง 2 คนก็มีความ “พระเอก-นายเอก” อยู่นิด ๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับมีฉากเซอร์วิส หรือมีอะไรที่ล้ำเส้นความเป็นโบรแมนซ์ไปมากกว่านั้น ตัวหนังค่อนข้างเน้นไปที่มิตรภาพความเป็นเพื่อนคู่หูที่รู้ใจ ไปไหนไปกัน และยอมเสียสละให้กันได้อย่างจริงใจเสียมากกว่า

อีกจุดที่ต้องชื่นชมหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมากก็คืองานด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกครับ สิ่งนี้น่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมที่ชมหนังเรื่องนี้ได้ตั้งแต่วินาทีแรกเลย เพราะงานซีจีเนียนกริ๊บมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะเจ้าเสี่ยวไป๋ในร่างสุนัขจิ้งจอกซีจี ที่ต้องบอกว่าทีมงานทำการบ้านมาละเอียดมาก ทำให้นอกจากจะเหมือนจริงแทบทุกกระเบียดนิ้วแล้ว ยังมีความน่ารักน่าชังอีกต่างหาก รวมถึงงานซีจีในจุดอื่น ๆ อีกมากมายหลายร้อยช็อตตลอดเรื่อง ที่ทำได้อย่างปราณีตสวยงามในระดับที่ฮอลลีวูดอาจมีร้อน ๆ หนาว ๆ กันบ้างแหละ

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

ว่ากันเรื่องพล็อต จริง ๆ ผมออกจะชอบพล็อตของหนังเรื่องนี้นะครับ เป็นหนังที่มีครบเครื่องทั้งการผจญภัย มิตรภาพ การพิสูจน์ตัวตน การเสียสละ และมุกฮา ๆ สไตล์จีนที่หลายมุกก็ฮาใช้ได้เลย รวมถึงการที่ทั้งคู่ต้องออกไปผจญภัยกับปีศาจและอุปสรรคต่าง ๆ มากมายที่จริง ๆ ก็ดูได้เพลิน ๆ เลย รวมถึงการวางพล็อตให้มีความพลิกล็อกหักมุมไว้หลายตลบมาก ๆ ซะจนเดาเรื่องไม่ถูก

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

แต่สิ่งที่เป็นจุดสังเกตใหญ่ที่สุดของหนังเรื่องนี้ก็คือ ตัวหนังที่มีน้ำ หรือฉากและเรื่องราวที่ไม่จำเป็นอยู่เยอะมาก แล้วด้วยความที่ตัวหนังมีความยาวตั้ง 2 ชั่วโมง 5 นาที ถ้าตัดน้ำออก แล้วเหลือแต่เนื้อเน้น ๆ หนังเรื่องนี้อาจเหลือราว ๆ ชั่วโมงครึ่งก็ได้ แม้ว่าพล็อตจะสนุกดี แต่การแวะเล่าเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็น แถมยังเล่าเรื่องที่จำเป็นบางฉากด้วยจังหวะที่ไม่กระชับ ทำให้จังหวะตัวหนังในสององก์แรกนั้นอืดสุด ๆ กว่าที่หนังจะกระชับสนุกขึ้น ก็ต้องรอไปจนถึงช่วงปลาย ๆ เรื่องที่มีฉากบู๊ และดราม่าน้ำตาซึมตอนท้าย ๆ เรื่องแล้ว

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

อีกจุดที่หนังค่อนข้างละเลยไปพอสมควรคือการปูเรื่องครับ ตัวหนังมีการออกแบบเรื่องราวของตำนานไว้ละเอียดมาก (ซึ่งเข้าใจว่า เวอร์ชันนิยายคงเขียนไว้ค่อนข้างละเอียด) พอมาเป็นหนัง แอบมีจังหวะที่ตามหนังเกือบไม่ทันเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้าตัวหนังมีการปูเรื่อง อธิบายจุดต่าง ๆ ให้คนดูพอรู้ว่า ทำไมเหล่าปีศาจจิ้งจอกต้องออกมาชุมนุมกัน ดวงแก้วขาวสำคัญต่อปีศาจจิ้งจอกอย่างไร จิ้งจอกเก้าหางกลายเป็นเซียนได้อย่างไร ถ้าเป็นเซียนแล้วจะเกิดอะไรขึ้น หรือการค่อย ๆ เผยปมความไม่น่าไว้วางใจของตัวละครออกมาทีละนิด ฯลฯ น่าจะทำให้สามารถตามหนังได้อินยิ่งขึ้น

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

จริง ๆ ถ้าไม่นับว่าหนังเรื่องนี้มีซีนโบรแมนซ์ให้ชวนจิ้นบ้าง (ถึงไม่เยอะ แต่ด้วยเคมีอะไรบางอย่างก็ชวนให้ฟินได้บ้างแหละน่า) หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เสียหลายอยู่นะครับ เป็นหนังผจญภัยความยาว 2 ชั่วโมงที่อาจจะเดินเครื่องช้าไปสักนิด และน้ำเยอะไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นหนังจีนที่ดูสนุกเพลิดเพลิน ซีจีและงานด้านภาพตระการตา แถมมีมุกฮา ๆ ให้ได้ดู (เสริมความฮาด้วยทีมพากษ์พันธมิตรเข้าไปอีก) เรียกว่าเป็นหนังต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่น่าจะเพลิดเพลินสำหรับคอหนังจีน และคอหนังจิ้นได้อย่างแน่นอนครับ

Soul Snatcher บัณฑิตหน้าใส กับ นายจิ้งจอก

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส